สุดในสุด! เจาะลึก “iPhone 15 Ultra” ไอโฟนที่จะมาปฏิวัติไอโฟน

สุดในสุด! เจาะลึก “iPhone 15 Ultra” ไอโฟนที่จะมาปฏิวัติไอโฟน

เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือ "iPhone 15" ยังมี "iPhone 15 Ultra" ตัวตึงรุ่นใหม่ที่ยังไม่เคยมีไอโฟนรุ่นไหนเปลี่ยนแปลงแบบเวอร์วังอย่างนี้มาก่อน

ถ้า iPhone 14 Series ทำให้หลายคนอึดอัดกับการเปลี่ยนแปลงแบบครึ่งๆ กลางๆ อาจจะได้ผ่อนคลายขึ้นบ้างเพราะใน iPhone 15 Series ที่หลายคนกำลังรอคอยนั้นแว่วว่าจะมาพร้อมความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่สะเทือนวงการสมาร์ทโฟนที่สุดครั้งหนึ่งคือการมีข่าวลือว่า Apple จะเพิ่มไลน์อัพ iPhone รุ่นท็อปที่สุด ซึ่งเหนือกว่ารุ่น Pro Max

สุดในสุด! เจาะลึก “iPhone 15 Ultra” ไอโฟนที่จะมาปฏิวัติไอโฟน

บางกระแสบอกว่า iPhone 15 Ultra จะมาแทนที่ iPhone 15 Pro Max แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามภาพคอนเซปต์และสเปกที่คาดการณ์กันนั้น iPhone 15 Ultra จะเป็นไอโฟนที่เป็นรุ่นใหม่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์ไปเลย

ตั้งแต่ชื่อของรุ่นที่ต่อท้ายด้วยคำว่า Ultra ก็แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดในสุดยอดอีกที ถึงในรุ่น Pro จะมี Pro Max มายกระดับให้อยู่บนสุดแล้ว แต่ Ultra จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อนในไอโฟน ทว่าใน Apple Watch ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองกันไปแล้ว นั่นคือเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา การมาของ Apple Watch Ultra เป็นการประเดิม New Era ของ Apple Watch ให้ก้าวสู่ความเหนือระดับทั้งประสิทธิภาพ ความแข็งแกร่ง และความสวยดุดัน แน่นอนว่าคอนเซปต์ของ iPhone 15 Ultra ก็อาจไม่แตกต่างกัน

สุดในสุด! เจาะลึก “iPhone 15 Ultra” ไอโฟนที่จะมาปฏิวัติไอโฟน

USB-C ที่เหนือกว่า

Mark Gurman เปิดเผยถึงสเปกของ "iPhone 15 Ultra" ว่าจะมาพร้อม USB-C ซึ่งจะเป็นพอร์ตมาตรฐานที่ไอโฟนทุกรุ่นนับตั้งแต่ iPhone 15 เป็นต้นไปจะต้องใช้ แต่ก็ยังมีการคาดเดาอีกว่าใน iPhone 15 Ultra จะได้ USB-C 3.2 ที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 20Gb/s หรืออาจจะเล่นใหญ่กว่านั้นคือใส่พอร์ตThunderbolt 3 มาให้ ซึ่งมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลถึง 40Gb/s

ซูมได้ไกลกว่าเดิม

ถึงแม้ที่ผ่านมาเรื่องการซูมของกล้อง iPhone จะเป็นจุดอ่อนที่บางแบรนด์เอาไปพัฒนาให้เป็นจุดแข็ง แต่ใน "iPhone 15 Ultra" มีข่าวลือว่าจะใส่เลนส์ Periscope ซึ่งเหนือกว่าเลนส์ Telephoto ในสมาร์ทโฟนทั่วไปที่จะมีข้อจำกัดอยู่ค่อนข้างมาก โดยเลนส์ Periscope จะใช้ปริซึมหลายๆ แผ่น หักเหแสงให้เปลี่ยนทิศทางเข้ามายังเลนส์ในมุม 90 องศา แล้วจัดวางชิ้นเลนส์กับเซ็นเซอร์รับภาพในแนวยาว จึงมีพื้นที่ขยับชิ้นเลนส์มากขึ้น และได้ทางยาวโฟกัสไกลกว่าเลนส์ Telephoto มาก ทำนองเดียวกับเลนส์ Periscope ใน Samsung Galaxy S23 Ultra

แข็งแกร่งด้วยไทเทเนียม

การใช้วัสดุไทเทเนียมคือคอนเซปต์เดียวกับ "Apple Watch Ultra" นั่นเท่ากับว่า "iPhone 15 Ultra" จะแข็งแกร่งขึ้นมากๆ แต่สิ่งที่ตามมาคือเป็นไปได้ว่าสีสันของตัวเครื่องก็จะมีเพียงสีเดียวคือสีไทเทเนียมเหมือน Apple Watch Ultra ทั้งด้วยเหตุผลเรื่องวัสดุ และถ้าหากเคลือบสีก็จะมีปัญหาสีหลุดร่อนอยู่ดี

สุดในสุด! เจาะลึก “iPhone 15 Ultra” ไอโฟนที่จะมาปฏิวัติไอโฟน

มีปุ่ม Solid State

Ming-Chi Kuo วิเคราะห์ว่า "iPhone 15 Ultra" อาจใช้ปุ่มทั้งหมดเป็นแบบ Solid State คือปุ่มที่ต้องใช้การสัมผัสจากผิวหนังโดยตรงหรืออุปกรณ์ที่เป็นแบบ Capasitive Touch เท่านั้น เป็นปุ่มที่ฝัง Taptic Engines โดยเทคโนโลยีนี้ถูกใช้กับ TouchPad บน MacBook Pro และทำนองเดียวกับปุ่ม Home ของ iPhone 7 ที่ไม่ใช่ปุ่มจริงๆ แต่กดลงไปได้คล้ายปุ่มจริงๆ

ดีไซน์โค้งมน

ถ้าเป็นจริง นี่คือการกลับมาใช่ดีไซน์โค้งมันอีกครั้งของ iPhone หลังจากยุคหลัง iPhone เน้นความเหลี่ยมและขอบคมๆ ซึ่งความโค้งมนที่คาดว่าจะปรากฏบริเวณขอบด้านหลังตัวเครื่อง จะช่วยทั้งเรื่องความรู้สึกเวลาจับถือ และหน้าตาจะไปทางเดียวกับ Apple Watch Ultra มากขึ้นด้วย

สุดในสุด! เจาะลึก “iPhone 15 Ultra” ไอโฟนที่จะมาปฏิวัติไอโฟน

แบตจะอึดขึ้น

แบตเตอรี่ iPhone ขึ้นชื่อว่าไหลเป็นน้ำ แม้ในรุ่นหลังๆ การอัพเดท iOS จะทำให้ดีขึ้นบ้าง ไหลหนักกว่าเดิมบ้าง แต่ใน "iPhone 15 Ultra" คาดว่าจะมีการจัดการพลังงานที่ดีขึ้นมากจนเรียกว่าเป็น iPhone ที่แบตอึดที่สุดตั้งแต่มีมา ซึ่งเป็นเหตุมาจากชิป A17 Bionic ที่จะมาใน iPhone 15 Series

Mark Liu ประธานของ TSMC ที่ผลิตชิปให้ Apple เคยให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า กระบวนการ 3 นาโนเมตร มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าชิป 5 นาโนเมตร ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลงประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ หมายความชิปตัวนี้จะไม่ได้เน้นที่ความแรง (ซึ่งแรงอยู่แล้ว) แต่ได้เรื่องประหยัดพลังงานมากๆ

ราคาแรงขึ้น

สิ่งที่ตามมาจากการเพิ่มสเปกไปแบบสุดกู่นี้ คือราคาที่ต้องแพงขึ้นแน่นอน แต่ที่ว่าแพงนั้นจะไปไกลแค่ไหน ข้อมูลจากเว็บไซต์ HowToiSolve อ้างว่า iPhone 15 Ultra อาจมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,199 – 1,299 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 41,790 – 45,200 บาท ซึ่งแพงกว่าเดิม 100-200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6,990 บาท เมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นของ iPhone 14 Pro Max