‘เอปสัน’ ชูกลยุทธ์ ‘NEW 5’ ดันธุรกิจโต 10%

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอปสันมีการรับรู้รายได้รวมจากการขายผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มในปี 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 10% ซึ่งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่สามารถทำได้ตั้งแต่การระบาดของโควิด-19

โดยมีปัจจัยสนับสนุน จากการที่ภาคธุรกิจเอกชนและหน่วยงานราชการมีการลงทุนกับอุปกรณ์ไอที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร สถาบันการศึกษานำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปใช้ในกระบวนการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น

อีกทั้งยังมีมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายของภาครัฐผ่านโครงการต่างๆ และการที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้มีการจัดกิจกรรมการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้ มีปัจจัยบวกจากการที่ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว ภาคการผลิตของไทยยังใช้ระบบซัพพลายเชนภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ก็เริ่มคลี่คลาย ซึ่งตัวอย่างเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ตลาดไอทีในประเทศมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของธุรกิจเอปสันประเทศไทยในปีที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงที่สุดถึง 170%, กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมโปรเจคเตอร์เติบโต 64% อันดับที่ 3 กลุ่มเครื่องพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัลที่เติบโต 52%

ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีการเติบโตได้ดี ได้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ความสว่างสูง ที่มีการเติบโตอยู่ที่ 43% กลุ่มเครื่องพิมพ์มินิแล็บที่เติบโต 29%, เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทขนาดใหญ่ 23%

"ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดไอทีต้องเผชิญกับบรรยากาศที่อึมครึม เริ่มตั้งแต่วิกฤติโควิด-19 มาจนถึงผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เอปสันได้ดำเนินกลยุทธ์ในหลายมิติจนสามารถก้าวข้ามความท้าทายมาได้ ในปี 2566 นี้"

สำหรับเป้าหมายและกลยุทธ์ธุรกิจของปี 2566 เอปสันตั้งเป้าที่จะสร้างการเติบโตให้ได้มากกว่า 10% เป็นปีที่สามติดต่อกัน เน้นสร้างความเคลื่อนไหวใหม่ๆ ให้กับธุรกิจที่ดำเนินงานอยู่ ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า "New 5"

ประกอบด้วย New S-curve, New Target, New Business Model, New Service และ New Experience โดยยึดหลักความยั่งยืน (Sustainability) เป็นสารสำคัญที่จะถ่ายทอดผ่านกลยุทธ์ทุกทาง

เอปสันเน้นการทำตลาดเชิงรุกและมีพลวัต มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ด้วยโซลูชั่นด้านผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อนำเสนอ “คุณค่าที่แตกต่าง” (Value) ที่ผสมผสานแนวคิดด้าน "ความยั่งยืน (Sustainability)" ทั้งด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมนำพาธุรกิจของผู้ใช้งานเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน