ทีโอที มั่นใจเน็ตชายขอบทันเดดไลน์
ระบุสัญญาจ้างหลังครบเทอม พ.ย.นี้ เป็นอำนาจบอร์ด
ทีโอที ย้ำทำทุกโครงการตามบทบาทหน้าที่เต็มที่เพื่อประชาชน แจงโครงการยูโซ่แล้วเสร็จกว่า 98% เผยอยู่ระหว่าง กสทช ตรวจรับ ส่วนอีก 2% ทีโอทีเร่งประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยันเสร็จทันตามเดดไลน์ “มนต์ชัย” แจงสัญญาจ้างครบเทอมเดือน พ.ย.นี้ เป็นอำนาจบอร์ดตัดสินใจ
นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที เปิดเผยว่าโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ หมู่บ้านในพื้นที่ชายขอบ (Zone C+) หรือโครงการเน็ตชายขอบ ของสำนักงาน กสทช. ซึ่ง ทีโอที ชนะการประมูล ประกอบด้วย การจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Service) ภาคเหนือ (1) การจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) ภาคเหนือ (2) และการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอาคารศูนย์ยูโซ่ เน็ต จำนวน 391 แห่ง โดยในส่วนการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งหมด ทีโอที ดำเนินการไปแล้วกว่า 98% และอยู่ระหว่าง กสทช.ตรวจรับ ส่วนอีก 2% ของโครงการ ทีโอทีอยู่ระหว่างการประสานงานกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องพร้อมจัดทำแผนระยะเวลาการส่งมอบงาน
สำหรับการก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์อาคารศูนย์ยูโซ่ เน็ต จำนวน 391 แห่ง ทีโอทีจะสามารถดำเนินการ ได้ 329 แห่ง ส่วนที่เหลือ 62 แห่ง ทีโอที อยู่ระหว่างการประสานงานกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้ส่งแผนงาน การส่งมอบทั้งหมดแก่ทาง กสทช.เรียบร้อยแล้ว
โครงการ ยูโซ่ เป็นโครงการสำคัญตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลก่อเกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยสร้างโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงบริการต่างๆ ของภาครัฐ และช่วยเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจสังคมของหมู่บ้านในการสร้างทั้งอาชีพ รายได้และการศึกษา ซึ่งคณะกรรมการทีโอที ฝ่ายบริหารทีโอทีได้ติดตามและกำกับดูแลให้การดำเนินการเป็นไปตามที่กำหนดอย่างใกล้ชิด รวมทั้งสนับสนุนทรัพยากรทุกด้านเพื่อให้งานโครงการเน็ตชายขอบสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมาย ที่ผ่านมาคณะกรรมการและฝ่ายบริหารได้กระจายกำลังลงพื้นที่ที่ติดตั้งอาคารศูนย์ยูโซ่ เน็ต ไม่น้อยกว่า 12 ครั้ง รวมกว่า 36 จังหวัด
“ทีโอที ทำทุกโครงการตามบทบาทและหน้าที่เต็มที่ที่ได้รับมอบหมายเต็มประสิทธิภาพทุกโครงการ ที่ผ่านมาไม่เคยนิ่งนอนใจ ในการเร่งติดตั้งและส่งมอบงานตามโครงการมาโดยตลอด เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืน” นายมนต์ชัย กล่าว
นายมนต์ชัย ยังได้ชี้แจงในประเด็นการต่ออายุสัญญาจ้าง ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาจ้าง 15 พ.ย.2562 ระบุว่าปัจจุบันยังไม่ได้รับทราบ หรือการประสานงานในเรื่องการต่ออายุสัญญาจ้างแต่อย่างใด แต่ทาง บมจ.ทีโอที ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์กระทรวงการคลัง เกี่ยวกับเรื่องการจ้างและแต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ผู้บริหารเดิมพ้นจากตำแหน่ง
"ตามขั้นตอนจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน/คณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ในกรณีของผม ใช้ระยะเวลาดำเนินการสรรหาประมาณ 4 เดือน ทั้งต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 กำหนดว่าการจะจ้างผู้บริหารเดิมต่อหลังจากครบกำหนดเวลาตามสัญญาจ้าง เพราะเห็นว่าผู้บริหารเดิมมีผลการทำงานดีมีประสิทธิภาพ และการจ้างผู้บริหารเดิมจะก่อให้เกิดประโยชน์ ให้เสนอต่อผู้มีอำนาจพิจารณาแต่งตั้งได้ โดยไม่ต้องดำเนินกระบวนการสรรหาแต่จะจ้างเกิน 2 คราวติดต่อกันไม่ได้ และผู้บริหารจะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี บริบูรณ์ และหากมีการต่ออายุสัญญาจริงกรณีผมจะต่อได้เพียง 1 ปีกว่าๆ ไม่ใช่ต่อ 4 ปี อย่างที่เป็นข่าว" นายมนต์ชัย กล่าว