นี่มันไอเทมระดับท่านชีค! รวม "Gadget" แสนแพงแห่งปี 2022
สวนกระแสเศรษฐกิจกับลิสต์ "ของเล่นคนรวย" ที่ต้องมีเงินเท่านั้นถึงจะได้ครอบครอง แม้จะไม่ได้เคลือบทองหรือประดับเพชรแต่บรรดา "Gadget" เหล่านี้ก็มีราคาค่าตัวแพงหูฉีก
ขึ้นชื่อว่าอุปกรณ์ไอทีย่อมมีราคา แต่ใครจะคิดว่าในจักรวาล Gadget ยังมีไอเทมราคาสุดโหดที่มีขายจริงๆ และที่สำคัญมีคนซื้อจริงๆ โดยที่ของพวกนี้ไม่จำเป็นต้องอัพราคาด้วยอัญมณีหรือทองคำ แต่ด้วยแบรนด์, ฟังก์ชัน ยันสตอรี่ ล้วนช่วยอัพราคาให้พุ่งแรงทั้งมูลค่าและคุณค่า
KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที พามารู้จักไอเทมไอทีที่ทั้งแพง ทั้งสเปคแรง เป็นลิสต์ของเล่นระดับท่านชีค เป็นอุปกรณ์ที่ใครจะใช้ก็ต้องมีเงิน หรืออย่างน้อยบัตรเครดิตก็ต้องมีวงเงินเหลือๆ และที่สำคัญต้องเป็นกลุ่มที่มีความ Passion Investment ระดับหนึ่งเลยทีเดียว
กล้อง Leica 0-Series
รู้กันอยู่แล้วในกลุ่มคนถ่ายภาพ แค่ได้ยินว่า Leica ก็มาพร้อมราคาแสนแพง และในความแพงมีประสิทธิภาพที่หาไม่ได้จากกล้องแบรนด์อื่นๆ ซ่อนอยู่
ในรุ่นปกติก็ว่าแพงแล้ว แต่ล่าสุด Leica 0-Series ได้ทำสถิติใหม่ ด้วยคุณค่าระดับตำนานเพราะเป็นกล้องฟิล์มโบราณที่มีเทคโนโลยีเก่าแก่เป็นร้อยปี โดยผลิตในปี 1923 แต่ความเก๋าก็ทำให้กล้องตัวนี้ถูกขายไปในราคาประมาณ 520 ล้านบาทไทย
ความพิเศษของกล้องตัวนี้คือเป็น Leica 0-Series No.105 กล้องส่วนตัวของ Oskar Barnack ผู้คิดค้นกล้องต้นแบบของกล้องสมัยใหม่
แม้เราจะจัดให้กล้องรุ่นนี้เป็นหนึ่งในลิสต์ไอเทมระดับท่านชีค แต่น่าเสียดายที่ท่านชีคคงได้แค่เอาไว้สะสม เพราะกล้องราคาสุดหฤโหดนี้ใช้งานไม่ได้แล้ว
หูฟัง Sennheiser HE 1
สำหรับนักฟังเพลงย่อมเข้าใจดีว่าการลงทุนกับหูฟังดีๆ มีความหมายอย่างไร หลายคนหมดเงินเป็นหมื่น บางคนเป็นแสน แต่ใครจะเชื่อว่ามีหูฟังราคาเกือบ 2 ล้านบาท!
หูฟัง Sennheiser HE 1 เป็นนวัตกรรมหูฟังคุณภาพสูงในสูง คนที่เคยลองฟังต่างบอกว่าเหมือนกำลังอยู่ในคอนเสิร์ตที่มีเครื่องเสียงระดับเทพ เป็นประสบการณ์การฟังเพลงที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และไม่มีใครเคยทำได้แบบนี้มาก่อน
กุญแจสำคัญของคุณภาพเสียงขั้นเทพอยู่ที่แอมพลิไฟร์เออร์ซึ่งประกอบด้วยหลอดสุญญากาศจำนวน 8 หลอด ช่วยกระตุ้นการผลิตเสียงคุณภาพสูง แล้วเสริมด้วยกล่องหินอ่อนคาร์ราราจากอิตาลีที่ช่วยดูดซับเสียงรบกวนที่เดินทางผ่านอากาศให้แทบไม่เหลือ จนได้เสียงใสๆ เพียวๆ
มิหนำซ้ำยังมีส่วนประกอบมากกว่า 6,000 ชิ้น หนึ่งในนั้นคือขั้วไฟฟ้าเซรามิกเครือบทองและไอดะแฟรมเคลือบทองคำขาว ควบคุมการสั่นสะเทือนให้เหมาะสมที่สุด รวมไปถึงส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำหน้าที่ขับพลังเสียงให้มีประสิทธิภาพที่สุด ละเอียดที่สุด จึงทำให้ราคาของ หูฟัง Sennheiser HE 1 มากถึง 1.9 ล้านบาท
สมาร์ทวอทช์ Garmin Marq Driver
ในกลุ่มสมาร์ทวอทช์ มีหลายแบรนด์ที่ราคาแพงในรุ่นเรือธง และมีหลายแบรนด์ถูกนำไป Custom ด้วยการประดับเพชรนิลจินดาหรือเคลือบทองคำ หลายแบรนด์คอลแลบกับแบรนด์ลักชัวรี่จนมีราคาแพงตามกันไป แต่สำหรับ Garmin Marq Driver คือสมาร์ทวอทช์ซีรีส์พิเศษที่โดดเด่นด้วยวัสดุที่ใช้ผลิต เช่น ตัวเรือนทำจากไทเทเนียมและเซรามิก มีฟีเจอร์ด้านการเดินเรือระดับสูง มีฟีเจอร์วัดความเร็วลม ทิศทาง อุณหภูมิ น้ำขึ้นน้ำลง และอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่เกิดมาเพื่อนักเดินเรือและนักผจญภัยตัวจริง
