ตั้ง "สมศักดิ์ " นั่งรักษาการซีอีโอเอ็นที
รมว.ดีอีเอสมั่นใจผลงานควบรวมประวัติศาสตร์ พร้อมชู เอ็นทีรับภารกิจหนุนดิจิทัลภาครัฐและดูแลความมั่นคง เชื่อมั่นประเทศลดการลงทุนซ้ำซ้อนและประชาชนได้รับประโยชน์เพิ่มชัดเจน
วันนี้ (7 มกราคม 2564) เวลา 10.00 น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานในการเปิดตัวบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที ที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ กสทฯ และบริษัท ทีโอที จำกัด หรือ ทีโอที โดยมีหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและนาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ดำรงตำแหน่งรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่
นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ เป็นอดีตรองปลัดดีอีเอส เคยเป็นอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และเป็นประธานบอร์ดทีโอที
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การควบรวมครั้งนี้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 ที่เห็นชอบให้มีการควบรวมกิจการเป็นบริษัทเดียวภายใน 6 เดือนเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนของภาครัฐ เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนนโยบายของรัฐในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งบริการเพื่อสังคมอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยต่อมาเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติขยายเวลาดำเนินการควบรวมให้อีก 6 เดือน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยเอ็นทียังคงมีฐานะเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีกระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมด
ขณะที่คณะกรรมการบริหารเอ็นที เบื้องต้น จะประกอบด้วย 1.หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร 2.นายอำนวย ปรีมนวงศ์ 3.นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ 4.พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ และ 5.นายจำเริญ โพธิยอด
“ผมมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เอ็นทีมีความแข็งแรง สามารถเป็นกลไกในการผลักดันนโยบายด้านดิจิทัลของภาครัฐในด้านต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่าจากศักยภาพขององค์กรที่ควบรวมทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกันทั้งสินทรัพย์ โครงข่าย เทคโนโลยี บุคลากร ที่มีอยู่ จะสามารถรองรับและมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสิ่งที่ผมยินดีอย่างยิ่งคือการควบรวมในครั้งนี้ เรายังสามารถดูแลพนักงานทุกคนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลต่อกำลังใจและความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อให้บริการได้อย่างเต็มที่” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯกล่าว
ในการควบรวมครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมกับคู่ค้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และลูกค้าเนื่องจาก เอ็นทีจะรับโอนกิจการ สิทธิ หนี้ ความรับผิด และสินทรัพย์ของกสทฯ และ ทีโอทีมาทั้งหมด
น.อ.สมศักดิ์ เปิดเผยว่าศูนย์บริการลูกค้าของเอ็นทีได้มีการเชื่อมโยงระบบของกสทฯและทีโอทีเดิมเพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งฝึกอบรมพนักงานให้เรียนรู้ ส่งต่อ และติดตามงานระหว่างกันได้ นอกจากนี้ยังมีแคมเปญพิเศษโดยมีการแจกซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้กับลูกค้าอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่เดิม นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอ็นทีตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2564 เป็นต้นไป
“ในวันจดทะเบียนและเริ่มดำเนินกิจการเอ็นทีมีศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 500 แห่ง ซึ่งก็คือสำนักงานบริการลูกค้า , แคท ช้อป ศูนย์บริการลูกค้าของกสทฯ และ ทีโอทีทั้งหมด ในเบื้องต้นลูกค้าเดิมของทั้งคู่ สามารถติดต่อใช้บริการต่าง ๆ ได้จากศูนย์บริการลูกค้าของเอ็นทีทุกแห่ง ซึ่งจะมีการระบบในการเชื่อมโยงและส่งต่องานระหว่างกัน นอกจากนี้ได้จัดทำศูนย์บริการต้นแบบจำนวน 12 แห่งที่จะสามารถให้บริการได้แบบเบ็ดเสร็จด้วยการวางระบบและจัดเจ้าหน้าที่ของทั้งสององค์กรให้ปฏิบัติงานร่วมกัน ทั้งนี้ ลูกค้ายังคงสามารถใช้ช่องทางการชำระค่าใช้บริการต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมได้ทั้งหมด”