‘กลุ่มทรู’ ชู 'มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง' เพิ่มฐานลูกค้า

ล่าสุด เปิดตัวแคมเปญ “ใคร ๆ ก็ใช้ทรู ชีวิตอัจฉริยะที่เหนือกว่า” นำเสนอจุดเด่นที่แตกต่างให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ ทั้งเรื่องของซิม ดีไวซ์ แพ็คเกจราคาพิเศษ พร้อมสิทธิพิเศษจากทรูพอยท์และทรูการ์ด โดยครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดสำคัญที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และทำให้คนที่ยังไม่เคยใช้ทรูตัดสินใจมาใช้บริการ ดีเดย์เริ่มตั้งแต่ 5 เม.ย.เป็นต้นไป

กลุ่มทรูเผยว่า มีแผนลงทุนเน็ตเวิร์ค 5จีอย่างต่อเนื่องภายใต้งบประมาณ 40,000-60,000 ล้านบาทระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2565 ซึ่งปี 2563 ใช้งบประมาณไปแล้ว 20,000 ล้านบาท กลุ่มผู้ใช้หลักของ 5จีคือลูกค้าคอนซูมเมอร์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2.5 แสนเลขหมาย คาดว่าภายในสิ้นปี 2564 จะมีลูกค้าไม่น้อยกว่า 1 ล้านเลขหมาย

ส่วนปีนี้จะมีการลงทุนพัฒนาโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นที่จะได้เห็นคือ การนำไปใช้เพื่อสมาร์ทฟาร์มมิ่ง เวอร์ชวลเน็ตเวิร์คสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ รวมถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น สำหรับการประชุมทางไกล ที่สำคัญทำให้การใช้งานของลูกค้ารวดเร็วมากขึ้น รวมปัจจุบันทรูมีลูกค้าระบบเติมเงิน 20.9 ล้านราย รายเดือน 9.7 ล้านราย

นายโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า ด้วย 7 คลื่นความถี่ที่ถือครอง ทำให้อีโคซิสเต็มของกลุ่มทรูมีความสมบูรณ์ ครอบคลุมกว่า 98% ในกรุงเทพและปริมณฑล และจากนี้จะมีการขยายไปยังต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ครอบคลุมแล้ว 77 จังหวัด ทั้งพื้นที่ชุมชนและที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งบริษัทพร้อมลงทุนต่อตามการใช้งานของลูกค้าที่ขยายตัว

“ระบบนิเวศน์ดิจิทัลที่ครบทำให้กลุ่มทรูสามารถเติมเต็มความต้องการได้ทุกไลฟ์สไตล์ อีกทางหนึ่งสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ทรูร่วมกับพันธมิตรชั้นนำได้ทำให้ลูกค้าใช้บริการทรูเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตนิวนอร์มอล ซึ่งการมาของโควิดผลักดันให้มีการใช้งานดิจิทัลเพย์เมนท์ และดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ ปัจจุบันทรูไอดีมีผู้ใช้งาน 20 ล้านราย เป็นผู้นำ 5จี ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

สำหรับครั้งนี้เป็นนำกลยุทธ์ กลยุทธ์การตลาดแบบ “มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง” มาสร้างการรับรู้ โดยนำเพลงดัง “ฝากเลี้ยง” ที่ยังคงสร้างความอินและสนุกให้กับคนทุกเจนมาจนถึงปัจจุบัน มาเรียบเรียงใหม่ใส่เนื้อร้องใหม่ให้เป็นสไตล์ทรู พร้อม 2 พรีเซ็นเตอร์จาก 2 เจน “เจ-เจตริน วรรธนะสิน” และ “เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน”