ทีโอที ย้ำ 3 เดือน 'ท่อร้อยสาย' เสร็จแน่
เอกชนเผยสนใจเช่าท่อร้อยสายทีโอที แต่ยังห่วงต้นทุนสายสื่อสารเส้นใหม่ที่ต้องลงทุนเพิ่ม คาดมีภาระกว่า 4,000 ล้านบาท อาจเป็นเหตุผลให้ลังเลเดินหน้าโครงการ
ทั้งนี้ราคาค่าเช่าที่ ทีโอที นำเสนอ อยู่ที่ 4,850 บาท ต่อ ซับดักกิโลเมตร ต่อเดือน ซึ่งใน 1 ซับดัก สามารถนำสายสื่อสารร้อยลงไปได้ 2-3 เส้น เป็นราคาที่น่าสนใจ อีกทั้งรัฐมนตรีดีอีเอสและกสทช.เองก็รับปากว่าจะนำเรื่องหักเงินจากกองทุนวิจัยพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือยูโซ่ มาช่วยผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่ากังวลก็คือเรื่องต้นทุนของสายโทรคมนาคม เพราะหากมีการรื้อถอนสายบนดินออก ผู้ประกอบการต้องหาซื้อสายโทรคมเส้นใหม่เพื่อนำลงท่อร้อยสายใต้ดิน ซึ่งต้นทุนตรงนี้อาจสูงถึง 4,000 ล้านบาท จึงอาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผู้ประกอบการอาจจะยังไม่ต้องการมีต้นทุนในการลงดินในครั้งนี้ ขณะที่การไฟฟ้านครหลวงเองก็มีโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินอยู่แล้ว แม้จะยังไม่สามารถทำได้รวดเร็ว เพราะเป็นโครงการระยะยาว 5 ปี ก็ตาม
“ถามว่าตอนนี้การไฟฟ้ายังไม่หักเสาไฟฟ้า เพราะโครงการเขาทำได้ช้า เพราะเป็นสายไฟ แต่เราเร่งเอาสายโทรคมนาคมลง เสาไฟฟ้าก็ยังอยู่ ไม่ได้มีผลต่อทัศนียภาพมากนัก แต่เรากังวลคือกรุงเทพมหานครจะยอมให้ทีโอที เปิดทางเท้าเพื่อนำสายลงใต้ดินหรือไม่โครงการสะดุดหรือเปล่า และผู้ประกอบการรายใหญ่เหมาซื้อและไปปล่อยให้รายย่อยเช่าต่อได้หรือไม่เพื่อเป็นทางเลือก” แหล่งข่าวระบุ
ด้านนายมรกต เธียรมนตรี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่า หลังจากทีโอทีได้พารัฐมนตรีดีอีเอสและกสทช.สำรวจเส้นทางตัวอย่างท่อร้อยสายพร้อมใช้งานในพื้นที่อโศกไปแล้งนั้น ท่อร้อยสายที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีอยู่จริง 12 เส้นทาง ระยะทาง 48.7 กิโลเมตร ก็ได้เริ่มดำเนินการแล้ว คาดว่าภายในไม่เกิน 3 เดือนนี้เสร็จแน่นอน
ส่วนเส้นทางที่เหลือก็ทำการพิสูจน์เพิ่มเติมควบคู่กันไปกับการขออนุญาตกรุงเทพมหานครในการเปิดริมฟุตบาธเพื่อนำสายสื่อสารขึ้นด้านบนเพื่อเชื่อมต่อไปยังอาคารต่างๆ มั่นใจว่า กรุงเทพมหานครจะอนุญาตให้ทำ เพราะทีโอทีไม่ได้ขุดพื้นถนนและทำท่อใหม่แต่อย่างใด ส่วนเรื่องราคานั้น ทีโอที เปิดกว้างให้มีการค้าส่งและค้าปลีก หรือ รายเล็กจะเช่าในราคาเท่าที่ใช้งานได้
อย่างไรก็ตาม ทางด้านกรุงเทพมหานคร ซึ่งมอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ดำเนินโครงการนั้น ก็ได้เปิดหนังสือเชิญชวนผู้สนใจร่วมโครงการอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเปิดราคาค่าบริการ 2 รูปแบบ คือ
1.รูปแบบไมโครดัก รองรับได้สูงสุด ประมาณ 21 ไมโครดัก อัตราค่าเช่า 7,100 บาท/ไมโครดัก/กิโลเมตร/เดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และ 2.รูปแบบ Dark Fiber ในอัตราค่าเช่า 500บาท/คอร์/กิโลเมตร/เดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สามารถทดลองใช้ท่อร้อยสายสื่อสารทั้ง
2 รูปแบบโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถใช้บริการได้จริงและมีอายุการใช้งานมากกว่า 30 ปี คุณภาพดีกว่าท่อ PVC และท่อชนิดอื่นซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าและใช้งานมานาน