“ดีอีเอส”สั่งกสทฯ-ดีป้าปรับทีโออาร์ดิจิทัล พาร์ค ไทยแลนด์

พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัล พาร์ค ไทยแลนด์ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดอีอีซี) เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า ได้เสนอการปรับเงื่อนไขการลงทุน (ทีโออาร์) ในโครงการใหม่แล้ว ได้แก่ 1.ไม่กำหนดกรอบเวลาในการก่อสร้างทั้งเฟส 1 และเฟส 2 แบบตายตัว 2.ส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐที่ต้องมีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น และ 3.ผลักดันให้มีระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงพื้นที่ อาทิ ระบบขนส่งสาธารณะแบบรางเบา เพื่อจูงใจนักลงทุนเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนได้กำหนดเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้สนใจอีกครั้ง หรือมาร์เก็ต ซาวดิ้ง รอบที่ 4 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. และจะพิจารณาแนวทางการปรับปรุงข้อกําหนดต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับได้ กับทั้งภาครัฐและเอกชน และจะนำความเห็นทั้งหมดมาพิจารณาทบทวนและปรับปรุง ซึ่งคาดว่าจะรวบรวมความเห็นและออกร่างสัญญาใหม่ เพื่อให้สามารถเปิดขายซองเทคนิค และเริ่มการประมูลได้ต่อไป

“ความชัดเจนในโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ, อู่ตะเภา หรือไฮสปีดเทรน จะมีส่วนช่วยในการดึงดูดนักลงทุนอย่างมาก ซึ่งสถานีหลักคือ อ.ศรีราชา ที่อยู่ห่างจากพาร์ค 5.6 กิโลเมตร จะมีการสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อได้อย่างไรให้เดินทางสะดวกขึ้น”

ด้านนายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ดอีอีซี มีการรายงานความคืบหน้าโครงการอีอีซีดี และไทยแลนด์ ดิจิทัล วัลเล่ย์ รวมถึงประเด็นการพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ย้ำว่า การพัฒนากำลังคนเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ ไม่เฉพาะในพื้นที่อีอีซี โดยให้เร่งจัดทำแผนปฏิบัติการให้ชัดเจน โดยเฉพาะการประมาณการณ์ความต้องการกำลังคนดิจิทัลที่จะต้องตรงกับความต้องการจริง

“คราวที่แล้วมีเอกชนสนใจซื้อซอง 16 ราย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่กลับไม่มีใครมายื่นซอง เป็นเพราะเงื่อนไขที่ไม่ยืดหยุ่น ตอนนี้เราต้องมาปรับใหม่เพื่อให้เอกชนที่ยังสนใจอยู่ดูว่ายังติดใจตรงไหนอีกหรือไม่ ”

นอกจากนี้ การประชุมบอร์ดอีอีซี ได้มีการรายงานความคืบหน้าของโครงการไทยแลนด์ ดิจิทัล วัลเล่ย์ ด้วย ว่ามีการเริ่มตอกเสาเข็มบนพื้นที่ 30 ไร่ ที่อยู่ติดกับโครงการดิจิทัล พาร์ค แล้ว เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของอาเซียน ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มองว่า โครงการทั้ง 2 คือ ดิจิทัล พาร์ค และ ไทยแลนด์ ดิจิทัล วัลเล่ย์ ควรมีการประชาสัมพันธ์ในลักษณะโรดโชว์ และสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการ เพื่อให้ต่างประเทศเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อดึงนักลงทุนมาประเทศไทยให้ได้