ทักษะที่ต้องมีในการทำงานและใช้ชีวิต บนโลกที่ขับเคลื่อนด้วย 'เอไอ'
ปีที่ผ่านมาได้มีการเกิดขึ้นของนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ต่อยอดจากเทคโนโลยีเอไออันชาญฉลาด บวกกับความสามารถของมนุษย์ที่พัฒนาให้เทคโนโลยีเหล่านี้เกิดความล้ำหน้าทันสมัย
นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเข้ามาสร้างความสะดวกสบาย และยังช่วยขับเคลื่อนทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตของเรา
ขณะเดียวกันการเตรียมความพร้อมเพื่อปรับตัวและรับมือกับการทำงานของเอไอ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน ในบทความนี้ ผมขอชวนคุยเรื่องการปรับตัวในการทำงานและการใช้ชีวิต รวมถึงทักษะที่จำเป็นต้องมีเพื่ออาศัยอยู่ในโลกอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอที่ไม่มีวันหยุดพัฒนา
ด้านการใช้ชีวิต ที่เราต่างมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีเอไอเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีในหลากหลายกิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน สิ่งแรกที่ต้องมีคือการปรับมุมมอง เปิดใจยอมรับการใช้งานเทคโนโลยีที่มีจุดประสงค์เพื่อเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกกับเรา และควรทำความเข้าใจกลไกการทำงานของเทคโนโลยีหรือหุ่นยนต์
แต่ไม่ต้องถึงขั้นเกรงกลัวว่าเอไอจะเข้ามาแทนที่มนุษย์ ตราบใดที่มนุษย์ยังเป็นผู้พัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพียงแค่อย่าหยุดที่จะเรียนรู้เพื่อควบคุมเทคโนโลยีให้ทำงานบรรลุวัตถุประสงค์อย่างเหมาะสมและปลอดภัยโดยไม่เกิดผลร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินของเรา
ด้านการทำงาน ในฐานะทรัพยากรที่ช่วยขับเคลื่อนขององค์กร ต้องหมั่นหาความรู้และเพิ่มทักษะให้กับตัวเองเพื่อพัฒนาตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเอไอที่ไม่หยุดนิ่ง
ทักษะที่จำเป็นเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกับเอไอประกอบด้วย การสื่อสาร (Communication Skill) ถือเป็นทักษะที่สำคัญเป็นอย่างมากในการใช้สื่อสารในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเข้าหาผู้อื่น การสื่อสารความรู้สึกนึกคิดให้ผู้อื่นเข้าใจ การเจรจาโน้มน้าว การต่อรอง
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการสนทนาหรือข้อตกลง รวมถึงการรับฟัง การตั้งคำถาม และการสื่อสารด้วยภาษากาย การแสดงอารมณ์ความรู้สึก หรือท่าทางต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เอไอไม่สามารถทำได้
ถัดมาคือ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (Interpersonal Skill) เป็นสิ่งที่เราไม่ควรละเลยที่จะคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อื่น เพราะสิ่งนี้คือคุณสมบัติที่ไม่มีในเครื่องมือเอไอ ไม่สามารถฝึกฝนและปลูกฝังได้ ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์โดยสิ้นเชิง เพราะมนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการการยอมรับ ได้รับความเข้าอกเข้าใจ และการมีส่วนร่วมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) คือทักษะการคิดวิเคราะห์ข้อมูล ตัดสินเหตุการณ์ และสิ่งต่างๆ ด้วยวิจารณญาณ จากการไตร่ตรองอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนด้วยเหตุผล
ไปจนถึง การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem-Solving) ที่ครอบคลุมถึงการจัดการและแก้ปัญหาด้วยวิธีที่เหมาะสมและเป็นระบบตั้งแต่การวิเคราะห์ต้นตอของปัญหา ปัจจัยและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าใจบริบทอันซับซ้อนและมองหาความเชื่อมโยงสัมพันธ์ จนเกิดเป็นวิธีที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหานั้น ๆ ถือเป็นทักษะ Soft Skill ที่บริษัทต่างมองหาในตัวพนักงานอยู่เสมอ และทักษะ
สุดท้ายคือ ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity Skill) เนื่องจากเอไอหรือหุ่นยนต์ไม่มีสมองในส่วนของความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีความคิดนอกกรอบ และไม่สามารถสร้างไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมาเองได้หากไม่ได้รับการสอนหรือป้อนข้อมูล
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน เอไอจะสามารถสร้างผลงานศิลปะ หรือเขียนนิยายได้ แต่ก็ล้วนเกิดจากการป้อนข้อมูลที่มีอยู่โดยมนุษย์ทั้งสิ้น เราจึงมีความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดจากประสบการณ์และการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิต ที่แน่นอนว่าแตกต่างและเหนือกว่าเอไอและหุ่นยนต์โดยสิ้นเชิง
ในท้ายที่สุด การจะผลักดันให้องค์กรเข้าสู่การเป็นองค์กรแห่งเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้านการทำงานของพนักงานร่วมกับเทคโนโลยีและเอไอให้เป็นไปอย่างได้ประสิทธิภาพสูงสุด ย่อมเกิดจากทัศนคติอันดีของผู้บริหารที่ได้กำหนดเป้าหมายการทำงาน
การวางโครงสร้างการทำงานที่สมดุลระหว่างพนักงานงานกับเทคโนโลยี รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ยอมรับ และเปิดใจในการที่จะปรับตัวและเปลี่ยนแปลง
เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ อาจมีการเกิดขึ้นของตำแหน่งงานน่าสนใจใหม่ๆ ที่ต้องทำงานควบคู่กับเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนงานไปด้วยกัน บุคลากรขององค์กรจึงจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือในการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีที่จะช่วยเข้ามาเสริมศักยภาพของตนเอง เพื่อนำไปสู่ความคล่องตัวในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามเป้าหมายอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันที่ไม่หยุดรอเรา