เร่งเดินเครื่องสรรหา "กสทช.ชุดใหม่" 14 ส.ค.นี้
วุฒิฯ เก็บตัวแทนกรรมการสรรหาจาก 7 องค์กรเรียบร้อยแล้ว
“ฐากร”ชี้วุฒิสภารวมรายชื่อกรรมการสรรหากสทช.จากองค์กรอิสระเสร็จแล้ว คาด 14 ส.ค.นี้ นับหนึ่งการสรรหา “กสทช.” ชุดใหม่ 7 คน ระบุภายใน 10 ก.ย. เห็นโฉมหน้าบอร์ดใหม่ได้แน่นอน ระบุกระบวนคัดเลือกเป็นตามมติครม.ไปพลางก่อน จนกว่ากฎหมายใหม่ที่อยู่ระหว่างการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการจะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสรรหา กรรมการ กสทช. ว่า วันที่ 14 สิงหาคม 2563 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะมีการประชุมเพื่อเตรียมการกำหนดขั้นตอนการสรรหากรรมการ กสทช. โดยหลังจาก นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้สั่งการให้ทำหนังสือแจ้งไปยัง 7 องค์กร ประกอบด้วย ศาลรัฐธรรมนูญ, ศาลปกครองสูงสุด, ศาลฎีกา, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตช.), สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาและส่งรายชื่อผู้ควรได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา กสทช. มายังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเพื่อพิจารณาคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าในวันที่ 10 ก.ย. 2563 นี้จะได้กสทช.ชุดใหม่
ทั้งนี้ กระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่ง กรรมการ กสทช. เป็นไปตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ โดยใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปพลางก่อน จนกว่าร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการแก้ไข โดยอยู่ในชั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฏร จะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้
สำหรับคุณสมบัติตามมาตรา 6 ให้มีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ “กสทช.” จํานวน 7 คน แต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 7 และมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกิจการกระจายเสียง ด้านกิจการโทรทัศน์ ด้านกิจการโทรคมนาคม ด้านวิศวกรรม ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านการคุ้มครองผู้บริโภค หรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชนด้านละคน คุณสมบัติ คือ มีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ํากว่า 40 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี
โดยผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหา เพื่อเป็นกรรมการต้องมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ 1. เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการพลเรือน พนักงานในหน่วยงานอื่นของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ที่ดํารงตําแหน่งไม่ต่ำกว่ารองหัวหน้าส่วนราชการ ตั้งแต่ระดับกรมขึ้นไป หรือรองหัวหน้าหน่วยงานอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคลหรือรัฐวิสาหกิจ 2. เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตํารวจที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก หรือพันตํารวจเอก อัตราเงินเดือนพันเอกพิเศษ นาวาเอกพิเศษ นาวาอากาศเอกพิเศษ หรือพันตํารวจเอกพิเศษขึ้นไป 3. ดํารงตําแหน่งหรือเคยดํารงตําแหน่งรองศาสตราจารย์ขึ้นไป
4. เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3ปี ในตําแหน่งไม่ต่ํากว่ารองกรรมการผู้จัดการในบริษัทมหาชนจํากัด ที่มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท 5. มีประสบการณ์การทํางานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของ ประชาชนอย่างสม่ําเสมอและต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี 6.มีประสบการณ์ด้านการบริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคมอย่างสม่ําเสมอและต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี