‘ออราเคิล-เคเอฟซี’ ชู 'คลาวด์' เร่ง 'ทรานส์ฟอร์ม' ปฏิรูปธุรกิจ

นางวัลลภา เปี่ยมนพเก้า ผู้อำนวยการฝ่ายแอพพลิเคชั่น ออราเคิล ประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่ได้เข้าไปพูดคุยกับลูกค้าธุรกิจ ออราเคิลพบว่า ปีนี้องค์กรในประเทศไทยยังคงมีแผนที่จะขยายการลงทุนด้านไอทีอย่างต่อเนื่อง โดยหากเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเชิงบวกจากวิกฤติโควิด-19 ต่างเร่งดำเนินการเพื่อคว้าโอกาสที่เข้ามา ขณะเดียวกันกำลังเตรียมความพร้อมระบบเพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะกลับมาเติบโตภายหลังวิกฤติ ส่วนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเชิงลบยังคงชะลอและรอดูสถานการณ์

นอกจากนี้ พบด้วยว่าการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในไทยมีการขยายตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมาของวิกฤติยิ่งเป็นตัวเร่งให้องค์กรหันมาใช้งาน ด้วยคลาวด์เป็นระบบที่มีความยืดหยุ่น คล่องตัวสูง สามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทางหนึ่งเป็นพื้นฐานที่จะนำไปพัฒนาต่อยอดใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เอไอ

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ตอกย้ำบทบาทของเทคโนโลยีในการสร้างความยืดหยุ่น ความคล่องตัวในการขับเคลื่อนธุรกิจ รวมไปถึงการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ อีกทั้งช่วยพัฒนาธุรกิจนำไปสู่องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากยิ่งขึ้น”

สำหรับกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เช่น บริษัท เรสเทอรองส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ เคเอฟซี ที่สามารถนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการขยายสาขาเพิ่มเติม และเติบโตได้ท่ามกลางวิกฤติ

นายมาโนชญ์ ฉัตรภิบาล ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน เรสเทอรองส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์การบริหารร้านเคเอฟซีกว่า 200 สาขาในไทย กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤติเป็นช่วงเวลาสำคัญของการลงทุน ทว่ารูปแบบของการลงทุนนั้นจะเปลี่ยนไปไม่ใช่แค่การขยายสาขา แต่ยังเน้นด้านระบบต่างๆ ที่จะช่วยในการดำเนินธุรกิจและดูแลลูกค้า

โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นที่รองรับการทำตลาดออนไลน์ การบริการลูกค้า ความร่วมมือกับพันธมิตรฟู้ดดิลิเวอรี การทำงานระยะไกลของพนักงาน รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น ด้านการขยายสาขาจะมีการปรับโฉมไปสู่รูปแบบใหม่ๆ เช่น ภายในเดือนนี้เตรียมนำร่อง “ดิจิทัล แฟลกชิป”เป็นที่แรกที่เอกมัย โดยจะยกบริการทั้งหมดให้ขึ้นมาอยู่บนคลาวด์ทั้งไดร์ฟทรู เมนู และฟู้ดดิลิเวอรี่ ตอบโจทย์พฤติกรรมใหม่ผู้บริโภค

เขากล่าวว่า ระบบคลาวด์ทำให้การบริหารจัดการ รวมถึงขยายสาขาทำได้อย่างยืดหยุ่น สามารถลดระยะเวลาในการปิดงบการเงินได้ทันทีครึ่งต่อครึ่ง จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 30 วันเหลือ 7-10 วัน ใช้เวลาติดตั้งระบบในสาขาใหม่เพียง 10-15 นาที โดยภาพรวมลงทุนด้านเทคโนโลยีของบริษัท เน้นระบบที่มีศักยภาพ รองรับการบริหารจัดการ ขยายสาขา สามารถรักษาความปลอดภัยข้อมูล และได้มองไปถึงระบบอัตโนมัติที่จะมาช่วยยกระดับการทำงานในเฟสต่อๆ ไป