วว.หนุนอบรมเพิ่มคุณภาพผลิตมะม่วง-บรรจุภัณฑ์ ส่งเสริมเกษตรกรไทย
วว. จัดอบรมการเพิ่มปริมาณคุณภาพผลผลิตมะม่วงนอกฤดู-การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ จังหวัดอุดรธานี พร้อมมอบบรรจุภัณฑ์จำหน่ายมะม่วงออนไลน์จำนวน 5,000 กล่อง เพื่อส่งเสริมการขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายสายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการอบรมเรื่อง “การเพิ่มปริมาณและคุณภาพผลผลิตมะม่วงนอกฤดูและการพัฒนาบรรจุภัณฑ์” พร้อมมอบบรรจุภัณฑ์เพื่อการจำหน่ายมะม่วงออนไลน์ผลงานวิจัย วว. จำนวน 5,000 กล่อง ให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการ อ.หนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกมะม่วงนอกฤดูมากที่สุดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยมีพื้นที่ในการเพาะปลูกจำนวน 22,000 ไร่ มีสมาชิกรวม 150 สวน
เพื่อช่วยส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การจัดกิจกรรมดังกล่าวของ วว. มีวัตถุประสงค์เพื่อนำผลสำเร็จการดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) เข้าไปเสริมความเข้มแข็งให้กับพี่น้องเกษตรกร ผู้ประกอบการ ในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้ได้มาตรฐาน สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างเป็นรูปธรรม ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ณ วิสาหกิจชุมชนคนรักมะม่วง อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. กล่าวว่า วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเพิ่มปริมาณและผลผลิตมะม่วงนอกฤดู ที่สามารถเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้นกว่าเดิม 1-2 เท่า ช่วยแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาด เพิ่มมูลค่าและสามารถส่งออกได้ โดยมีวิธีการ 1.การเพิ่มจำนวนยอดอ่อน 2.การเพิ่มจำนวนการออกดอก และ 3.การเพิ่มการติดผลของมะม่วง โดยเทคนิคการเพิ่มผลผลิตมะม่วงนอกฤดูผลงานวิจัยและพัฒนา วว. หากเกษตรกรนำไปใช้แพร่หลายจะช่วยเพิ่มผลผลิตมะม่วงและสร้างรายได้ที่มั่นคง สร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตรของไทยให้ยั่งยืน
สำหรับบรรจุภัณฑ์เพื่อการจำหน่ายมะม่วงออนไลน์นั้น เป็นผลสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาของ ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย วว. เพื่อรองรับปริมาณผลผลิตมะม่วงล้นตลาดกว่า 20,000 ตัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติของบรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักผลผลิตได้ถึง 5 กิโลกรัมต่อกล่อง รับน้ำหนักการเรียงซ้อนได้ 14 ชั้น ช่วยป้องกันความเสียหายและรักษาคุณภาพของผลิตผล หากกล่องเกิดการยุบตัวในระหว่างการขนส่งและเก็บรักษา นอกจากนี้ยังมีการเจาะช่องระบายอากาศอย่างเหมาะสม เพียงพอต่อการหายใจและคายน้ำของผลมะม่วง
จึงช่วยลดการสะสมความร้อนและความชื้นภายในกล่อง ช่วยให้ยืดอายุการเก็บได้ นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ผลิตจากกระดาษลูกฟูก 5 ชั้น ที่มีการดูดซึมน้ำต่ำ ทำให้รักษาความแข็งแรงของกล่องไว้ได้แม้จะเก็บในห้องเย็นที่มีความชื้นสูง อีกทั้งรูปแบบและขนาดของกล่อง (50 x 30 เซ็นติเมตร) จะช่วยประหยัดพื้นที่ ทั้งเพื่อการเก็บรักษา การขนส่งและขนถ่าย ในส่วนกราฟิกออกแบบกล่องพิมพ์สีเดียว จึงช่วยลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ยังออกแบบให้ใช้กล่องที่มีขนาดมาตรฐานเพียงขนาดเดียว เพื่อบรรจุมะม่วงทุกเกรดที่มีขนาดผลแตกต่างกันได้ เพียงแค่ใช้แผ่นกั้น เพื่อลดการเคลื่อนที่ของผลมะม่วง