‘วว.-กระบี่’ พึ่งวิทยาศาสตร์ พัฒนาสกินแคร์จากน้ำแร่ท้องถิ่น

‘วว.-กระบี่’ พึ่งวิทยาศาสตร์  พัฒนาสกินแคร์จากน้ำแร่ท้องถิ่น

“เครื่องสำอางจากน้ำแร่ธรรมชาติ” ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมจากความร่วมมือ วว.กับจังหวัดกระบี่ ภายใต้โครงการ 'Thai Cosmetopoeia' นำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ฯ สร้างคุณค่าทรัพยากรธรรมชาติตามอัตลักษณ์ท้องถิ่น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมไทยอย่างยั่งยืน 

โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมไทยด้วยการสร้างสรรค์คุณค่าเครื่องสำอางตามเอกลักษณ์ท้องถิ่น (Thai Cosmetopoeia) โดย วว. ขับเคลื่อนร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา มากกว่า 30 หน่วยงาน มุ่งเน้นการคืนกำไรสู่สังคมอย่างยั่งยืน โดยนำทรัพยากรไปใช้ประโยชน์ ผู้ใช้ประโยชน์จะต้องคืนหรือชดเชยให้กับทรัพยากรหรือสิ่งแวดล้อมที่ใช้ไป เพื่อให้เป็นต้นทุนและสร้างสมดุลอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

157961408713

สินค้าฐานทรัพยากรธรรมชาติ

พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กระบี่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ทางจังหวัดได้กำหนดแผนการพัฒนาการท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่าง อ.คลองท่อม เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวใหม่และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 2 แห่งของโลก 

โดยมีน้ำพุมาจากชั้นใต้ดินตามธรรมชาติ น้ำมีรสเค็มเนื่องจากเกิดจากการผสมกันระหว่างน้ำร้อนกับน้ำทะเลในระดับลึก ถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นประจำชุมชนห้วยน้ำขาว แต่ที่ผ่านมายังขาดเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ทรัพยากรให้เป็นเอกลักษณ์และสร้างชุมชนต้นแบบ 


157961397513

ดังนั้น จังหวัดกระบี่ โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยน้ำขาว และหอการค้าจังหวัด จึงได้ร่วมกับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย หรือ วว. สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำแร่จากแหล่งธรรมชาติดังกล่าว พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต้นแบบจากน้ำพุร้อนเค็ม ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นประจำชุมชนห้วยน้ำขาว 

“เป็นการสร้างโอกาสให้ชุมชนห้วยน้ำขาวได้เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งมีการเชื่องโยงเครือข่ายระหว่างภาครัฐกับเอกชนตามแนวทางประชารัฐ สร้างโอกาสทางการตลาดให้เกิดการกระจายสินค้า ซึ่งจะสามารถผลักดันสินค้าให้เข้าสู่ตลาดระดับบน อีกทั้งในพื้นที่ยังมีการสร้างธรรมนูญในการใช้น้ำพุร้อนเค็มอย่างรู้คุณค่าและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตินี้ให้ยั่งยืนต่อไป” 


วว.เปิดแล็บทดสอบคุณสมบัติ

ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร ได้ดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากน้ำพุร้อนเค็ม โดยใช้วิทยาศาสตร์ ตรวจ วิเคราะห์ ทดสอบและพัฒนาน้ำพุร้อนเค็ม พบว่า น้ำพุร้อนเค็มมีองค์ประกอบของแร่ธาตุที่มีผลดีต่อผิวในด้านการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และให้ความชุ่มชื้นต่อผิว มีคุณสมบัติในการสมานแผลได้ดีกว่าสารสกัดจากว่านหางจระเข้ 

157961400397

ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว วว. จึงนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต้นแบบสำหรับผิวหน้า ในรูปแบบของ สเปรย์น้ำแร่ ซีรัมบำรุงผิว ครีมกันแดด และผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกาย โดยทำการทดสอบประสิทธิภาพและประสิทธิผลด้วยเครื่องมือวิเคราะห์สภาพผิวหน้าสามมิติที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน เช่น VISIA และ ANTERA 3D ทั้งก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ พบว่า ริ้วรอยลดลงและสีผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากน้ำพุร้อนเค็มอย่างชัดเจน

“วว. ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ช่วยผลักดันให้การดำเนินสำเร็จไปด้วยดี สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต้นแบบจากน้ำพุร้อนเค็ม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น โดยนำน้ำพุร้อนเค็มมาใช้ประโยชน์ในเชิงสุขภาพ จึงนับเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่า (Value Creation) กับฐานทรัพยากรธรรมชาติ มีการทำงานแบบจตุภาคี (Quadruple Helix) ตลอดจนช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน”

อีกทั้งหากเกิดการใช้ประโยชน์ในทรัพยากรในท้องถิ่น ก็จะส่งผลต่อการจ้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ ลดการกระจุกตัวของงานในเมือง ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม โครงการฯ จึงส่งผลกระทบเชิงบวกทุกมิติ ตลอดจนตอบโจทย์การขับเคลื่อนประเทศภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างแท้จริง


157961403163