ดีแทค ชี้ สังคมผู้สูงวัย เมกะเทรนด์โลก ไม่ควรมองข้าม

ดีแทค ชี้ สังคมผู้สูงวัย เมกะเทรนด์โลก ไม่ควรมองข้าม

"ดีแทค" ดัน "เน็ตทำกิน" ปั้น "ผู้ประกอบการวัยเก๋า 50+" หนุนเศรษฐกิจสูงวัย ยกระดับทักษะดิจิทัล ให้พึ่งพาตนเองได้ ท่ามกลางสภาวะการเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ เชื่อเศรษฐกิจสูงวัยขับเคลื่อนได้ด้วยองค์ความรู้ด้านดิจิทัลและความพร้อมในการเป็นผู้ประกอบการ

นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “สังคมผู้สูงวัยถือเป็นอีกเมกะเทรนด์หนึ่งของโลกในศตวรรษที่ 21 โดยองค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่า ประชากรผู้สูงวัยโลกที่มีอายุกว่า 65 ปีขึ้นไปจะมีจำนวนกว่า 1,500 ล้านคนในปี 2593  ขณะที่ประเทศไทยจำนวนผู้สูงวัยในตอนนี้สูงถึงประมาณ 20% และจะเพิ่มเป็น 28% ของประชากรทั้งประเทศในปี 2576 โดยในอีก 30 ปีข้างหน้าคาดว่าประชากรกลุ่มเกษียณและเตรียมเกษียณจะมีจำนวนถึง 30 ล้านคน ดังนั้น ถ้าผู้สูงวัยไม่สามารถก้าวทันดิจิทัล พวกเขาจะประสบปัญหาการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ธนาคาร และบริการของภาครัฐ นอกจากนี้ พวกเขายังต้องการทักษะดิจิทัลเพื่อพัฒนาการสร้างรายได้เพิ่ม ดีแทคเน็ตทำกิน จึงมุ่งมั่นที่จะปิดช่องว่างดิจิทัลที่ส่งผลกระทบต่อผู้สูงวัยในประเทศไทย”
 
การก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยของไทยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุขอย่างมาก จากแนวโน้มสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีผู้สูงวัยมากที่สุดเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากสิงคโปร์ ซึ่งปัญหาสำคัญที่ตามมาคือ “ปัญหาภาระพึ่งพิงทางสังคมของผู้สูงวัย” (Social Dependency) โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์ว่าอัตราส่วนพึ่งพิงของผู้สูงวัยต่อวัยแรงงานจะเพิ่มขึ้นจาก 27.7% เป็น 56.2% ในอีก 20 ปีข้างหน้า ดีแทค ชี้ สังคมผู้สูงวัย เมกะเทรนด์โลก ไม่ควรมองข้าม

นายชารัด กล่าวเสริมว่า “ในวาระที่องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้ปี 2564-2573 เป็นทศวรรษแห่งสูงวัยสุขภาวะดี (Decade of Healthy Ageing) ดีแทคในฐานะองค์กรเอกชนและ corporate citizenship ที่มีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์สังคม จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านสังคมสูงวัยยุคดิจิทัลที่แข็งแรงผ่านองค์ความรู้และเทคโนโลยีดิจิทัล การสร้างสังคมดิจิทัลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสดีทั่วดีถึง เพื่อชีวิตเท่าเทียม”

ดีแทคมองว่าดิจิทัลเทคโนโลยีจะเป็นตัวแปรสำคัญ (Key enabler) ที่จะส่งเสริมให้ผู้สูงวัยสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีในบั้นปลายชีวิต สร้างพฤฒพลังให้ผู้สูงวัย ส่งเสริมศักยภาพในการพึ่งพาตนเองของผู้สูงวัย เปลี่ยนจากประชากรผู้มีความเปราะบางสู่ประชากรที่มีคุณค่าและมีความหมายต่อสังคมอย่างยั่งยืน และดีแทคเน็ตทำกิน ภารกิจปั้นผู้ประกอบการวัยเก๋า 50+ ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อตอบโจทย์ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจนี้” นายชารัด กล่าว
 

“โครงการดีแทค เน็ตทำกิน” ในภารกิจปั้นผู้ประกอบการวัยเก๋า 50+ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก 3 องค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และธุรกิจเพื่อสังคมที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาผู้สูงวัย “ยังแฮปปี้” กำหนดจุดมุ่งหมายสำคัญในการสร้างเสริมทักษะและความรู้ในการค้าขายออนไลน์ การแสวงหาโอกาสในการทำธุรกิจดิจิทัล รวมทั้ง การให้ความรู้เพื่อรับมือกับภัยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ให้ผู้สูงวัยด้วย ภายใต้โครงการนี้ ดีแทคจะเป็นพี่เลี้ยง ร่วมเป็นแอดมินเพจ และช่วยแนะนำ แก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการออนไลน์วัยเก๋าหน้าใหม่จนกว่าจะมีความมั่นใจและสานต่อดูแลธุรกิจออนไลน์ของตัวเองได้ ทั้งนี้ ดีแทคและองค์กรพันธมิตรมุ่งหวังที่จะเห็น ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีศักยภาพในการพึ่งพาตนเอง เป็นผู้สูงวัยที่มีพฤฒพลังสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและคุณภาพสังคมที่ดีขึ้น
 
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ดีแทคโดยทีมงานดีแทคเน็ตทำกินจะรับผิดชอบการอบรมการตลาดออนไลน์ ให้บริการพี่เลี้ยงและหาจุดขายให้แก่ผู้สูงวัย ขณะที่ดีป้าให้ความอนุเคราะห์สนับสนุนโครงการและเชื่อมโยงพันธมิตรกับหน่วยงานรัฐอื่นๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยที่มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทยจะทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการและร่วมจัดการอบรมเกี่ยวกับการรับมือกับภายเสี่ยงในโลกออนไลน์ ในส่วนของ ยังแฮปปี้ นั้นจะรับผิดชอบทางด้านการคัดเลือกผู้เข้าอบรม รูปแบบและการบริหารกิจกรรม ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่ลำพัง ต้องการหารายได้เสริม โดยตั้งเป้าอบรมผู้สูงวัยจำนวนทั้งสิ้น 250 คนในระยะแรกนี้