ดีเดย์รับสมัครเลขาฯกสทช.วันแรก "ปธ.บอร์ด" ยันมีอำนาจสรรหาเอง
เปิดรับสมัครเลขาธิการกสทช.แล้ว 20 มี.ค.-7 เม.ย. "สรณ" เตรียมสรรหาเอง-เลือกเองเหลือ 1 คน เสนอให้บอร์ดกสทช.เห็นชอบ คาดได้คนถูกใจภายในเดือนเม.ย.นี้ ยันมีอำนาจตามกฎหมายเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ได้ลงประกาศด้วยอำนาจประธานบอร์ด กสทช. ในการเปิดรับสมัครตำแหน่งเลขาธิการกสทช.แล้วเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจะใช้เวลาในการเปิดรับสมัครตามกฎหมาย 14 วัน เริ่มวันที่ 20 มี.ค.-7 เม.ย. 2566
จากนั้น ประธานบอร์ด กสทช. จะเป็นผู้คัดเลือกเองเหลือ 1 คน จากที่คาดการณ์ว่าอาจจะมีผู้สนใจถึง 10 คน โดยกรรมการกสทช.ทีเหลือมีหน้าที่เห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ เท่านั้น หากไม่เห็นชอบต้องบอกเหตุผลด้วยว่าเพราะอะไร
ซึ่งการคัดเลือกเลขาธิการกสทช.เองนั้นเป็นอำนาจของประธานตามกฎหมายที่มีทางเลือก 2 ทาง คือ ให้กรรมการทุกคนโหวต หรือ ประธานเลือกเหลือ 1 คน ให้กรรมการที่เหลือเห็นชอบ ซึ่งเหตุผลที่ตัวเองเลือกทางเลือกในการคัดสรรเองนั้นเพราะตำแหน่งประธานและเลขาธิการกสทช.ทำหน้าที่ดูแลสำนักงานเหมือนกัน และต้องทำงานเข้ากันได้ ไม่เกี่ยงเพศ หน้าตา มีความยุติธรรม ขณะที่กรรมการกสทช.ที่เหลือไม่ได้มีหน้าที่ดูแลสำนักงานเหมือนอย่างประธาน
อย่างไรก็ตาม เรื่องการสรรหาเลขาธิการกสทช.นี้ ตัวเองคิดมานานแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค. 2566 และต้องการได้ให้เร็วที่สุด แต่ต้องติดกับวาระเร่งด่วนอื่นๆ ทำให้ถูกเลื่อนมาโดยตลอด ดังนั้นภายในเดือน เม.ย.นี้จะต้องได้เลขาธิการกสทช.
"ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้ชงเอง กินเอง ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ที่จะต้องเร่งให้จบก่อนภายในรัฐบาลนี้ และสเป็คของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งไม่เกี่ยงเรื่องเพศ จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ ขอแค่ทำงานเข้าใจกัน มีความซื่อสัตย์ และมีความรู้ความสามารถ"
สำหรับผู้สมัครเลขาธิการ กสทช. กำหนดไว้ดังนี้
มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์ในวันแต่งตั้ง แต่ไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์
และผู้สมัครต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม อาทิ
เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง
เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
ติดยาเสพติดให้โทษ
เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจหรือจากหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
อย่างไรก็ดี ประเด็นการสรรหาเลขาธิการกสทช. มีประเด็นขึ้นเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ผลการประชุมบอร์ดนัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2566 ได้พิจารณาเรื่อง พิจารณากำหนดคุณสมบัติอื่นของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการกสทช. โดยศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานบอร์ด กสทช. ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงกระบวนการที่จะใช้ในการสรรหา เลขาธิการ ตามหน้าที่ประธาน กสทช. ตามมาตรา 61 วรรค 1 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ระบุว่า “ให้ประธานกรรมการ โดยความเห็นชอบของ กสทช. เป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการ กสทช.” เพื่อคัดสรรบุคคลผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม เรื่องการให้อำนาจประธานกสทช.เป็นผู้เสนอรายชื่อผู้เข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาธิการกสทช.แต่เพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ อาศัยเรื่องการใช้อำนาจประธาน กสทช. เป็นผู้เลือกเลขาธิการ กสทช. แต่เพียงผู้เดียว โดย อ้างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรา 61 ให้ประธานกรรมการ โดยความเห็นชอบของ กสทช. เป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการ กสทช.
โดยบอร์ดกสทช.ที่เห็นด้วยนอกจากประธานกสทช.แล้ว ยังมีนายต่อพงศ์ เสลานนท์ กสทช. (ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน) และ พลตำรวจเอกณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. (ด้านกฎหมาย)