'หุ่นยนต์วัดพลังยูวีซี' เสริมความเชื่อมั่นผู้ใช้
"หุ่นยนต์วัดพลังยูวีซี" สำหรับฆ่าเชื้อโรคซึ่งรวมถึงเชื้อไวรัส เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสู้โควิด-19 จากมหาวิทยาลัยมหิดล ทดแทนการทำงานของมนุษย์ที่มีความเสี่ยงต่อรังสียูวีซี และมีความแม่นยำในเชิงพื้นที่ เพิ่มโมเดลการใช้งานยูวีซีได้หลากหลายขึ้น
จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงและแพร่กระจายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ดังนั้น หน่วยงานรัฐ สถาบันการศึกษา และเอกชนหลายแห่งของไทย จึงระดมสรรพกำลังคิดค้น และประดิษฐ์อุปกรณ์ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ให้กับทีมแพทย์ พยาบาลรวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อรับมือกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้
สำหรับการฆ่าเชื้อบนพื้นผิวมีหลายวิธี นอกเหนือจากการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อพ่นหรือเช็ดบนพื้นผิว การใช้รังสีเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำลายเชื้อที่อยู่บนพื้นผิวได้ โดยรังสีที่นำมาใช้สำหรับฆ่าเชื้อคือ รังสียูวีซี (UVC) รังสียูวีซีนั้นเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความยาวคลื่น 100-280 นาโนเมตร มีความสามารถในการทำลายเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็น แบคทีเรีย ไวรัส ราเส้นใย ยีสต์ เป็นต้น โดยจะทำลายโครงสร้างกรดนิวคลีอิก ซึ่งเป็นองค์ประกอบของดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอของเชื้อโรคที่ความยาวคลื่น 260-265 นาโนเมตร ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่ดีเอ็นเอของเชื้อโรคดูดซับได้ดีที่สุด
“การวัดพลังงานของยูวีซีสำหรับตู้อบขนาดใหญ่ด้วยหุ่นยนต์” ผลงานของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถตอบโจทย์ได้ตรงประเด็นและมีความปลอดภัยกับผู้ใช้งานได้มากที่สุด
เอกชัย วารินศิริรักษ์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบกันในทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ว่า การใช้รังสียูวีซีที่มีความยาวคลื่น 200-280 นาโนเมตร สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงไวรัสบนพื้นผิวที่มีการฉายรังสีลงไปโดยตรง สำหรับสถานการณ์โควิด-19 รังสียูวีซีถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการฆ่าเชื้อ (Disinfection) อย่างหลากหลาย ทั้งการอบฆ่าเชื้อบนหน้ากาก N95 ที่จำเป็นต้องใช้ซ้ำ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อ ด้วยความเข้มของพลังงานที่มีความสามารถในการกำจัดเชื้อไวรัสในระดับ Microorganisms (90%) และ การทำลายเชื้ออย่างสมบูรณ์ (100%)
ดังนั้น ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้นำเสนอการวัดพลังงานของรังสียูวีซีโดยการใช้หุ่นยนต์ติดกับตัวเซ็นเซอร์แล้วใช้โปรแกรมให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปตามพื้นที่ต่างๆ และระยะความห่างต่าง ๆ ของตัวหลอดยูวีซี
“ข้อได้เปรียบของวิธีการนี้ก็คือ เราทดแทนการทำงานของมนุษย์ที่จะมีความเสี่ยงต่อรังสียูวีซีด้วยเครื่องจักรได้ และมีความแม่นยำในการวัดรวมไปถึงมีความละเอียดในเชิงพื้นที่ ผลของการวัดคุณลักษณะของการกระจายตัวของความเข้มยูวีซี จะทำให้อุตสาหกรรมที่สนใจ สามารถทำการติดตั้งหลอดรังสีในบริเวณพื้นที่เป้าหมายสำหรับการฆ่าเชื้อได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงในการสร้างตู้อบในโมเดลใหม่ๆ มีผลประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมในการฆ่าเชื้อ และในวิกฤติต่าง ๆ เพื่อที่จะให้ภาคอุตสาหกรรมนำไปทำเป็นเชิงการค้าได้ หรือนำไปเป็นประโยชน์ในการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ซักล้างไม่ได้ ในหน่วยงานของรัฐและในหน่วยงานเอกชน”
อย่างไรก็ตาม ยูวีซีมีอันตรายต่อเนื้อเยื่อของมนุษย์และดวงตา การทดสอบที่ละเอียดจะทำให้มนุษย์มีความเสี่ยง และเหนื่อยล้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ นำเสนอการใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมทดแทนการทดสอบความเข้มของรังสีด้วยมนุษย์ การโปรแกรมระยะการทดสอบที่แม่นยำ การทดสอบความแตกต่างของความเข้มรังสีเชิงพื้นที่ ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการทำซ้ำที่ดี
ผลการทดสอบนี้สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่สังคมได้ 2 รูปแบบหลัก วิธีแรกคือ วิธีการปรับตั้งหลอดยูวีซีต่อพื้นผิวที่ต้องการฉายรังสี และวิธีที่สองคือ การทดสอบให้อุตสาหกรรมการประกอบตู้ยูวีซี ที่ต้องการประกันคุณภาพของการฆ่าเชื้อ จากการพัฒนาตู้อบโมเดลใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ หรือขนาดของตู้อบ ให้ฆ่าเชื้อบนพื้นผิวที่ใหญ่ขึ้น