“Huawei P50 Pro” ไม่ต้องบรรยายอะไร เพราะมันคือ “กล้อง” ที่ใช้แอพพลิเคชั่นได้
ไม่ต้องแบกกล้องอีกต่อไป เพราะ Huawei P50 Pro ถูกพัฒนาให้เป็นมากกว่าสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ แต่มันคือกล้องที่ใช้แอพพลิเคชั่นได้ และทำได้ดีทุกบทบาทด้วย
ในบรรดาค่ายโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่โด่งดังเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี “กล้องถ่ายภาพ” บนสมาร์ทโฟน ชื่อของ Huawei คือเบอร์ต้นๆ ที่หลายคนคารวะในโหมดการถ่ายภาพที่ทรงพลังมาตั้งแต่รุ่น P9 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Huawei P Series ที่คนไทยรู้จักกัน และล่าสุดมือถือเรือธงตระกูล P ได้เดินทางมาจนถึง Huawei P50 เป็นที่เรียบร้อย โดยใน Huawei P50 Series ควงคู่มากันถึงสองรุ่น คือ P50 Pro และ P50 Pocket ที่หน้าตาโดยรวมคล้ายกัน แตกต่างกันหลักๆ ที่ฟีเจอร์การพับของ P50 Pocket
แม้ Huawei P50 Pro จะพับไม่ได้ แต่ความ OG ตามแบบฉบับสมาร์ทโฟนทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นลูกเล่นที่บอดี้ แต่ไปอัดแน่นด้วยขุมพลังที่เป็นจุดขายของมือถือหัวเว่ยตระกูล P มาตั้งแต่ต้น อย่างเรื่องกล้องถ่ายภาพระดับเทพสมกับคอนเซปต์ Legend Reborn
เรื่องกล้อง ไม่ต้องพูดถึง (แต่ก็ต้องพูด)
ก่อนจะเจาะลึกถึงความโหดของกล้องและซอฟต์แวร์ใน Huawei P50 Pro สิ่งแรกที่น่าจะสะดุดตาใครหลายคนคือความงาม หรูหรา เลอค่า ของดีไซน์ตัวเครื่องที่ไม่ว่าจะในสีทอง Cocoa Gold หรือสีดำ Golden Black ที่ใส่ลูกเล่นตัดขอบทองมาอย่างไม่มากไม่น้อย ก็ไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่าเป็นประติมากรรมในรูปแบบสมาร์ทโฟนดีๆ นี่เอง
เมื่อพลิกดูที่ฝาหลังยิ่งตอกย้ำเรื่องงานออกแบบอันร้ายกาจของหัวเว่ย เพราะนอกจากจะทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้สวยลงตัวแล้ว กล้องวงแหวนคู่ที่ทางหัวเว่ยบอกว่าเป็นดีไซน์แบบ Dual-Matrix Camera ซึ่งเล่นกับรูปทรงเรขาคณิตได้อย่างไม่มีที่ติ (ในแง่ดีไซน์) แถมยังมีแนวคิดน่าสนใจด้วยว่า “วงแหวนคู่สะท้อนดีไซน์เสมือน “ดวงตา” ของสมาร์ทโฟน ที่สามารถมองเห็นทุกสิ่งบนโลกใบนี้ได้อย่างคมชัด ไม่ว่าจะเป็นวัตถุหรือเงาสะท้อนบนผิวน้ำ ไปจนถึงการเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกและมองเห็นความหมายได้อย่างลึกซึ้งออกมาจากภาพถ่าย”
มาพูดถึงการใช้งานจริงกันบ้าง สิ่งที่ Huawei นิยามว่าเป็นระบบกล้อง Dual-Matrix Camera นั้นคือกล้องทั้ง 4 ตัวที่เรียงรายอยู่ภายในวงแหวนคู่ มีทั้งกล้องหลัก 50MP True-Chroma Camera (Color) พร้อมเซ็นเซอร์ multi-spectrum colour temperature sensor 10 ระดับ รับแสงได้มากกว่า HUAWEI P40 Pro ถึง 103% เก็บภาพคมชัด ด้วย Super High-res Image Processing Engine ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่สว่างขึ้น คมชัดขึ้น
กล้อง 40MP True-Chroma Camera (Monochrome) ทำหน้าที่ช่วยเก็บรายละเอียดภาพจากกล้องหลักให้ครบสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น, ต่อด้วยกล้อง 64MP Telephoto Camera SuperZoom ถ่ายภาพ Telephoto กับระยะซูมเข้าออกกว้าง 200 เท่า (-0.5x ถึง 100x) ที่มาพร้อมกับระบบกันสั่นแบบ OIS ในตัวกล้องควบคู่กับเทคโนโลยีกันสั่นอัจฉริยะแบบ AIS เพื่อให้ภาพมีความนิ่ง เก็บทุกความเคลื่อนไหวได้คมชัดยิ่งขึ้น
และสุดท้ายคือกล้อง 13 MP Ultra-Wide Angle Camera พร้อมเลนส์ถ่ายภาพมุมกว้าง ที่เก็บภาพได้ 120 องศา พร้อมการถ่ายภาพระยะใกล้เลนส์มาโครระยะห่างจากวัตถุแค่ 2.5 ซม.
