“ทีเคซี” ลั่น 3 ปีผงาดผู้นำดิจิทัลโซลูชั่น จัดทัพบริการรับเทคโนโลยีอนาคต
‘เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส’ ปักธงก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น ครอบคลุมด้านโทรคมนาคม-ระบบสื่อสารข้อมูล ภายใน 3-5 ปี เล็งเสนอขายไอพีโอ 78 ล้านหุ้น จ่อเคาะราคาขายภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเคซี กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญและชำนาญด้านการวางระบบเครือข่ายสื่อสารและเทคโนโลยี ดำเนินธุรกิจให้บริการรับเหมาออกแบบ วางระบบ จัดหาอุปกรณ์ ติดตั้ง ทดสอบ และบำรุงรักษาระบบงานวิศวกรรมในสายงานระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และ ระบบความปลอดภัยสาธารณะ
โดยปัจจุบันเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอนาคตโดยเฉพาะ 5จี ไอโอที และ เอไอ ทั้งนี้ บริษัทให้บริการแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.โครงการรับเหมาแบบเบ็ดเสร็จ ให้บริการรับเหมาออกแบบ วางระบบ จัดหาอุปกรณ์ ติดตั้ง ทดสอบ และบำรุงรักษางานวิศวกรรมในสายงานระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และระบบความปลอดภัยสาธารณะ
2.งานบริการวิศวกรรมและงานบำรุงรักษา ให้บริการงานวิศวกรรมและบริการดูแลบำรุงรักษาระบบของงานโครงการต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ประจำอยู่ที่ 20-25%
และ 3.งานจัดจำหน่ายอุปกรณ์ โดยจัดจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และระบบความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) โดยรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 5 ปี
เขา กล่าวว่า สำหรับโครงสร้างรายได้ในงวด 6 เดือนแรกปี 2564 มาจากงานโครงการมากกว่า 70% รายได้จากงานบริการและบำรุงรักษากว่า 29% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากงานจัดจำหน่าย และสัดส่วนลูกค้าเป็นลูกค้าเอกชน 35-40% และลูกค้าภาครัฐ 60-65% ขณะเดียวกัน
บริษัทมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากที่ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 78 ล้านหุ้น คิดเป็น 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะสามารถสรุปและกำหนดราคาเสนอขายไอพีโอได้ภายในสิ้นเดือน พ.ย.2564
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจในโครงการเกี่ยวข้องกับระบบโทรคมนาคม ระบบโครงข่ายสื่อสัญญาณ ระบบศูนย์ข้อมูลหลักและศูนย์ข้อมูลสำรอง (ดาต้า เซ็นเตอร์) ระบบคลาวด์ ระบบสมาร์ท โซลูชั่นระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัลและระบบตรวจสอบเฝ้าระวังและการบริหารความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงงานบริการและบำรุงรักษาต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จึงเป็นการสนับสนุนและพัฒนาเปลี่ยนแปลงสู่เทคโนโลยี 5จี ตามความต้องการใช้งานทางด้านไอโอที เอไอ ระบบคลาวด์ และโซลูชั่นส์อัจฉริยะต่างๆ เป็นต้น เพื่อรองรับโอกาสเติบโตในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำดิจิทัลโซลูชั่น ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและระบบสื่อสารข้อมูล ภายใน 3-5 ปี” นายสยาม กล่าว
ทางด้านผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561-2563) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,669.65 ล้านบาท 4,907.25 ล้านบาท และ 2,881.92 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 216.50 ล้านบาท 423.03 ล้านบาท และ 232.85 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,374.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 152.62 ล้านบาท