รู้จัก ‘ดีทั่วดีถึง’ บนคลื่น 700 บทพิสูจน์ดีแทคบนสมรภูมิ 5จี
จับตาเกมโปรโมทคลื่น 700 ของดีแทค บนสมรภูมิ 5จี หลังอัดแคมเปญโฆษณา "ดีทั่วดีถึง" พร้อมย้ำศักยภาพยังมีเหลือเฟือ
ผสาน5จีให้“ดีทั่วดีถึง"
ขณะที่ สมัคร สิมพา ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานพัฒนาโครงข่ายของดีแทค อธิบายเสริมว่า การพัฒนาบริการ 5จีของดีแทคในระยะแรกนี้จะเป็นในรูปแบบ 5จี Non-standalone หรือ NSA กล่าวคือ เป็น 5จี ที่อาศัยอยู่บนระบบโครงข่าย 4จีเดิม ซึ่งการเลือกติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณ 5จีที่สถานีฐานจุดใดนั้น จะพิจารณาจากความหนาแน่นของอุปกรณ์ที่สามารถรับสัญญาณ 5จี เพื่อทดสอบหาค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสม ให้ได้ความเสถียรของสัญญาณที่ให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังใช้กลยุทธ์การจัดการจับคลื่นสัญญาณของกลุ่มลูกค้าแต่ละราย เนื่องจากอุปกรณ์การใช้งานของลูกค้ามีความหลากหลาย บางเครื่องรับสัญญาณ 5จีได้ บางเครื่องรับได้แต่ 4จี
นอกจากนี้ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ดีแทคนั้นได้นำเทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing (DSS) มาใช้ร่วมกับคลื่น 700 ทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานคลื่นเดียวทั้ง 5จีและ 4จีได้โดยไม่ต้องแบ่งแบนด์วิดท์ด้วยประสิทธิภาพเต็มที่สูงสุด ดังนั้นในบางพื้นที่ โทรศัพท์มือถือจะจับสัญญาณที่ดีที่สุดให้เอง ซึ่งอาจจะเป็น 4จี หรือ 5จี ก็ได้
โดยพื้นที่แห่งแรกที่ดีแทคทดลองทดสอบให้บริการ 5จีในเดือนม.ค.ปี 2564 คือบริเวณคลองถม เนื่องจากมีความยากในเชิงเทคนิคหลายประการ มีการใช้งานหนาแน่น ขณะที่ลักษณะทางกายภาพนั้นมีความเป็นตัวแทนของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยตึกสูง รถติด ทำให้คลองถมเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการทดสอบ Mobility Strategy บนบริการ 5จี ของดีแทคเป็นแห่งแรก
5จีตัวแปรเปลี่ยนผ่านเร็วขึ้น
พีระพล ฉัตรอนันทเวช ผู้อำนวยการ แผนกอุปกรณ์สื่อสารของดีแทค กล่าวว่า สำหรับในปัจจุบัน มีโทรศัพท์ทั้งสิ้นจำนวน 60 รุ่น จากทั้งหมด 9 แบรนด์ ในประเทศไทยที่สามารถใช้บริการ 5จี บนคลื่น 700 และจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นสำหรับรุ่นใหม่ๆ อีกมากมายที่จะเปิดตัวในอนาคต
ซึ่งการเปลี่ยนผ่านการสื่อสารแต่ละยุคนั้นใช้เวลาน้อยลงเรื่อยๆ อย่างการเปลี่ยนผ่านจาก 3จีสู่ 4จี นั้นใช้ระยะเวลาทั้งสิ้นราว 5 ปี นับจากโทรศัพท์รุ่นแรกที่รองรับ 4จี ได้เปิดตัว จนถึงรุ่นที่ราคาถูกที่สุดที่รองรับ 4จี ได้ในระดับราคาแมสที่ต่ำกว่า 4,000 บาท ซึ่งกรณีของ 5จี นั้น พีระพลเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านในยุค 5จี NSA จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่ผ่านมาแน่นอน
โดยคาดว่าจะใช้เวลาเพียง 3 ปีครึ่งถึง 4 ปี ซึ่งปัจจัยสำคัญที่เร่งเปลี่ยนผ่านนี้เกิดจากผู้ผลิตมือถือระดับแมส อาทิ Samsung, Oppo, ViVo, Xiaomi และ Realme ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ๆ ซึ่งรองรับการใช้งานบนบริการ 5จี ในราคาที่ต่ำลงมาเรื่อยๆ ซึ่งเชื่อว่าราคาเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 3,000-5,000 บาทต่อเครื่องจะมาในอนาคตนี้