"แฟลชกรุ๊ป" สยายปีกบุกอาเซียนทุกประเทศ ลั่น2ปีมูลค่าทะยานแสนล้าน

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด บรรยายพิเศษในหลักสูตร Digital Tranformation For CEO#3 ในหัวข้อ The Unicorn Roadmap ว่า หลังจากที่กลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซสัญชาติไทยแบบครบวงจร และเป็นบริษัทแม่ของ แฟลช เอ็กซ์เพรส ผู้ให้บริการด้านขนส่งเอกชน ปิดดีลยักษ์จากการระดมทุนรอบซีรีย์ D+ และ ซีรีย์ E คว้ากลุ่ม Buer Capital Limited และ SCB 10X ร่วมทุน พร้อม eWTP -โออาร์-เดอเบล-กรุงศรีฟินโนเวต ลงเพิ่มได้เม็ดเงินรวมไปกว่า 150 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,700 ล้านบาท ประกาศขึ้นเป็นขนส่งเอกชนอันดับ 1 ด้วยตัวเลขจัดส่งพัสดุต่อวันสูงสุดร่วม 2 ล้านชิ้น ทะยานสู่ยูนิคอร์นตัวแรกของไทย

ซึ่งจากดีลใหญ่นี้เมื่อปี 2564 ทำให้กลุ่มธุรกิจแฟลช สามารถระดมทุนไปได้สูงถึง 150 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,700 ล้านบาท โดยคาดว่าเม็ดเงินลงทุนจะถูกกระจายไปในหลายสัดส่วนทั้งด้านการบริหาร และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ครอบคลุมไปถึงการลงทุนในด้านแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซจะตอบโจทย์ และสร้างความแตกต่างให้แก่ตลาด รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขาย ขยายบริการ และสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ 

ซึ่งจากดีลใหญ่นี้เมื่อปี 2564 ทำให้กลุ่มธุรกิจแฟลช สามารถระดมทุนไปได้สูงถึง 150 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,700 ล้านบาท โดยคาดว่าเม็ดเงินลงทุนจะถูกกระจายไปในหลายสัดส่วนทั้งด้านการบริหาร และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ครอบคลุมไปถึงการลงทุนในด้านแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซจะตอบโจทย์ และสร้างความแตกต่างให้แก่ตลาด รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขาย ขยายบริการ และสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ 

เขา กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) ก่อตั้งขึ้นจากแนวคิด การเป็นผู้ให้บริการ E-commerce สัญชาติไทยแบบครบวงจร โดยได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มนักลงทุนหลายอุตสาหกรรมเข้ามาร่วมสนับสนุน ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมธุรกิจในเครือหลากหลายประเภท อาทิ Flash Express ผู้ให้บริการขนส่งแบบครบวงจร ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นหัวใจหลักในการบริหารจัดการด้านระบบขนส่ง

สำหรับปี 2565 นับเป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งของตลาดโลจิสติกส์ และอี-คอมเมิร์ซ เราจะเห็นได้ว่าผู้เล่นแทบทุกรายต่างหันมาใช้คอนเซปต์เข้ารับฟรีถึงที่ และให้บริการไม่มีวันหยุด ที่ผ่านมา แฟลช เอ็กซ์เพรส นับว่าเราเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้ ทั้งนี้ เราพยายามมองหาสิ่งที่แตกต่างด้วยการมองถึงภาพรวมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน เหนือสิ่งอื่นใดคือการนำเอา Pain point ที่ตลาดพบเจอเข้ามา Apply ให้สอดคล้องกับบริการใหม่ๆ ที่เราจะเตรียเปิดตัวออกมาเรื่อยๆ เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายหลัก คือ การสนับสนุนตลาดให้สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างไม่มีสะดุด และยังช่วยให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยู่บน Platform สามารถทำธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทเร่งเดินหน้าขยายบริการให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดและน่าจะสำเร็จได้ภายในไม่เกิน 1-2 ปีต่อจากนี้ หลังจากที่ในปี 2564 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้วใน สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวที่ประเทศมาเลเซียจะเป็นประเทศที่ 3 ในปลายเดือนมี.ค.ที่่ผ่านมา โดยมีพนักงานมากกว่า 4,000 คน พร้อมทั้งยังตั้งเป้าหมายว่าในปี 2567 มูลค่าบริษัทจะขยายตัวเกิน 200% หรือจากปัจจุบันที่มูลค่าแฟลชของที่ 30,000 ล้านบาท จะอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท

“ในปี 64 ที่ผ่านมา แฟลช เอ็กซ์เพรส มีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท และยอดพัสดุทั้งปีสูงกว่า 600 ล้านชิ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานกว่า 35,000 คน จุดรับส่งพัสดุทั่วประเทศมากกว่า 15,000 แห่ง ซึ่งล่าสุดยังมีแผนขยายพื้นที่เพื่อรองรับกับปริมาณสินค้าในแต่ละวันที่มีมากกว่า 2 ล้านชิ้นอีกด้วย ส่วนภาพรวมของการแข่งขันส่วนตัวก็ยังมองว่ายังคงดุเดือด และน่าจะมีผู้เล่นรายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาในตลาดนี้ด้วย”

นายคมสันต์ กล่าวอีกว่า โดยยังคงชูนโยบายการเข้ารับพัสดุฟรีถึงที่ เปิดให้บริการ 365 วัน และจุดเด่นด้านราคาที่คุ้มค่า ที่มาพร้อมกับมาตรฐานการให้บริการแบบพรีเมียม ตลอดจนการนำเทคโนโลยีด้านไอที ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันที่ง่ายต่อการใช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ลดการสัมผัสและการเดินทาง ตลอดจนสามารถติดตามพัสดุ ตรวจสอบราคาค่าขนส่งด้วยตนเองผ่านทางแอปพลิเคชัน

นอกจากนี้ การให้บริการด้าน Supply Chain ต่างๆ รวมไปจนถึงการให้บริการทางการเงิน และการให้บริการเทคโนโลยี (Flash AI) และบริการใหม่ๆ ซึ่งก็มีแผนตั้งเป้าจะมีพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 คน ภายในสิ้นปี 2565 ที่สำคัญมียอดการจัดส่งพัสดุต่อวันเฉลี่ยมากกว่า 30,000 รายการ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นพร้อมกับคงบริการระดับเวิล์ดคลาสในราคาขนส่งที่จับต้องได้แก่ผู้บริโภค