ส่องอนาคต ’อาร์เอฟไอดี’ โลกธุรกิจ ‘ยุคเรียลไทม์’
โควิด-19 ทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกต้องตื่นตัว
ปฏิวัติการบริหารจัดการสินค้า
เขากล่าวว่า ความต้องการการควบคุมสื่อสารจากระยะไกล และการบริหารจัดการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกต้องตื่นตัว ทั้งชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของการมีเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการขั้นตอนการดำเนินงานในทุกขั้นตอน
ปัจจุบันผู้คนอาจไม่ทราบว่ากิจกรรมในชีวิตประจำวันจำนวนมากล้วนต้องพึ่งพาเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม และตรวจสอบส่วนผสมในอาหารทุกจุดในซัพพลายเชน ตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงร้านขายของชำในพื้นที่อยู่อาศัย การแจ้งเตือนบนโทรศัพท์มือถือเมื่อสินค้า หรือพัสดุมาถึงที่หมายแล้ว เนื่องจากสินค้า หรือพัสดุดังกล่าวถูกทำเครื่องหมายไว้ และติดตามตั้งแต่คลังสินค้าไปจนถึงหน้าประตูบ้าน
สำหรับอนาคตของการนำเอาประสิทธิภาพของธุรกิจมาใช้ให้ได้มากที่สุด อยู่ที่การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าคงคลัง บุคลากร และขั้นตอนความคืบหน้าของงานแต่ละงานอย่างละเอียดถี่ถ้วนแบบเรียลไทม์ ซึ่งเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID) คือคำตอบสำหรับทั้งหมดนี้
อาร์เอฟไอดี ช่วยให้เซ็นเซอร์หลายตัว รวมถึงโซลูชั่นการติดแท็กและการสแกน ยืนยันอุณหภูมิ หรือตำแหน่งที่แน่นอนของบุคลากร อุปกรณ์เครื่องมือการทำงาน และวัสดุในช่วงเวลาที่ต้องการได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันดิสรัปชั่นในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนในฐานะผู้บริโภคได้ด้วย
เชื่อมต่อเรียลไทม์
ผลสำรวจของซีบราเกี่ยวกับดัชนีองค์กรอัจฉริยะในปีที่ผ่านมา (2019 Intelligent Enterprise Index) พบว่า 52% ขององค์กรระดับโลกมีการใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีในระดับหนึ่งอยู่แล้ว และอีก 34% มีแผนจะใช้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ แม้ผู้บริโภคทั่วไปอาจไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดังกล่าวโดยตรง ทว่ามีประโยชน์อย่างมากต่อผู้ผลิต ผู้ประกอบธุรกิจคลังสินค้า และพนักงานขนส่ง ขณะเดียวกันทำให้ธุรกิจ และองค์กรเชื่อมต่อทุกระบบ อุปกรณ์ แท็ก และพนักงานเข้ากันได้
นอกจากนี้ ทำให้ธุรกิจมีความสามารถในการควบคุมทรัพย์สินที่มีค่า บริหารจัดการ พร้อมเชื่อมต่อบุคลากรทุกคน อุปกรณ์ทุกชิ้น รวมถึงชิ้นส่วนสินค้าในคลังได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเหมาะสม ด้านพนักงานสามารถ “ดู” ที่ตั้งของสิ่งของที่ต้องการได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่จำเป็นต้องเดินไปเองให้เสียเวลา
“อาร์เอฟไอดีส่งผลให้ธุรกิจได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงขึ้น เป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเติบโตที่รวดเร็วในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม รวมไปถึงผู้บริโภค ทั้งสามารถนำมาปรับใช้เพื่อทำตามความคาดหวังที่มีอยู่ได้ทั้งในขณะนี้และอนาคต”