‘เดลล์’ ชี้ คนทำงาน สินทรัพย์ สำคัญสูงสุด ‘ดิจิทัล ดิสรัปชัน’
เดลล์ เทคโนโลยีส์ เผย ช่วงเวลา 2 ปีแห่งความรีบเร่งในการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ผู้นำองค์กรธุรกิจต่างตระหนักอย่างชัดเจนว่า “พนักงาน” คือผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้การเปลี่ยนแปลงเดินไปสู่ความสำเร็จ
ผลสำรวจล่าสุดโดยเดลล์ชี้ว่า หลังจากช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาที่องค์กรธุรกิจต่างเร่งปฏิรูปสู่ระบบดิจิทัล ราวครึ่งหนึ่งของผู้นำด้านไอทีในประเทศไทย หรือ 58% กล่าวว่า องค์กรของตนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างในการปฏิรูปคนทำงานสู่ระบบดิจิทัล
แต่หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วพนักงานหลายคนกำลังพบปัญหาท้าทายในการก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง บรรดาองค์กรธุรกิจและคนทำงานยังต้องการเวลาในการปรับตัว เตรียมใจ
ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการตามโครงการใหม่หรือโครงการที่หยิบมาทำซ้ำ ขณะนี้ผู้นำองค์กรธุรกิจในประเทศไทย 86% มองว่าบุคลากรคือสินทรัพย์สำคัญที่สุด
'คน-เทคโนโลยี’ ต้องไปด้วยกัน
ผลวิจัยชี้ว่ายังคงมีแนวโน้มว่าการปฏิรูปจะเกิดการสะดุด โดยผู้ตอบในไทย 69% เชื่อว่าการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงจากคนในองค์กรอาจทำให้การปฏิรูปไม่ประสบผลสำเร็จ กว่าครึ่งของผู้ตอบในไทยจำนวน 54% กลัวว่าจะตัวเองจะถูกปิดกั้นจากความก้าวหน้าของโลกดิจิทัล
เนื่องจากขาดผู้ที่มีอำนาจ มีวิสัยทัศน์ที่เหมาะสมจะนำโอกาสมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และเรื่องนี้ก็ทำให้โมเดล “As-a-Service” กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลายธุรกิจ
อามิต มิธา ประธาน เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า การสร้างอนาคตที่ดีขึ้นและเหมาะสมสำหรับทุกคน ต้องเข้าใจก่อนว่าความสำเร็จทางธุรกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานนั้นคือสิ่งที่เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก
ทั้งนี้ การปฏิรูปสู่ดิจิทัลที่ให้ความยั่งยืนเกิดขึ้นจากการมาบรรจบกันระหว่างคนและเทคโนโลยี การจะบรรลุความก้าวหน้าครั้งสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรต่างๆ ควรพิจารณาแนวทางใน 3 แง่มุมด้วยกัน ประการแรกคือ มอบประสบการณ์การทำงานที่ต่อเนื่องและปลอดภัยให้กับพนักงาน ไม่ได้กำหนดว่าทำงานจากที่ไหน
ประการที่สอง ช่วยขับเคลื่อนผลลัพธ์ของงานด้วยการนำเครื่องมือด้านเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มความสามารถให้กับคนเพื่อช่วยให้พนักงานมุ่งเน้นกับงานที่ทำได้ดีที่สุด ประการสุดท้ายคือ การสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานด้วยวัฒนธรรมการทำงานที่เข้าอกเข้าใจรวมถึงความเป็นผู้นำที่แท้จริง
แนะเพิ่มการสนับสนุนพนักงาน
ฐิตพล บุญประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหม่ประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ เสริมว่า องค์กรส่วนใหญ่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ตระหนักดีถึงความจำเป็นในการปฏิรูปทางดิจิทัล แต่พวกเขาพบว่าการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก และบุคลากรที่อยู่ในองค์กรก็ไม่ได้ยอมรับการเปลี่ยนแปลงเสมอไป
“ความขัดแย้งระหว่างเทคโนโลยีกับมนุษย์นี้ประกอบกันขึ้นมาเพียงจากการแพร่ระบาดของโรค ทำให้สุดท้ายแล้วเราต้องเข้าสู่การทำให้ธุรกิจความสามารถตอบสนองต่อวิกฤติได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นก็ทำให้หลายๆ คนอ่อนแรงไปไม่ใช่น้อย”
วันนี้ องค์กรธุรกิจที่ปรารถนาความสำเร็จอย่างยั่งยืนต้องถามตัวเองว่าพวกเขาจะสามารถช่วยพนักงานของตนนำทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้นต่อไปได้อย่างไร
ปัจจุบัน นับเป็นช่วงเวลาที่องค์กรจะต้องประเมินสถานการณ์ก่อนที่จะเริ่มโครงการใหม่ในการปฏิรูปสู่ดิจิทัล เพื่อให้มั่นใจว่าคนทำงานจะได้รับการสนับสนุนและมีความเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินงานในขั้นตอนถัดไป
เมื่อประเมินความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล พบว่าคนทำงานในประเทศไทย 30% กำลังดำเนินการตามโครงการปรับปรุงความทันสมัยให้กับองค์กร จำนวนน้อยกว่าครึ่งของคนทำงานในไทย 19% ตอบรับการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ หรือยังลังเลอยู่
ชู 3 กลยุทธ์เพิ่มความสำเร็จ
โดยสรุป โอกาสสำหรับภาคธุรกิจในการมุ่งเน้นและก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง จากการบรรจบกันของคนและเทคโนโลยีในสามส่วนด้วยกัน คือ 1. การเชื่อมต่อ สร้างความพร้อมด้านเทคโนโลยี ทำให้พนักงานมีความสะดวกในการประสานงาน ทำงานได้จากทุกที่
ขณะที่ 2. ผลลัพธ์ของงาน องค์กรธุรกิจสามารถวางบทบาทพนักงานได้อย่างเหมาะสม มอบหมายงานที่ต้องทำซ้ำให้เป็นเรื่องของกระบวนการดำเนินงานแบบอัตโนมัติ และทำให้บุคลากรมีเวลาเพื่อมุ่งเน้นการทำงานที่สร้างคุณค่าได้มากขึ้น
สุดท้าย 3. การเข้าอกเข้าใจ หัวใจสำคัญคือ องค์กรธุรกิจต้องสร้างวัฒนธรรมที่มีแบบอย่างมาจากผู้นำที่มีความเข้าอกเข้าใจและดูแลพนักงานเสมือนเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญที่สุดที่ให้ความคิดสร้างสรรค์และคุณค่าแก่องค์กร