‘ลาซาด้า’ สานแผนลงทุนประเทศไทย ดันแคมเปญใหญ่งัดกำลังซื้ออีคอมเมิร์ซ
“ลาซาด้า” ต่อยอดความแข็งแกร่งอีคอมเมิร์ซ เดินหน้าลงทุนหนุนการเติบโตแบบยั่งยืน ปักธงพัฒนาบริการ ประสบการณ์ลูกค้า พร้อมนำจุดแข็งด้านเทคโนโลยีมาพัฒนานวัตกรรมยกระดับทุกมิติอีโคซิสเต็มส์
Keypoints
- เพิ่มการลงทุนในประเทศไทย เน้นพัฒนาบริการ ประสบการณ์ลูกค้า ใช้เทคโนโลยีเสริมแกร่งอีโคซิสเต็ม
- อัดแคมเปญ “เซลใหญ่จัดเต็ม 11 วัน” ระหว่าง 3 – 13 มีนาคม จัดดีลลดแรง สูงสุด 90%
- ภาพรวมอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซประเทศไทย ปี 2566 จะเติบโต 13% มูลค่า 6 แสนล้านบาท
แม้ว่าโควิดจะคลี่คลาย แต่อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มการเติบโต ท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอ ภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาหนี้ครัวเรือน น่าติดตามว่า ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างๆ จะงัดกลยุทธ์ใดออกมากระตุ้นกำลังซื้อ ทำให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายกันมากขึ้น...
ธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของลาซาด้าปีนี้ยังคงมีแผนเพิ่มการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยหลักๆ เน้นที่การพัฒนาบริการ ประสบการณ์ลูกค้า พร้อมนำจุดแข็งด้านเทคโนโลยีในเครืออาลีบาบามาพัฒนานวัตกรรมทำให้ภาพรวมอีโคซิสเต็มเติบโตอย่างแข็งแรง
“เราเน้นการดำเนินกิจการในระยะยาวและเติบโตอย่างมีคุณภาพ ด้วยการนำเสนอบริการที่แตกต่าง ประสบการณ์การซื้อขายออนไลน์ที่ราบรื่นและปลอดภัย และการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม”
หลังจากนี้ เดินหน้าตอบโจทย์นักช้อปด้วยฟีเจอร์และบริการใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์ชอปปิงออนไลน์ในทุกมิติ พร้อมมีแคมเปญลดราคาต่อเนื่องไม่เพียงเมกะแคมเปญหรือดับเบิลเดท แต่จะทำให้สามารถช้อปได้ทุกวัน
ลงทุนปูทางเติบโตแบบยั่งยืน
สำหรับการแข่งขัน มองว่าแค่เรื่องของโปรโมชันเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ จะต้องมีการสร้างประสบการณ์ที่ดี ครอบคลุม ซึ่งรวมไปถึงบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด
เป้าหมายหลักของลาซาด้าในปีนี้ คือ การต่อยอดความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนต่อธุรกิจ
ควบคู่ไปกับการนำเสนอบริการและฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปออนไลน์และสร้างความประทับใจให้ผู้บริโภค
“ลาซาด้าให้ความสำคัญกับการนำเสนอบริการที่แตกต่างให้กับผู้บริโภค ประสบการณ์การซื้อขายออนไลน์ที่ราบรื่นและปลอดภัย รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างอีโคซิสเต็มที่ยั่งยืน”
อีคอมเมิร์ซไทยโตต่อเนื่อง
ข้อมูลจากรายงานแนวโน้มตลาดอีคอมเมิร์ซ ระบุว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซประเทศไทย ปี 2566 จะเติบโตราว 13% มูลค่า 6 แสนล้านบาท ปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ราว 16% ของภาพรวมค้าปลีก
สอดคล้องกับข้อมูลจากรายงาน Transforming Southeast Asia – From Discovery to Delivery ที่ลาซาด้าจัดทำขึ้นเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมนักช้อปในปีที่ผ่านมาซึ่งชี้ว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์
โดย 74% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์อย่างน้อยเดือนละครั้ง และ 25% ซื้อสินค้าหลายครั้งต่อสัปดาห์ พร้อมคาดการณ์ว่า จำนวนผู้ใช้อีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะเพิ่มเป็น 61.8% หรือ 43.5 ล้านคน ภายในปี 2568
ลาซาด้าเผยด้วยว่า ช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ขายในไทยที่ดำเนินธุรกิจบนลาซาด้าเพิ่มขึ้นกว่า 30% แม้ว่าโควิดจะคลี่คลายแต่ลาซาด้าพบว่าการค้าบนอีคอมเมิร์ซยังคงขยายตัว ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่คุ้นชินกับการจับจ่ายสินค้าบนโลกออนไลน์
จัดเต็มมหกรรมลดราคา 11 วัน
ล่าสุด จัดมหกรรมช้อปปิงสุดยิ่งใหญ่กับแคมเปญ “เซลใหญ่จัดเต็ม 11 วัน” ต่อยอดความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทย ด้วยการเดินหน้าสร้างการเติบโตให้อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในประเทศ
ควบคู่กับการมอบประสบการณ์การชอปปิงออนไลน์ที่แตกต่างและครบวงจร พร้อมเอาใจนักช้อปกับเซลใหญ่ของเดือนมีนาคม จัดเต็มด้วยส่วนลดแรงสูงสุดถึง 6 ต่อ ส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ ดีลลดสูงสุดถึง 90%
พร้อมมี ส่วนลดสูงสุด 6 ต่อ และโปรโมชันอื่น ๆ อีกจำนวนมากมาย โดยมีกำหนดจัดถึง 11 วัน ระหว่างวันที่ 3 – 13 มี.ค. 2566 นี้ ที่ผ่านมาเทียบกับช่วงเวลาปกติยอดขายของผู้ค้ามีโอกาสเติบโตได้เป็นตัวเลขสามหลัก
ชยพร ลัทธิโสภณกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ลาซาด้ามุ่งนำเสนอแรงบันดาลใจและความแปลกใหม่มาให้ผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแคมเปญ “เซลใหญ่จัดเต็ม 11 วัน” ในครั้งนี้ ตั้งใจเปลี่ยนเดือนมี.ค.ให้เป็นเดือนที่มีสีสัน ด้วยมหกรรมชอปปิงสุดยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมดีลจัดเต็มในหลากหลายหมวดหมู่
นอกจากนี้ มีข้อเสนอสุดพิเศษจากแบรนด์ใน LazMall และกิจกรรมสุดพิเศษจากศิลปินชื่อดังและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของลาซาด้าบน LazLive เพื่อเพิ่มความสนุกให้แฟนๆ