สมาร์ทโฟน ‘5G’ ไทยโตแรง!! ยอดขายสูงสุดในอาเซียน

สมาร์ทโฟน ‘5G’ ไทยโตแรง!! ยอดขายสูงสุดในอาเซียน

"ไอดีซี" เปิดข้อมูลภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในไทยปี 2564 ยอดจำหน่ายสูง 20.9 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 20.9%โตแรงที่สุดในอาเซียน จากการทำโปรโมชั่นตามฤดูกาลและการฟื้นตัวของยอดขายในร้านค้าการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ขณะที่ ไอโฟน 13 ซีรีส์ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวได้รับความนิยมสูง

ไอดีซี เปิดข้อมูลภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในไทยปี 2564 ที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 20.9 ล้านเครื่องในปี 2564 เพิ่มขึ้น 20.9% ซึ่งโตแรงที่สุดในภมูิภาคอาเซียน เฉพาะไตรมาสที่ 4 เติบโต 16.6% เมื่อเทียบต่อปีคิดเป็น 5.5 ล้านเครื่อง จากการทำโปรโมชั่นตามฤดูกาลและการฟื้นตัวของยอดขายในร้านค้าการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ขณะที่ ไอโฟน 13 ซีรีส์ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวได้รับความนิยมสูง

ขณะที่ สมาร์ทโฟน 5จี มีส่วนแบ่งมากกว่าหนึ่งในสามของตลาดไทยในไตรมาสที่ 4 นำโดย “ไอโฟน” ของ “แอ๊ปเปิ้ล” และสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ราคาระดับกลาง อย่างเช่น ซัมซุงกาแล็คซี่ เอ52เอส, วีโว่ วาย76, และเรดหมี่ โน้ต 10 โดยยอดขายสมาร์ทโฟน 5จี ของไทยนับว่าสูงที่สุดในอาเซียน และสูงเป็นอันดับสามในภมูิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีนและญี่ปุ่น ) รองจากอินเดียและเกาหลีใต้แปซิฟิก (ไม่รวมจีนและญี่ปุ่น ) รองจากอินเดียและเกาหลีใต้
 

ธีริทธิ์ เปาวัลย์ นักวิเคราะห์ตลาด ไอดีซี ประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2564 ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เนื่องจากความต้องการที่ถูกกักไว้จากปีก่อนหน้าที่เกิดปัญหาสินค้าขาด ทั้งยังมีเงินอุดหนุนโควิด-19 จากภาครัฐ และสมาร์ทโฟน 5จี มีราคาไม่แพง ขณะที่ คาดว่าการเติบโตของตลาดในปี 2565 จะทรงตัว แต่ก็ยังคงสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2562 ถึง 14%

ขณะที่ การควบรวมกิจการระหว่างทรู และดีแทค มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงในระยะสั้นในการขยายฐานผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตามข้อจำกัดด้านอุปทานจะยังคงเป็นคอขวดอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2565
 

ขณะที่ 5 อันดับแรกของผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนในไตรมาสที่ 4 ซัมซุง ยังคงอยู่ในอันดับหนึ่งแม้ว่าจะมีการขาดแคลนรุ่น A-series โปรโมชั่นและสิ่งจงูใจที่มุ่งเป้าไปที่ซีรีสเรือธงส่งผลให้ยอดขาย Galaxy S21 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมถึงการเติบโตของสมารท์ โฟนพับได้

เสี่ยวหมี่กระโดดขึ้นสู่อันดับสอง เนื่องจากการจัดส่งซีรี่ย์ Redmi ที่ราคาย่อมเยาฟื้นตัวขึ้น เสี่ยวมี่พยายามขยายช่องทางออฟไลน์เรื่อยๆ โดยเปิดร้านแบรนด์ Xiaomi ใหม่ 13 แห่งในเดือนธันวาคม

แอ๊ปเปิ้ล มีการเติบโตทั้งเมื่อเทียบต่อปีและต่อไตรมาสด้วยการเปิดตวัซีรี่ย์ iPhone 13 แม้จะมีปัญหาขาดแคลนสินค้าอยู่บ้างและราคาที่สูงกว่าในบางรุ่น เช่น 12 Pro และ 12 Pro Max

ออปโป้ มีอุปทานที่ตึงตัวในกลุ่มสินค้า4G ราคาย่อมเยา ส่วนในราคาระดับกลางอย่าง Reno 6 นั้นได้รับการตอบรับที่ดี แต่ Reno 6 Pro ที่มีราคาสูงกว่านั้นยอดขายยังไม่รุนแรงนักโดยมีช่องทางที่จำกัดเฉพาะร้านค้าแบรนด์ OPPO และช่องทางออนไลน์

วีโว่ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการขาดแคลนสินค้าในระรดับราคาย่อมเยาอย่างซีรีย์ Y วีโว่นั้นเสริมความแขง็แกร่งทางหน้าร้านและร้านของเครือข่ายด้วยการเพิ่มพนักงานขาย

“อุปทานมีข้อจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสมาร์ทโฟน 4G ระดับราคาย่อมเยา ทำให้แบรนด์สมาร์ทโฟนต้องปรับตัวตามสถานการณ์เช่น การใช้ชิปจากผ้ผูลิตเกิดใหม่เช่น Unisoc และเน้นผลิตสินค้ารุ่นที่ขายดีสุด ขณะที่ ผู้เล่นรายเล็กเช่น HMD (Nokia), Lenovo (Motorola) และ TCL ได้ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในตลาดในช่วงเวลานี้ เนื่องจากการมุ่งเน้นไปที่กลุ่มราคาที่ไม่แพงซึ่งมีความต้องการสูงในตลาด” เขากล่าวเสริม