'เอสซีจี' ปั้น 'พีพีเมลต์โบลน' รุกผลิตชั้นกรองเชื้อโรค-ฝุ่น หน้ากากอนามัย
'เอสซีจี' เปิดตัว เม็ดพลาสติก "PP Melt-Blown" มาตรฐานสากล รายแรกในอาเซียน หวังใช้ผลิตชั้นกรองเชื้อโรคและฝุ่น PM 2.5 ของหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งเป้าช่วยลดการนำเข้า ส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี เตรียมพร้อมจำหน่ายสู่เชิงพาณิชย์
รายแรกในอาเซียน
ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ และการแพทย์ ล่าสุด เปิดตัว เม็ดพลาสติกมูลค่าเพิ่มสูง “เอสซีจี พีพี เมลต์โบลน” (SCG PP Melt-Blown) มาตรฐานสากล รายแรกในอาเซียน เพื่อใช้ผลิตผ้าเมลต์โบลน (Melt-Blown Fabric) สำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ สามารถผลิตเส้นใยขนาดเล็กได้ถึง 1-5 ไมครอน เพื่อกรองอนุภาคขนาดเล็ก เช่น ฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 95%
ตามมาตรฐานสากล (PFE >95% และ BFE >95%) ผ่านการทดสอบโดยสถาบันชั้นนำ สามารถนำไปผลิตชั้นกรองในหน้ากากอนามัย ช่วยลดการนำเข้า แก้ปัญหาการขาดแคลนวัสดุผลิตหน้ากากอนามัย ให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนเข้าถึงอุปกรณ์การแพทย์ได้ง่ายขึ้น ช่วยส่งเสริมศักยภาพให้กับระบบสาธารณสุข และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมไทย พร้อมจำหน่ายเชิงพาณิชย์ และต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น
ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ
นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี เผยว่า ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและการแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ SDGs ในเป้าหมายที่ 3 ได้แก่ การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเราเล็งเห็นว่าวัสดุพลาสติกเป็นวัสดุทดแทนที่สำคัญ และจำเป็นอย่างมากในการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ สร้างประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมและสังคม ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าเม็ดพลาสติก และอุปกรณ์การแพทย์จากต่างประเทศ ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนเข้าถึงอุปกรณ์การแพทย์ได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น
ในช่วงที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ข้อมูลจาก องค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคส่วนบุคคล (PPE) อย่างหน้ากากอนามัย หรือถุงมือ มีความต้องการสูงขึ้นถึง 100 เท่า ทำให้ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตหน้ากากอนามัย และมีมาตรการจำกัดหรือห้ามการส่งออก เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ ในส่วนของประเทศไทย ข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุว่า ในภาวะปกติความต้องการใช้หน้ากากอนามัยของไทยอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 ล้านชิ้นต่อเดือน แต่จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้น 5 เท่า มีความต้องการประมาณ 200 ล้านชิ้นต่อเดือน
ลดนำเข้าเมลต์โบลน
“จากการสำรวจ พบว่า ประเทศไทยมีความต้องการใช้ผ้าเมลต์โบลน และผ้าสปันบอนด์สำหรับผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์มากกว่า 10,000 ตันต่อปี ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการผลิตเม็ดพลาสติกชนิด พอลิโพรพิลีนเพื่อป้อนอุตสาหกรรมผ้าเมลต์โบลนภายในประเทศ จึงจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลี เป็นต้น ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี จึงได้พัฒนาเม็ดพลาสติกมูลค่าเพิ่มสูง “เอสซีจี พีพี เมลต์โบลน” (SCG PP Melt-Blown) มาตรฐานสากล รายแรกในอาเซียน เพื่อนำไปผลิตผ้าเมลต์โบลน (Melt-Blown Fabric) สำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ เช่น ส่วนชั้นกรองของหน้ากากอนามัย เป็นต้น ด้วยคุณสมบัติที่สามารถนำไปผลิตเส้นใยขนาด 1-5 ไมครอน จึงกรองอนุภาคขนาดเล็ก เช่น ฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 95% ตามมาตรฐานสากล (PFE >95% และ BFE >95%) ซึ่งขณะนี้พร้อมจำหน่ายเชิงพาณิชย์ และพร้อมต่อยอดนวัตกรรมสู่ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคส่วนบุคคล (PPE) และแผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง เป็นต้น” ธนวงษ์ กล่าว
เม็ดพลาสติก SCG PP Melt-Blown ผ่านการทดสอบโดยสถาบันชั้นนำ ขณะนี้กำลังพัฒนาเป็นผ้าเมลต์โบลนร่วมกับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมการแพทย์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์ และผู้บริโภคที่มีวิถีชีวิตแบบ New Normal ใส่ใจสุขอนามัยของตนเองมากขึ้น สวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำเพื่อป้องกันเชื้อโรค รวมถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก เป็นต้น