สำหรับการใช้งานทั่วไปก็มีคุณสมบัติครบทุกอย่าง อาทิ การวัดค่าต่างๆ ทั้งด้านสุขภาพและกีฬา การเล่นเพลง การจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส แผนที่อย่างละเอียด ฯลฯ
ในซีรีส์ Marq มีด้วยกัน 5 รุ่น ได้แก่ Driver, Aviator, Captain, Expedition, and Athlete สนนราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 52,000 บาท
แล็ปท็อป MacBook Pro
MacBook Pro อาจไม่ใช่แล็ปท็อปราคาแพงที่สุดในโลก แม้จะเป็นรุ่นที่สเปคสูงที่สุด แต่ในแง่ของดีกรีความแพงก็ติดอันดับต้นๆ เช่นกัน โดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยืดยาวถึงคุณสมบัติที่ครอบจักรวาลไม่ว่าผู้ใช้งานจะประกอบอาชีพอะไร ก็แทบจะมี MacBook เป็นอุปกรณ์คู่ใจในการทำงานทั้งนั้น เช่น นักดนตรี, กราฟิกดีไซเนอร์, นักตัดต่อ, ช่างภาพ, นักพัฒนา, ซาวด์เอนจิเนีย และอีกสารพัด แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับการเล่นเกม
ความที่ผลิตภัณฑ์ของ Apple จัดอยู่ในกลุ่มพรีเมียม หมายความว่าไม่ว่าจะการรับประกันหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะยอดเยี่ยมเสมอ ที่สำคัญคือได้อัพเดทซอฟต์แวร์ประจำเป็นระยะเวลานาน จนบางคนพูดทีเล่นทีจริงว่าถ้าซื้อ MacBook แล้วใช้ได้ยาวๆ อย่างน้อยก็เป็นสิบปี
แต่แน่นอนว่าก็จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เกิดขึ้นหลังจากซื้อ MacBook Pro มาด้วยเช่นกัน ถ้าหากต้องการใช้อย่างเต็มรูปแบบ
สมาร์ทโฟน iPhone 14 Pro Max
น่าจะมีคนลุ้นอยู่ว่า iPhone 14 Pro Max จะถูกพูดถึงในฐานะไอเทมไอทีแพ๊งแพงหรือไม่ ถ้าไม่นับว่าต้องแพงที่สุดในโลก เรายังยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ติดอันดับราคาแพง และในรุ่นท็อปสุดของซีรีส์ก็มีสเปคที่น่าสนใจ
สำหรับปัจจัยแรกที่หลายคนรู้ดีว่าทำให้ iPhone ในไทยราคาแพงขึ้นคือเรื่องค่าเงินบาทอ่อน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่ามากๆ แต่ยังมีอีกหลายเหตุผล ยกตัวอย่างเช่น ต้นทุนการผลิตชิป A16 Bionic ในรุ่น iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max แพงขึ้นโดยคิดเป็น 32.4 เปอร์เซ็นต์ของต้นทุน
ซึ่งชิป A16 Bionic นี้เองคือหัวใจที่ทำให้ iPhone 14 Pro Max ทั้งแพงแต่ดีขึ้นด้วย และมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา อย่าง Dynamic Island ที่เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นลูกเล่นที่แปลกใหม่ หรืออย่างการถ่ายภาพที่มีประสิทธิภาพขึ้นด้วยกล้องความละเอียดสูงขึ้น
ส่วนฮาร์ดแวร์ภายในที่อัพเกรดขึ้นมาเช่น CPU ประสิทธิภาพสูง ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ทั้งเร็วและแรง ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ใช้งานแอพที่กราฟิกหนักๆ หรือใช้เล่นเกมหนักๆ ก็ยังวางใจได้
สำหรับราคาของ iPhone 14 Pro Max เริ่มต้นที่ 44,900 บาท และถ้าเป็นรุ่นที่หน่วยความจำ 1TB ก็มีราคาเริ่มต้นสูงถึง 66,900 บาท เลยทีเดียว