"อินนูลิน" จากแก่นตะวัน สู่อาหารฟังก์ชันลดโรคอ้วน

"อินนูลิน" จากแก่นตะวัน สู่อาหารฟังก์ชันลดโรคอ้วน

ทีมวิจัยคณะแพทย์ฯ และเภสัชฯ จุฬาฯ ผุดนวัตกรรม “อินนูลินจากแก่นตะวัน” รุกสร้างสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ลดโรคอ้วน ขึ้นขบวนจ่อพัฒนาสู่อาหารฟังก์ชันพรีไบโอติกส์ เสริมสุขภาพผู้บริโภคทุกวัย

"โรคอ้วน" หากพูดกันตามความจริงเป็นหนึ่งในโรคที่พบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะใน "เด็ก" ที่อาจไม่ได้มาจากภาวะโภชนาการมากเกิน แต่อาจมาจากการขาดสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ หรือที่รู้จักกันว่า “โรคอ้วนเพราะแบคทีเรียในเด็ก” 


"ซึ่งในกลุ่มคนที่มีโรคอ้วนก็มักพบความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ คือขาดจุลินทรีย์ที่ดีบางชนิดซึ่งจะช่วยให้ร่างกายกักเก็บและเผาผลาญไขมันได้ดี ดังนั้น การแก้ปัญหาโรคอ้วนประเภทนี้จึงทำได้ด้วยการให้ “พรีไบโอติกส์” เพื่อไปเพิ่มจุลินทรีย์ตัวดีและปรับสมดุลร่างกาย" ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (พิเศษ) พญ.ชนนิกานต์ วิสูตรานุกูล อาจารย์ประจำสาขาวิชาโภชนาการ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ เผยถึงแนวคิดเบื้องหลัง “โครงการวิจัยการให้อินนูลินที่สกัดจากแก่นตะวันในเด็กโรคอ้วน” ที่ทำร่วมกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศุภกาญจน์ ชำนิ ภาควิชาเภสัชเวทและเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
 

\"อินนูลิน\" จากแก่นตะวัน สู่อาหารฟังก์ชันลดโรคอ้วน

ผศ. (พิเศษ) พญ.ชนนิกานต์ อธิบายว่า โครงการนี้เป็นโครงการวิจัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเด็กอ้วนที่เป็นอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ 165 คน ที่มีการให้พรีไบโอติกส์ (prebiotics) ในเด็กอ้วน เราให้เด็กดื่มสารสกัดอินนูลินที่ทีมวิจัยพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษจากแก่นตะวัน วันละ 1 ซอง โดยละลายน้ำ ดื่มต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน การวิจัยได้ผลดี ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ของเด็กโรคอ้วนให้เหมือนเด็กปกติ และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ 

แก่นตะวัน ของโปรดจุลินทรีย์ลำไส้
โดยแก่นตะวัน (Jerusalem Artichoke) เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกาเหนือ แต่ด้วยความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศเขตร้อน จึงเป็นที่นิยมปลูกในหลายพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยมีชื่อเรียกต่างๆ กัน อาทิ ทานตะวันหัว มันทานตะวัน และ แห้วบัวตอง เป็นต้น 

ด้าน ผศ.ศุภกาญจน์ ภาควิชาเภสัชเวทและเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ อธิบายคุณสมบัติเด่นของอินนูลินว่า แก่นตะวันจัดเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีปริมาณอินนูลินสูงกว่าพืชชนิดอื่นๆ อินนูลินคือใยอาหารละลายน้ำชนิดฟรุคโต โอลิโกแซคคาไรด์ (Fructo Oligosaccharides) จัดเป็นใยอาหารประเภทพรีไบโอติก อาหารชั้นดีสำหรับจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ หรือ โพรไบไอติกส์ (probiotics) ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมโยงการทำงานไปยังระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น เชื่อมโยงการทำงานไปยังสมองโดยควบคุมความรู้สึกหิว-อิ่ม เชื่อมโยงไปที่ตับและตับอ่อนโดยมีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายให้เหมาะสม ลดการอักเสบของร่างกาย เชื่อมโยงไปที่ตับและเซลล์ไขมันให้มีการสะสมไขมันน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักตัวและมวลไขมันในร่างกายลดลง

\"อินนูลิน\" จากแก่นตะวัน สู่อาหารฟังก์ชันลดโรคอ้วน

ซึ่งปัจจุบัน มีการนำอินนูลินมาใช้เป็นองค์ประกอบในหลายผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริม

 

แต่สำหรับงานวิจัยนี้ ผศ.(พิเศษ)พญ.ชนนิกานต์ กล่าวว่าทีมวิจัยคิดค้นวิธีการสกัดอินนูลินแบบใหม่ที่ยังไม่มีใครทำมาก่อน และได้มีการจดอนุสิทธิบัตรวิธีการสกัดอินนูลินแล้วเมื่อปี 2563


“ในการสกัดอินนูลินจากแก่นตะวัน เราคัดเลือกใยอาหารละลายน้ำชนิดพิเศษ ด้วยวิธีสกัดเฉพาะตัว ที่ยังไม่เคยมีผู้ใดใช้มาก่อน เพื่อให้คงคุณสมบัติการเป็นพรีไบโอทิกส์ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์สุขภาพ ซึ่งทีมวิจัยเน้นศึกษาแก่นตะวันสายพันธุ์ที่เพาะปลูกในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการใช้พืชในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดและส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรไทยด้วย  

จากงานวิจัย “อินนูลินจากแก่นตะวัน” สู่ฟังก์ชันฟู้ดลดน้ำหนัก 
ปัจจุบัน ทีมวิจัยได้ต่อยอดงานวิจัยเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มอินนูลินสูตรออริจินัลและรสโกโก้ เพื่อให้เด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอ้วนดื่มได้ง่ายขึ้น

ซึ่งหากเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักทั่วไปกับอาหารแปรรูปอินนูลินจากแก่นตะวันว่า “ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักมีกลไกควบคุมการทำงานของร่างกายให้อด" จึงทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว เป็นผลในระยะสั้น ไม่ยั่งยืน และอาจมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก แต่ผลิตภัณฑ์ที่สกัดอินนูลินจากแก่นตะวันนั้นจะทำให้รู้สึกอิ่ม กินน้อยลง เส้นใยหรือไฟเบอร์ที่รับประทานเข้าไปจะเคลื่อนที่ไปที่ลำไส้ กลายเป็นอาหารของแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งกลไกการเติบโตของแบคทีเรียจะส่งผลดีต่อสุขภาพในเรื่องการดูแลระดับน้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอล หรือการสร้างภูมิต้านทานโรค

เล็งพัฒนาผลิตภัณฑ์ “อินนูลินจากแก่นตะวัน” สู่ผู้บริโภค
ทั้งนี้สารสกัดอินนูลินที่ทีมวิจัยพัฒนาชึ้นมานั้นเป็นแอคทีฟ อินกรีเดียนส์ (Active ingredients) ซึ่งสามารถนำไปเป็นองค์ประกอบในผลิตภัณฑ์อาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือขนม ทั้งแบบกรอบ นุ่ม หรือ เยลลี เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม

“อินนูลินประยุกต์ได้เยอะ แต่กระบวนการแปรรูปต้องไม่ทำให้ประสิทธิภาพของอินนูลินเสื่อมสลาย ซึ่งตรงนี้ยังเป็นจุดที่ต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมว่าผลิตภัณฑ์อาหารรูปแบบใดที่จะเหมาะกับเส้นใยอินนูลินจากแก่นตะวัน” ผศ.ศุภกาญจน์ กล่าว
 

ขณะนี้ทีมผู้วิจัยกำลังหาความร่วมมือจากภาคเอกชนที่สนใจเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ “อินนูลินจากแก่นตะวัน” เชิงพาณิชย์และวางแผนจำหน่ายสู่ท้องตลาด ซึ่งสิ่งที่ต้องการทำต่อไปคือนำผลงานวิจัยเข้าสู่กระบวนการผลิตที่ได้มาตราฐานสากลรับรอง เพื่อผลิตและจำหน่ายให้ประชาชนได้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง อีกทั้งยังได้ช่วยสนับสนุนเกษตรกรชาวไทยที่ผลิตแก่นตะวันพืชที่อุดมไปด้วยคุณสมบัติที่มีประโยชน์อีกด้วย
 

ซึ่งโครงการวิจัยการให้อินนูลินที่สกัดจากแก่นตะวันในเด็กโรคอ้วน ได้รับรางวัลระดับโลก FISPGHAN Abstract Award for the best oral presentation อันดับที่ 1 และรางวัล Young Investigator Award จากงานประชุม The 6th World Congress of Pediatric Gastroenterology, Hepatology and Nutrition (WCPGHAN 2021) ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย และปัจจุบัน ทีมวิจัยเตรียมต่อยอดผลงานวิจัยเป็นอาหารฟังก์ชันอุดมพรีไบโอติกส์เพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้คนทุกวัย