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei P50 Pro (ไม่ตกแต่งภาพ)
ในการใช้งานถ่ายภาพทั่วไป ต้องยอมรับว่า Huawei แก้จุดบกพร่องใหญ่ๆ ไปได้เยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาสีเพี้ยนโดยเฉพาะเวลาถ่ายภาพทิวทัศน์ (Landscape) ที่ในตระกูล P รุ่นก่อนๆ มักจะทำให้สีเขียวเพี้ยน ยิ่งเปิด AI ด้วยยิ่งเพี้ยนหนัก แต่กับ P50 Pro ไม่ใช่ เพราะหัวเว่ยแก้ปัญหาสีเพี้ยนมาอย่างเหลือเชื่อ คือใกล้เคียงสีจริงมากถึงมากที่สุด
ในเรื่องความละเอียดก็หายห่วง ถึงสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะไม่ได้ยัดตัวเลข Pixel มาแบบเวอร์วังจนตกใจอย่างมือถือบางรุ่น ทว่าความละเอียดที่ให้มาเรียกว่าเกินพอ ส่วนเรื่องความคมชัดก็จัดเต็มด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการประมวลผลที่เรียกว่า Huawei XD Optics มีหน้าที่เก็บรายละเอียดภาพถ่ายให้คมชัดเต็มศักยภาพ จากการผสานซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เพื่อเก็บรายละเอียดได้ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ได้ภาพสวยสมจริง
ไม่ว่าจะถ่ายภาพอาหาร, สิ่งของ, บุคคล, สถานที่ท่องเที่ยว ในกรณีที่แสงสวย แสงดีอยู่แล้ว รับรองได้เลยว่าแค่โหมดปกติจะเปิดหรือไม่เปิด AI ก็ตาม คุณจะได้ภาพถ่ายที่สวยถูกใจแน่นอนจากสมาร์ทโฟนเครื่องนี้
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei P50 Pro (ไม่ตกแต่งภาพ)
แล้วถ้าแสงน้อยหรือสภาพแสงไม่เป็นใจล่ะ?
นี่คือโจทย์ที่หลายแบรนด์พยายามพัฒนาเรื่องคุณภาพของภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยกันมาตลอด และเป็นอีกปัจจัยที่ถูกนำมาใช้ในการโฆษณาของผู้ผลิต และการตัดสินใจของผู้บริโภค
ต้องบอกว่า Huawei P50 Pro ไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพกลางคืนหรือแสงน้อยได้ดีที่สุด แต่ในฐานะสมาร์ทโฟนเรือธง ความสามารถนี้ถือว่าดีมากๆ และดีในระดับแถวหน้าเมื่อเทียบกับในกลุ่มเดียวกัน ทดลองกันด้วย Night Mode หรือโหมดถ่ายภาพกลางคืน ที่ต้องยกความดีความชอบให้กับเทคโนโลยี XD Fusion Pro Engine ซึ่งหัวเว่ยพัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดการกับสภาพแสงต่างๆ ช่วยให้ภาพที่ออกมาสว่างและคมชัดขึ้น ถึงขนาดว่าใน P50 Pro แม้สภาพแสงน้อยก็เรียก Dynamic Range กลับมาได้อย่างน่าประทับใจ
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี True-Chroma Display อัพเกรดระบบเซ็นเซอร์แสง ปรับสีอัตโนมัติเพื่อให้สีดูสมจริงมากยิ่งขึ้นกว่า 2,000 สี และเทคโนโลยี Super HDR ทำให้สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้รองรับสเปกตรัมแสงได้แทบทั้งหมด นับเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้เซ็นเซอร์ที่ทำงานได้เสมือนดวงตาของมนุษย์ในกระบวนการประมวลสัญญาณภาพ
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei P50 Pro (ไม่ตกแต่งภาพ)
