'จิสด้า-คพ.'ดึงเทคโนโลยีอวกาศวางแผนจัดการแวดล้อม
จิสด้าผนึกกรมควบคุมมลพิษ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม ครอลคลุมทั้งคุณภาพอากาศ ฝุ่นละออง ไฟป่า หมอกควันจนถึงขยะ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อการบริหารจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการจิสด้า กล่าวว่า ในปัจจุบัน การนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีดาวเทียม และภูมิสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ อาทิ การจัดการคุณภาพอากาศ ฝุ่นละออง ไฟป่าและหมอกควัน ขยะ การจัดการคุณภาพน้ำ และมลพิษในทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนสนับสนุนภารกิจของทั้งสองฝ่าย โดยบันทึกความร่วมมือฉบับนี้ เป็นการขยายผลการดำเนินงานตามกรอบบันทึกความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ และบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาระบบภูมิสารสนเทศ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือ ทำให้การดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือสามารถบริหารงานไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
ในการลงนามครั้งนี้ จิสด้าสนับสนุนข้อมูลจากดาวเทียมและข้อมูลภูมิสารสนเทศ ในการนำเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีอวกาศ เข้ามาช่วยบริหารจัดการมลพิษ พร้อมทั้งส่งเสริมการดำเนินงานร่วมกันตามภารกิจของหน่วยงานทั้งสอง และสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา แลกเปลี่ยนความรู้ ยกระดับความสามารถของบุคลากร เครื่องมือ นวัตกรรมในการบริหารจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ทั้งภายในและระหว่างประเทศ
ด้าน นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ในด้านของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ข้อมูลเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมากรมควบคุมมลพิษ และจิสด้า ได้ร่วมกันดำเนินงานแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่วิกฤติ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โดยกรมควบคุมมลพิษได้รับการสนับสนุนข้อมูลภูมิสารสนเทศ และความรู้ในการประยุกต์ใช้ข้อมูลดังกล่าวในการวางแผนแก้ไขปัญหามลพิษมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงฯครั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือดังกล่าว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองหน่วยงานจะบูรณาการความร่วมมือในด้านการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป