Meta บูม Metaverse ในไทย หวังเพิ่มมูลค่าศก.ดิจิทัล - เพิ่มครีเอเตอร์ !!
Meta (Facebook) เร่งบูรณาการแอพพลิเคชั่นในเครือ Facebook เข้ากับเทคโนโลยีต่างๆ ภายใต้ชื่อใหม่ของบริษัท ติดสปีดผลักดัน Metaverse (เมตาเวิร์ส) ในไทย สู่การใช้งานในชีวิตจริง เชื่อมผู้คนเข้าหากัน ต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้เติบโต
แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย จาก Meta กล่าวว่า “รู้สึกตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญของบริษัท เมต้าในภาษากรีกมีความหมายว่า beyond คือ ก้าวข้ามไปอีกขั้นของเทคโนโลยี แนวคิดนี้สะท้อนทิศทางที่เรากำลังดำเนินไปและอนาคตที่เรากำลังสร้าง
สิ่งที่เราอยากจะเน้นย้ำ คือ แม้ชื่อบริษัทอาจจะเปลี่ยน แต่พันธกิจของเรายังคงมุ่งเน้นการเชื่อมต่อผู้คนบนประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิม เรามุ่งมั่นในการนำเสนอประสบการณ์บนเมตาเวิร์สเพื่อให้ผู้คนได้เชื่อมต่อกัน ค้นพบชุมชนและสร้างธุรกิจ เมตาเวิร์สจะพลิกโฉมอุตสาหกรรมในอนาคต เราได้เริ่มเห็นตัวอย่างการนำเมตาเวิร์สมาใช้แล้วทั้งในวงการการศึกษา การทำงาน การแพทย์ สุขภาพ (fitness) กีฬา บันเทิงและเกม และสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่เห็นได้ชัดคือ โลกแห่งการค้าและการช้อปปิ้ง เราเชื่อมั่นว่าเมตาเวิร์สจะสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญและสร้างเศรษฐกิจสำหรับครีเอเตอร์ (creator economy) ซึ่งจะก่อให้เกิดการสร้างงานอีกมากในอนาคต”
เธอ เล่าว่า Meta ได้บูรณาการแอพพลิเคชันในเครือของ Facebook เข้ากับเทคโนโลยีต่างๆ ภายใต้ชื่อใหม่ของบริษัท โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นในการผลักดันเมตาเวิร์ส (metaverse) สู่การใช้งานในชีวิตจริง และช่วยเหลือผู้คนในการเชื่อมต่อกัน ค้นหาชุมชน และพัฒนาธุรกิจให้เติบโต
เมตาเวิร์ส เป็นตัวอย่างล่าสุดในการพัฒนาเทคโนโลยีของ Meta เพื่อช่วยเหลือผู้คนในการเชื่อมต่อกัน ค้นหาชุมชน และเติบโตไปด้วยกัน เมื่อ Facebook ได้เปิดตัวขึ้นในปี 2547 ผู้คนได้เปลี่ยนแปลงวิธีการในการเชื่อมต่อ รวมถึงแอปพลิเคชันอย่าง Messenger และ Instagram ก็ได้มอบพลังในการเชื่อมต่อให้กับผู้คนอีกจำนวนหลายพันล้านคนทั่วโลก
"เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เรากำลังใช้เวลาในการวางพื้นฐานของ Social Technology ในอนาคต ประสบการณ์บนแอปพลิเคชั่นหลักของเราจะเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างอีโคซิสเต็มของเมต้าเวิร์สในอนาคต"
เมตาเวิร์ส คือ อะไร
ในจดหมายของผู้ก่อตั้ง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ได้บรรยายถึงวิสัยทัศน์ว่าเมตาเวิร์สจะเป็นยุคต่อไปของการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะมอบประสบการณ์การใช้โซเชียลมีเดียบนโลกออนไลน์ในปัจจุบันในรูปแบบไฮบริด โดยจะเป็นการขยายประสบการณ์สู่รูปแบบสามมิติหรือมีการแสดงภาพสู่โลกแห่งความจริง สิ่งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถแชร์ประสบการณ์โลกเสมือนจริงแก่ผู้อื่นได้แม้ในขณะที่พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน รวมถึงทำกิจกรรมที่ไม่สามารถทำร่วมกันในโลกความจริงได้อีกด้วเมต้าเวิร์สจะเป็นอีกจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่สําคัญมาก ที่จะ transform โลกของเรา
