'พาโลอัลโต' ชี้โควิดหนุนลงทุนซิเคียวริตี้
แนะรัฐใช้ดิจิทัลสร้างถนนธุรกิจปูทางเติบโตถึงรากหญ้า
“วิกฤติการณ์ครั้งนี้ทำให้เกิดการประยุกต์ใช้ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ทั้งได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คนให้มีความคุ้นเคย แน่นอนว่าการลงทุนด้านซิเคียวริตี้จะเพิ่มมากขึ้นแน่นอน เฉพาะส่วนของพาโลอัลโตมีลูกค้ากว่า 100 รายในทุกอุตสาหกรรมเข้ามาปรึกษาและสนใจใช้งานระบบ”
เขากล่าวว่า การระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ ต่อองค์กรในการสร้างระบบความปลอดภัยที่รวดเร็วเพื่อรองรับการทำงานจากที่บ้าน การปกป้องข้อมูลของบริษัทจากการคุกคาม และความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องเมื่อทีมงานจะต้องทำงานจากที่บ้าน
จากการสำรวจ The State of Cybersecurity ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย พาโล อัลโต เน็ตเวิร์ค พบว่า เกือบครึ่งหนึ่ง หรือราว 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดคือพนักงานขาดความตระหนักในความปลอดภัยทางโลกไซเบอร์
ข้อมูลระบุด้วยว่า เหล่าผู้ไม่หวังดีอาศัยสถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับเหตุการณ์โควิด-19 โดยจะทำการหลอกล่อให้เหยื่อเปิดไฟล์ที่แนบมาทางอีเมลและลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย (phishing link) โดยการโจมตีนี้ไม่ได้เจาะจงหน่วยงานหรือลูกค้ากลุ่มใดเป็นพิเศษแต่เป็นการโจมตีแบบวงกว้าง
นอกจากนี้ ได้รับรายงานถึงการพบโปรแกรมปลอม(Fake Applications) บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งตัวโปรแกรมจะระบุว่าสามารถอัพเดทสถานการณ์ไวรัสได้ หากถ้ามีใครหลงกลและติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวไปก็จะทำให้แฮกเกอร์สามารถแอบดูข้อมูลบนสมาร์ทโฟน รวมถึงล็อกเครื่องสมาร์ทโฟนเพื่อเรียกค่าไถ่ได้ด้วยเช่นกัน
พร้อมระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการที่หลากหลายเพื่อช่วยเหลือประชาชน สำหรับภาคเอกชนสิ่งที่หวังจะได้เห็นระยะสั้นคือ การบรรเทาปัญหาให้กับคนที่เดือดร้อนและธุรกิจที่ขาดสภาพคล่อง ส่วนระยะกลางและระยะยาวเข้ามาส่งเสริมด้านดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะมาตรการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างถนนธุรกิจโดยมีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อน เชื่อว่าหากทำได้จะเกิดผลดีได้ถึงระดับรากหญ้า