ดัน 'โลเคชั่นอัจฉริยะ' หนุนค้าปลีก
“อีเอสอาร์ไอ” จัดโซลูชั่นวิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่ แก้เกมตลาดหด
สำหรับ รีเทล โซลูชั่น เพื่อการวิเคราะห์แบ่งออกเป็น 2 โซลูชัน ดังนี้ 1. Market Planning and Site Analysis วิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย เจาะกลุ่มเป้าหมายที่สนใจ เช่น เพศ อายุ อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน พร้อมแสดงผลบนแผนที่ตามค่าความหนาแน่นของจำนวนกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์ทำเลศักยภาพที่ตั้งสาขาจากปัจจัยที่ส่งผลทั้งเชิงบวก เช่น ตำแหน่งลูกค้า สถานีรถไฟฟ้า ที่อยู่อาศัย หรือเชิงลบ เช่น ตำแหน่งคู่แข่ง ตำแหน่งพื้นที่กำจัดขยะ เพิ่มศักยภาพในการเลือกพื้นที่ที่เหมาะกับการตั้งสาขา รวมถึงการปรับ-รวม-ย้ายสาขาไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
2. Trade Area and Zone Planning วิเคราะห์พื้นที่ให้บริการจากตำแหน่งสาขาหรือจุดให้บริการ เช่น กำหนดขอบเขตการให้บริการตามระยะเวลา ทำให้เห็นภาพพื้นที่ที่ครอบคลุม หรือพื้นที่ทับซ้อนกินพื้นที่กันเอง ซึ่งส่งผลกับยอดขายของธุรกิจ สามารถนำมาประกอบการตัดสินใจในการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มตำแหน่งสาขา รูปแบบการให้บริการ หรือเพิ่มบริการดิลิเวอรี่ รวมถึงการเลือกตำแหน่งจุดกระจายสินค้าที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง ตอบโจทย์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
นางสาวธนพร กล่าวต่อว่า จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดันให้ธุรกิจค้าปลีกอีคอมเมิร์ซโตสวนกระแส จากผลสำรวจของไพร์ซซ่า เผยตัวเลขตลาดอีคอมเมิร์ซไทยอาจพุ่งสูงถึง 220,000 ล้านบาท โดยในปี 2563 เติบโตสูงขึ้น 35% จากปีก่อนหน้า และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยน ธุรกิจค้าปลีกเริ่มปรับกลยุทธ์ เพิ่มการขายสินค้าออนไลน์ เพิ่มบริการในรูปแบบดิลิเวอรี่ และบริหารจุดกระจายสินค้าที่เหมาะสมเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้นและลดต้นทุนค่าขนส่ง
พร้อมทั้งเพิ่มจุดให้บริการ self-service ให้ตรงความต้องการของแต่ละสาขา ตามเทรนด์ลูกค้าที่ปรับมาใช้รูปแบบการให้บริการตัวเองมากขึ้น จะเห็นว่าธุรกิจค้าปลีกต้องปรับตัว เปิดรับเทคโนโลยี ใช้ประโยชน์จากโซลูชั่นวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลไม่ว่าจะเป็น สาขา ลูกค้า หรือแม้กระทั่งคู่แข่ง และการมองภาพรวมของสาขาที่มีอยู่และรูปแบบการให้บริการของแต่ละสาขามากยิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจก้าวทันความต้องการของลูกค้า และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