‘เอปสัน’ เผยไอทีไทยส่งสัญญาณบวก

เขากล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อสร้างผลกระทบอย่างหนักกับทุกวงการธุรกิจ บังคับให้ทุกองค์กรต้องปรับตัวอย่างมาก สำหรับเอปสันได้ปรับกลยุทธ์โดยคำนึงปัจจัยและความเสี่ยงต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือสวัสดิภาพของพนักงานและครอบครัว รวมถึงเหล่าตัวแทนจำหน่าย จึงมีการปรับเปลี่ยนทั้งในรูปแบบการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยและเข้าออฟฟิศเท่าที่จำเป็น

รวมไปถึงกลยุทธ์และช่องทางการขายที่เน้นสื่อออนไลน์มากขึ้น ด้านการสร้างตลาดเน้นโมเดลการให้บริการและตลาดเกิดใหม่เพื่อช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย ไปจนถึงการกำหนดเป้าหมายธุรกิจที่ต้องพิจารณาจากการแพร่ระบาดและการกระจายวัคซีนในแต่ละช่วงเวลา

ส่วนยอดขายโดยรวมของกลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสแรกของบริษัท (เม.ย. – มิ.ย. 2564) มีสัญญาณที่ดีในทุกสินค้า กลุ่มเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับองค์กร (Corporate Printer) มีการเติบโตถึง 125% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน บริษัทจึงคาดว่าจะสามารถปิดยอดขายในไตรมาสแรกนี้เป็นบวกได้แน่นอน ปัจจัยสนับสนุนมาจากการปรับตัวการทำงานในภาคธุรกิจและมาตรการเวิร์คฟรอมโฮม ซึ่งทำให้มีความต้องการใช้งานเครื่องพิมพ์สูงขึ้น อีกทั้งเครื่องพิมพ์สำหรับองค์กรมีราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น

“ตลาดไอทีไทยสามารถเติบโตได้สวนทางวิกฤติ ทั้งกลุ่มคอนซูมเมอร์ที่ได้รับอานิสงส์จากการเวิร์คฟรอมโฮมและเรียนออนไลน์ คาดว่าปีนี้ตลาดรวมจะเติบโตประมาณ 3-5% ขณะที่กลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียลรวมถึงเครื่องพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรมเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลักจากความต้องการใหม่ๆ ของธุรกิจ”

พร้อมระบุว่า หากแผนการกระจายฉีดวัคซีนให้กับประชากร 70% ในสิ้นปีนี้เป็นไปได้ตามที่รัฐบาลกำหนดก็จะช่วยฟื้นความมั่นใจในการลงทุนของภาคเอกชนและการใช้จ่ายของภาครัฐ บวกกับระบบซัพพลายเชนทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เพิ่มโอกาสที่จะเกิดฐานการผลิตและอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศไทย