‘ไลน์’ ปักธงหนุนธุรกิจไทย ปฏิวัติดิจิทัลเทียบชั้นสากล
“ไลน์” กางแผนธุรกิจปี 65 มุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้ทัดเทียมธุรกิจระดับโลก ผลักดันการใช้งานฐานข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ออกแบบแบรนด์สินค้า ปีหน้าเล็งผลักดันธุรกิจไทยโตได้แบบก้าวกระโดดในโลกยุคใหม่
นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ไลน์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2565 ไลน์ยังคงมุ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับธุรกิจในการปรับตัวสู่ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ
ไลน์ มีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มธุรกิจไทย จากนี้เตรียมเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม และสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ เพื่อให้ธุรกิจไทยมีความสามารถในการแข่งขันเทียบเท่ากับแบรนด์ในระดับสากล
อย่างไรก็ดี กุญแจสำคัญในการเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวสู่ดิจิทัลได้คือ ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของข้อมูล หรือดาต้า ที่จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต ทว่าปัจจุบันยังมีข้อจำกัดทั้งด้านความรู้ ความเข้าใจในการใช้งานข้อมูล รวมถึงกฎกติกา และนโยบายการเก็บข้อมูลที่เข้มงวดมากขึ้น ล่าสุด ไลน์จึงได้พัฒนาโซลูชั่นบริหารจัดการข้อมูล (Data Solutions) ที่เหมาะสมกับกฎระเบียบที่เพิ่มมากขึ้น ง่ายต่อการใช้งาน และมีประสิทธิภาพสูง เพื่อที่จะสามารถผลักดันให้ธุรกิจไทยเข้าใจและพัฒนาในเรื่องการบริหารจัดการข้อมูลไปอีกขั้น
พร้อมมี โซลูชั่นใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ Business Manager โซลูชั่นบริหารจัดการข้อมูลอย่างง่าย ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ไม่ได้ต้องการการบริหารงานข้อมูลที่ซับซ้อน เพื่อให้แบรนด์สามารถนำมาวิเคราะห์ นำเสนอสินค้าบริการที่โดนใจลูกค้า นำไปสู่ความมีประสิทธิภาพและต้นทุนที่ต่ำลงในการปิดการขาย
“เราจะผลักดันให้ทั้ง 2 โซลูชั่น เป็นตัวช่วยสำคัญทำให้กลุ่มธุรกิจในไทยทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เข้าถึงและใช้งานดาต้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวที่กำลังส่งผลต่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเชิงการตลาดต่อองค์กรธุรกิจทั่วโลก”
นอกจากนั้น ในปีนี้และปีหน้าเร่งเตรียมความพร้อมให้ธุรกิจไทยเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจโลกใหม่ ด้วยโซลูชั่นสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเอ็นเอฟที ( Non-fungible Token) โดยตั้งเป้าที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานให้กับองค์กรธุรกิจไทยที่จะเดินหน้าสู่การทำการตลาดด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในด้านการจัดหาครีเอเตอร์ให้กับแบรนด์ และเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ในการใช้งานเอ็นเอฟทีเพื่อธุรกิจ ( NFT for Business)
ไลน์เผยว่า ปี 2564 ประเทศไทยมีการเติบโตในเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นอย่างมาก ประเมินจากดัชนีชี้วัดของการใช้งานบริการดิจิทัลผ่าน LINE API ที่เติบโตขึ้นถึง 47% จาก 4.6 หมื่นล้านการดำเนินการในปี 2563 สู่ 6.9 หมื่นล้านการดำเนินการในปี 2564 โดยธุรกิจกลุ่มสถาบันการเงินยังคงเป็นผู้นำในการใช้งาน ส่วนกลุ่มธุรกิจสินค้าหรู (Luxury) ถือเป็นธุรกิจกลุ่มใหม่ที่มีการบริโภคภายในประเทศสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
“ปี 2564 ต่อเนื่องมาถึงปี 2565 เป็นปีที่ท้าทายสำหรับทุกคน นับตั้งแต่โควิดแพร่ระบาดโลกมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกวัน ทุกเวลา ในรูปแบบที่เราคาดการณ์ไม่ได้อีกต่อไป ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้บุคคล ประเทศ หรือธุรกิจที่พร้อมปรับตัวให้มีความสามารถแข่งขันได้ ย่อมมีแนวโน้มที่จะอยู่รอดได้มากกว่า"