'เทนเซ็นต์' ตั้ง 'ศูนย์ดาต้า' ในไทย หนุน‘คลาวด์’ สะพัด 2.6 หมื่นล.
‘เทนเซ็นต์’ ยักษ์อินเทอร์เน็ตจีน ลุยเปิดอินเทอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สองในไทย เสริมแกร่งโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ รับสมาร์ทโซลูชั่นภาคธุรกิจไทยขยายตัว ปั้นเป็นศูนย์ฯ ที่ีมีระบบประมวลผลทันสมัยที่สุด
‘เทนเซ็นต์’ ยักษ์อินเทอร์เน็ตจีน ลุยเปิดอินเทอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สองในไทย เสริมแกร่งโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ รับสมาร์ทโซลูชั่นภาคธุรกิจไทยขยายตัว ปั้นเป็นศูนย์ฯ ที่ีมีระบบประมวลผลทันสมัยที่สุด พร้อมเปิดเพิ่มอีก 3 แห่งในแฟรงก์เฟิร์ต ฮ่องกง โตเกียว "การ์ทเนอร์" ประเมินใช้จ่ายคลาวด์ในไทยปีนี้ทะลุ 2.6 หมื่นล้าน หลังองค์กรหันใช้ประโยชน์ร่วมเทคโนโลยีอัจฉริยะทั้ง ไอโอที 5จี เอไอ หนุนเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นรวมถึงการใช้จ่ายผ่านระบบปฏิบัติการคลาวด์ที่กำลังเติบโตทั่วโลกกว่า 3.3 แสนล้านดอลลาร์ เทนเซ็นต์ คลาวด์ กลุ่มธุรกิจคลาวด์ภายใต้ เทนเซ็นต์ ประกาศเปิดตัวศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Internet Data Center) แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ แฟรงก์เฟิร์ต และโตเกียว ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการโซนที่สอง และในฮ่องกงเป็นพื้นที่ให้บริการโซนที่สาม การเพิ่มศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จะทำให้เทนเซ็นต์ คลาวด์ ให้บริการได้ทั้งหมด 27 ภูมิภาค และ 66 พื้นที่ให้บริการทั่วโลก ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจยุคใหม่
ข้อมูลจาก Frost & Sullivan พบว่าปี 2563 กว่า 52% ขององค์กรทั่วโลกมีการใช้บริการคลาวด์ และอีก 34% มีแนวโน้มจะเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ภายในสองปีข้างหน้า นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดจากการ์ทเนอร์ ยังคาดว่าจะมีการใช้จ่ายด้านบริการคลาวด์สาธารณะของผู้ใช้งานทั่วโลก เพิ่มขึ้น 23.1% ในปี 2564 เป็น 3.32 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 2.7 แสนล้านดอลลาร์เมื่อปี 2563 แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของอุตสาหกรรมคลาวด์
ขณะภาพรวมในไทย คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายด้านคลาวด์จะนำหน้าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับ 2.6 หมื่นล้านบาท เติบโต 31.7% จากปี 2563 และคาดว่าปี 2565 จะเติบโตขึ้นเป็น 28.2% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 3.4 แสนล้านบาท
เลือก“ไทย”ศูนย์ดาต้าฯแห่งที่ 2
นายชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมคลาวด์ทั่วโลก มีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การปรับใช้ระบบปฏิบัติการคลาวด์ ถือเป็นวาระสำคัญของประเทศ ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital economy) มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการด้านโซลูชันคลาวด์อัจฉริยะขององค์กรต่างๆ เพิ่มขึ้น
เทนเซ็นต์ คลาวด์ เห็นความสำคัญด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของระบบปฏิบัติการคลาวด์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เพื่อส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์คลาวด์ที่หลากหลายขึ้นให้กับลูกค้า รวมถึงเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำที่มีความแข็งแกร่ง ช่วยพัฒนาศักยภาพให้ธุรกิจต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม เน้นอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่นอุตสาหกรรมการผลิต ค้าปลีก สุขภาพ และอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง
“เพื่อให้สามารถรองรับการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำสมัยจากเทนเซ็นต์ คลาวด์ได้เต็มประสิทธิภาพขึ้น เราจึงเปิดศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตในไทยแห่งที่สอง ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ถือเป็นศูนย์ข้อมูลระดับ Tier 3 ตั้งอยู่ในทำเลศูนย์กลางเครือข่ายที่สำคัญใจกลางกรุงเทพฯ มาพร้อมกับกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางระหว่างเกตเวย์ ที่มีความน่าเชื่อถือและคุณภาพสูง ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ทั้งใน และต่างประเทศ”
รองรับเทคฯอัจฉริยะยุคใหม่
นายชาง กล่าวว่า จุดเด่นของศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ คือ ประสิทธิภาพในการประมวลผลข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้น ยืดหยุ่น ที่มาจากการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ผสานกับการทำงานของ Graphics Processing Unit (GPU) ช่วยเพิ่มศักยภาพการประมวลผลต่างๆ และสร้างความยืดหยุ่นในการใช้งาน ซึ่งอุปกรณ์ และเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำมาติดตั้งเพื่อช่วยให้การทำงานดีขึ้น รวดเร็วขึ้น และประหยัดพลังงาน รองรับการให้บริการโซลูชันอัจฉริยะต่างๆ จากเทนเซ็นต์ คลาวด์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ หรือไอโอที ระบบการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) เทคโนโลยีการจดจำตัวอักษร หรือ Optical Character Recognition (OCR) บริการถ่ายทอดวิดีโอไลฟ์ บริการสำหรับการถ่ายทอดไฟล์วิดีโอ ไฟล์เสียงไลฟ์แบบต่อเนื่อง เป็นต้น
การเปิดตัวศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ แฟรงก์เฟิร์ต ฮ่องกง และโตเกียว ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างการเติบโตด้านโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของเทนเซ็นต์ คลาวด์ สะท้อนให้เห็นพัฒนาการที่สำคัญด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจ การขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายปี 2563 เทนเซ็นต์ คลาวด์ ได้เปิดพื้นที่ให้บริการโซนที่สองในเกาหลี ตามด้วยการเปิดตัวศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งแรกในอินโดนีเซีย และพื้นที่ให้บริการโซนที่สามในสิงคโปร์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีกำหนดจะเปิดตัวศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งที่สองในอินโดนีเซีย และแห่งแรกในบาห์เรนภายในสิ้นปีนี้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
มั่นใจตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น
“เทนเซ็นต์ คลาวด์ มั่นใจว่าการขยายศูนย์ข้อมูลแห่งที่สองในประเทศไทย จะช่วยสนับสนุนให้องค์กรทุกขนาดสามารถปรับใช้ระบบปฏิบัติการคลาวด์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถ พร้อมสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับองค์กรต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้จะช่วยยกระดับและผลักดันศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคต” นายชาง กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจของ เทนเซ็นต์ คลาวด์ เน้นนำเสนอ คือ บริการคลาวด์ให้องค์กร และบริษัทต่างๆ ทั่วโลก สามารถผสานการทำงานระบบปฎิบัติการคลาวด์ กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เอไอ และอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ ความปลอดภัย และเทคโนโลยีทันสมัยอื่นๆ เข้ากับบริบทการทำงานของธุรกิจ เพื่อการดำเนินงานที่ตอบโจทย์ในยุคปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน ยังเน้นนำเสนอโซลูชั่นอัจฉริยะที่ครบวงจรสำหรับภาคธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน การศึกษา การแพทย์และสุขภาพ ธุรกิจค้าปลีก ขนส่ง พลังงาน และวิทยุโทรทัศน์
ทั้งนี้ เทนเซ็นต์ วางไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในภูมิภาคนี้ โดยวาง 3 กลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ การพัฒนานวัตกรรม การใช้เอไอและคลาวด์เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การสร้างคอมมูนิตี้ และออริจินัล คอนเทนท์