รู้จัก “Xiaomi 13 Series” สมาร์ทโฟนเรือธงที่ใครๆ ก็ถ่ายภาพได้อย่างโปร

จับมือกันอีกครั้งระหว่าง Xiaomi และ Leica เพื่อสร้างสรรค์สุดยอดเทคโนโลยีการถ่ายภาพใน Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน Mobile World Congress 2023 ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ซึ่ง Xiaomi ออกแบบทางวิศวกรรมร่วมกับ Leica มาพร้อมเลนส์ออปติคัลระดับโปรของ Leica รวมถึงความสามารถและคุณสมบัติระดับพรีเมียมอื่นๆ อีกเพียบ

KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะพามาทำความรู้จัก Xiaomi 13 Series ก่อนที่เข้ามาจำหน่ายในอนาคตอันใกล้นี้ ผ่าน 3 จุดเด่นของสมาร์ทโฟนซีรีส์นี้ ที่ถูกมองว่าอาจเป็นรุ่นที่มาพลิกเกมให้ "Xiaomi" กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้งในสังเวียนสมาร์ทโฟนปีนี้เลยทีเดียว

สุดยอดกล้องตามสไตล์ Leica

กล้องของ "Xiaomi 13" และ "Xiaomi 13 Pro" ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับ "Leica" เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนระดับมืออาชีพ สมาร์ทโฟนทั้งสองมาพร้อมกับกล้องสามตัวพร้อมเลนส์ออปติคัลจาก Leica ประกอบไปด้วยกล้องเลนส์ไวด์ 23 มม. พร้อมเซ็นเซอร์ IMX989 ขนาดใหญ่พิเศษ 1 นิ้ว กล้องเทเลโฟโต้ลอยตัว 75 มม. และเลนส์อัลตร้าไวด์ 14 มม.

แล้วยังมีเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ที่เรียกว่า IMX989 ทำให้ได้ภาพที่มีสีสันพร้อมคอนทราสต์ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดและเก็บทุกรายละเอียดของทุกพื้นผิวได้อย่างยอดเยี่ยม

นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีการโฟกัสภาพในระดับ DSLR ทำให้เลนส์เทเลโฟโต้ขนาด 75 มม. นั้นใช้ประโยชน์จากการออกแบบเลนส์แบบลอยตัว (a floating lens design) เพื่อให้ได้ช่วงโฟกัสตั้งแต่ 10 ซม. ถึงระยะอินฟินิตี้ ทำให้การถ่ายภาพบุคคลและภาพถ่ายระยะใกล้ดีเยี่ยม

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีสไตล์การถ่ายภาพที่แตกต่างกันให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Leica Authentic Look และ Leica Vibrant Look เลือกความอิ่มตัวของสีได้ตามความเหมาะสม

ในเรื่องการโฟกัสคือจุดเด่นอีกอย่างที่เสียวหมี่ทำให้ "Xiaomi 13 Series" เข้าใกล้คำว่ากล้องสำหรับมืออาชีพมากที่สุด เพราะมาพร้อม Xiaomi ProFocus โฟกัสวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้โดยอัตโนมัติทั้งแม่นยำและรวดเร็ว

Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro ยังเก่งเรื่องวิดีโอด้วย มี Create in Dolby Vision® เพื่อสีสันที่สวยสมจริง, คอนทราสต์จัดจ้าน และรายละเอียดที่สมบูรณ์ แถมยังถ่ายวิดีโอ 4K Ultra Night ได้ รวมถึงมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วย HyperOIS สำหรับการจับภาพวิดีโอคุณภาพสูงด้วย

เร็วปรี๊ดและทรงพลัง

"Xiaomi 13" และ "Xiaomi 13 Pro" ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon®️ 8 Gen 2 มี GPU ที่ดีขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และมี CPU ประสิทธิภาพดีขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานต่างๆ ทั้งถ่ายภาพ, AI แบบเรียลไทม์ หรือการเล่นเกม มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เรื่องการจัดการแบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนซีรีส์นี้มี Xiaomi Surge ซึ่งใช้ชิปการชาร์จ Surge ที่พัฒนาขึ้นเองของ "Xiaomi" ช่วยยืดอายุการใช้งาน

สำหรับความจุของแบตเตอรี่ Xiaomi 13 มาพร้อมแบตขนาด 4,500mAh ที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูงที่สุดภายใต้กำลังไฟเดียวกัน ทำให้ใช้งานได้ตลอดวัน นอกจากนี้ยังรองรับเทอร์โบชาร์จแบบมีสาย 67W และเทอร์โบชาร์จไร้สาย 50W ในขณะที่ Xiaomi 13 Pro ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,820mAh พร้อมระบบ HyperCharge 120W ซึ่งเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ได้ในเวลาเพียง 19 นาที

ด้านการเชื่อมต่อ "Xiaomi 13 Series" รองรับ Wi-Fi 7 พร้อมระบบเชื่อมต่อมือถือ Qualcomm® FastConnect™ 7800 Xiaomi 13 Pro มาพร้อมเทคโนโลยี Multi-Link High Band Simultaneous (HBS) ช่วยให้เชื่อมต่อ 5GHz และ/หรือ 6GHz ได้หลายรูปแบบพร้อมกัน

จอสวยและดีที่สุดของ Xiaomi

"Xiaomi 13" มีดีไซน์จอแบบ flat พร้อมขอบแบน และดีไซน์ด้านหลังโค้งแบบ 2.5 มิติ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มสัมผัสที่กระชับมือ โดยมาพร้อมอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.3 เปอร์เซ็นต์ และขอบจอบางเฉียบเพียง 1.61 มม. จึงมอบประสบการณ์การรับชมที่สมจริงไม่เป็นรองใครสำหรับอุปกรณ์ขนาดเท่านี้

จอแสดงผลเป็น AMOLED FHD+ ขนาด 6.36 นิ้ว และใช้วัสดุ E6 AMOLED แบบใหม่เพื่อให้ภาพที่สว่างและสีที่แม่นยำยิ่งขึ้นด้วยการใช้พลังงานที่น้อยลง และมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, White และ Flora Green

ส่วน "Xiaomi 13 Pro" ตัวเครื่องผลิตด้วยเซรามิกโค้งมน 3 มิติเพื่อให้ดูสม่ำเสมอไปจนถึงตัวกล้อง มาพร้อมหน้าจอแสดงผล 120Hz WQHD+ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.73 นิ้ว และด้วยการใช้วัสดุ E6 แบบเดียวกัน ทำให้ตัวอุปกรณ์ให้ความสว่างเต็มหน้าจอ 1,200 nits และให้ความสว่างสูงสุด 1,900 nits รวมทั้งยังแสดงสีที่แม่นยำด้วย TrueColor ด้วย Dolby Vision®, HDR10+, HDR10, HLG รวมถึง Dolby Atmos® ได้อีกด้วย โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ceramic Black และ Ceramic White