ส่วนการถ่ายวิดีโอก็เป็นอีกความโดดเด่นของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ เริ่มตั้งแต่รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ด้วยโซลูชัน XD Fusion HDR Video รวมทั้งวิดีโอ Time lapse 4K และการถ่ายวิดีโอด้วยเลนส์ Telephoto พร้อมฟังก์ชัน Dual-View Video รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และรองรับการถ่าย Slow Motion แบบ HD
สำหรับสายคอนเทนต์ ก็มีฟีเจอร์ Story Creator มาให้เล่นกันด้วย เป็นการถ่ายวิดีโอจบครบฉับไวในโหมดเดียว พร้อมตัดต่อให้เสร็จสมบูรณ์แบบอัตโนมัติ หรือจะถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าความละเอียด 13MP ที่มาพร้อม True-Chroma Front Camera ภาพมุมกว้าง 100 องศาเซลฟี่แบบกลุ่มได้ครบทุกคน จับภาพใบหน้าได้สมจริงสีสันคมชัด และมี AI ช่วยจัดสรรความลงตัวในภาพให้สมดุลแม้ถ่ายภาพคนจำนวนมาก และยังถ่ายภาพวัตถุที่ระยะใกล้ได้ถึง 14 ซม.
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei P50 Pro (ไม่ตกแต่งภาพ)
ขุมพลังอันทรงพลังใน P50 Pro
ถึงจะเน้นเรื่องกล้อง แต่จะไม่บอกถึงคุณสมบัติอื่นๆ ใน Huawei P50 Pro ก็คงไม่ได้ เพราะความเป็นสมาร์ทโฟนเรือธง จึงไม่ได้เน้นแค่กล้องแล้วจบไป แต่ในทุกรายละเอียดคือความประณีตและ “เล่นใหญ่”
เริ่มตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ EMUI 12 เป็นการยกระดับให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว ไม่ซับซ้อน คนที่เพิ่งได้สัมผัสก็ใช้ได้คล่องแคล่วในเวลาไม่นาน หรือถ้าหากใครอยู่ใน Huawei Eco System อยู่แล้ว การแชร์ไฟล์ ภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลต่างๆ ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ของหัวเว่ยก็สะดวกสุดๆ ด้วย Huawei Share เพียงแค่แตะก็เชื่อมต่อได้อย่างไร้รอยต่อ
อีกส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ หน้าจอหน้าจอ OLED กว้าง 6.6 นิ้ว ขอบโค้งมนแบบ 3D หน้าจอใช้งานลื่นไหลและรวดเร็วทันใจด้วยค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz และค่า Touch Sampling Rate 300 Hz รองรับการแสดงผล 1.07 พันล้านสี
สำหรับตัวเครื่องนั้นบางเพียง 8.5 มม. น้ำหนักเบาเพียง 195 กรัม มีมาตรฐานป้องกันละอองฝุ่นและละอองน้ำอยู่ที่ IP68 จึงใช้ได้อย่างสบายใจ
นอกจากนี้สำหรับสายเอนเตอร์เทนเมนต์ HUAWEI P50 Pro มาพร้อมลำโพงคู่แบบสเตอริโอและเอฟเฟกต์เสียง HUAWEI Histen ที่พัฒนาขึ้นโดยหัวเว่ยเอง ช่วยให้ถ่ายทอดทุกย่านเสียงสมจริงไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง หรือฟังเพลง
ส่วนเรื่องแบตเตอรี มีความจุมากถึง 4360 mAh แถมยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 66W Wired HUAWEI SuperChargeTM เมื่อใช้กับการชาร์จแบบมีสาย และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W Wireless HUAWEI SuperChargeTM อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei P50 Pro (ไม่ตกแต่งภาพ)
เอาเป็นว่า ในฐานะสมาร์ทโฟนสายถ่ายภาพ นี่คืออีกหนึ่งทางเลือกที่มองข้ามไม่ได้ หรือถ้าจะบอกในฐานะคนถ่ายภาพค่อนข้างจริงจัง Huawei P50 Pro คือกล้องถ่ายภาพเครื่องหนึ่งที่ไว้ใจได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว รวมถึงการใช้งานที่คล่องตัวสุดๆ