วิสัยทัศน์ของ Meta คือการสร้างประสบการณ์ที่เสมือนจริงมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยความรู้สึกของการมีตัวตนอยู่จริง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเชื่อมต่อและบทสนทนาแก่ผู้คน ราวกับว่าพวกเขากำลังอยู่กับอีกบุคคลหนึ่งหรืออยู่ในพื้นที่อีกแห่งหนึ่ง ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้อยู่ด้วยกันในชีวิตจริง แต่ในเวลาที่เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เทคโนโลยีเมตาเวิร์สจะช่วยให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นราวกับประสบการณ์ได้พบกันในชีวิตจริง
บริษัทต้องการที่จะสร้างเมต้าเวิร์สอย่างมีความรับผิดชอบ นั่นหมายถึง จะมีการลงทุนการทำงานด้านนี้อย่างจริงจัง เช่น
• 10,000 ล้านเหรียญใน Reality Labs ซึ่งเปรียบเสมือนหน่วยพัฒนาเทคโนโลยีของเราโดยเน้นไปที่การสร้างเทคโนโลยีที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากที่สุด
• 50 ล้านดอลลาร์ ในการทำวิจัยและสร้างโครงการระยะเวลา 2 ปี ต่างๆ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐ นักวิชาการ และอุตสาหกรรมเพื่อประเมินความเสี่ยงและพัฒนางานของเราให้ถูกต้องและปลอดภัยตั้งแต่แรกเริ่ม
บริษัทยังได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ผู้คนสร้างประสบการณ์เมตาเวิร์สได้ เช่น Presence Platform ที่จะทำให้การสร้างประสบการณ์โลกความจริงแบบผสมผสาน (Mixed reality experiences) เกิดขึ้นได้บน Quest 2 รวมถึงขั้นต่อไปของบริษัทที่จะใช้ศักยภาพสูงสุดของเมตาเวิร์สในอนาคต รวมถึงการลงทุนกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในโครงการการอบรมแบบครบทุกมิติสำหรับครีเอเตอร์รุ่นใหม่ๆ
เทรนด์ปี 65 ที่น่าจับตา
1 VR / AR
• มีครีเอเตอร์กว่า 600,000 คนที่ใช้เอฟเฟ็กต์ AR มากกว่า 2,500,000 เอฟเฟ็กต์บนแพลทฟอร์มของเรา
• ผู้คนทั่วไปกว่า 700 ล้านคนใช้เอฟเฟ็กต์ AR บน Facebook และผ่านอุปกรณ์ต่างๆ
• ครีเอเตอร์จากเอเชียแปซิฟิกและละติน อเมริกานับเป็นร้อยละ 60 ของผู้ที่ใช้ Spark AR เป็นประจำทุกเดือน
2 Business Messaging
• จากการสำรวจของเราพบว่า 2 ใน 3 ของผู้คนอยากที่จะสื่อสารกับธุรกิจได้ในรูปแบบเดียวกันกับที่พวกเขาคุยกับเพื่อนผ่านการส่งข้อความ
• ผู้คนกว่า 500 ล้านคนมีการส่งข้อความหาธุรกิจทุกๆ วันบนแพลทฟอร์มของเรา
3. Mega Sales Days
• 9/9, 11/11, 12/12 กลายมาเป็นปรากฎการณ์ที่ผู้คนให้ความสนใจมากขึ้นทุกปี
• Mega Sales Day กลายมาเป็นจุดแรกเริ่มของผู้ที่เริ่มต้นการช้อปปิ้งออนไลน์สำหรับเมต้าเวิร์ส ประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบออนไลน์และออฟไลน์จะถูกทำให้มีความเสมือนจริงและเชื่อมต่อกันอย่างเรียบเนียนมากที่สุด
4. Creators
• ครีเอเตอร์จะมีบทบาทสำคัญในเมต้าเวิร์สไม่ว่าจะเป็นการสร้างสินค้าดิจิทัล (Digital Merchandise) การออกแบบงานศิลปะหรือ Digital Experience และ Content
5. Video
• เทรนด์การดูวิดีโอยังคงเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะวิดีโอแบบสั้น
• เราเห็นได้จากความชื่นชอบของคนที่ใช้ Reels โดยนับได้ว่าเป็นเป็นการสร้าง Engagement ที่เติบโตมากที่สุดบน Instagram
• ในเอเชีย เราได้มีการเปิดตัว Reels แล้วใน 10 ประเทศ
• 99 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยรับชมวิดีโอออนไลน์ในแต่ละเดือน
• กลุ่ม Gen Z เป็นกลุ่มผู้ชมที่กำลังเติบโต โดยคิดเป็นสัดส่วน 28 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มผู้ชมทั้งหมด เมื่อเทียบกับกลุ่มมิลเลนเนียล (23 เปอร์เซ็นต์) และกลุ่ม Gen X รวมกับเบบี้บูมเมอร์ (49 เปอร์เซ็นต์)