‘เอดับบลิวเอส’ คลาวด์ เพิ่มแต้มต่อธุรกิจยุคใหม่

“ท่ามกลางความท้าทายทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ การเงิน คลาวด์กำลังกลายเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยฝ่าฟันวิกฤติ”

วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส หรือ เอดับบลิวเอส แสดงทัศนะ

ทั้งนี้ เนื่องจากการพัฒนวัตกรรมมีความสำคัญอย่างมากต่อการแข่งขันในตลาดโลก และการใช้กลยุทธ์ “Cloud First” มีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

ที่ผ่านมา กลุ่มเอสเอ็มบีและสตาร์ทอัปต้องเผชิญกับความท้าทายที่สูงมาก โดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อและเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งจากผลสำรวจระบุว่าเม็ดเงินที่จะลงทุนในสตาร์ทมีแนวโน้มลดลงกว่า 35%

ดังนั้น คลาวด์คือคำตอบที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ทั้งด้านการพัฒนานวัตกรรม การปรับใช้เทคโนโลยี ไทม์ทูมาร์เก็ต ช่วยลดค่าใช้จ่าย รวมถึงประเด็นด้านความยั่งยืนและปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โจทย์ที่ท้าทายของธุรกิจทุกภาคส่วน

การ์ทเนอร์ดาดการณ์ว่า การใช้จ่ายในบริการคลาวด์สาธารณะในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น 31.8% ในปี 2566 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตทั่วโลกที่ 20.7%

เอดับบลิวเอสเผยว่า มุ่งนำเทคโนโลยีคลาวด์ช่วยยกระดับศักยภาพองค์กร นอกจากการขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรม ลดค่าใช้จ่าย มีโครงการที่จะช่วยทำให้ช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านมาสู่คลาวด์ทำได้ง่ายขึ้น

ล่าสุด ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับเลือกให้จัดทำโครงการ “AWS Lift” โปรแกรมที่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมปรับธุรกิจสู่รูปแบบดิจิทัล

โดยลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันที่เข้าร่วมจะได้รับเครดิตจากเอดับบลิวเอส เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการกว่า 200 บริการ โปรแกรมนี้จะช่วยให้เอสเอ็มบีที่เข้าร่วมได้รับประโยชน์จากบริการของบริษัทโดยไม่ต้องกังวลด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเงินดอลลาร์แรกที่จ่ายจะปลดล็อกเครดิตมูลค่า 750 ดอลลาร์ (26,300 บาท) ในบัญชีของลูกค้า

ขณะที่ การใช้บริการที่เพิ่มขึ้นจะได้รับเป็นเครดิตเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นด้วยมูลค่าสูงสุด 83,500 ดอลลาร์ (2.93 ล้านบาท) เป็นระยะเวลา 12 เดือน

“สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันได้เพิ่มแรงกดดันทางการเงินในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มบีที่มักมีข้อจำกัด ด้วยค่าธรรมเนียมการเรียกเก็บเงินขั้นต่ำเพียง 1 ดอลลาร์ และไม่จำกัดระยะเวลาล็อคอินหรือค่าธรรมเนียมแอบแฝง โปรแกรมนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและมอบแนวทางที่ปราศจากข้อผูกมัดให้กับธุรกิจในการเริ่มต้นใช้งาน หลังจากนั้นสามารถจ่ายเงินตามการใช้งานจริง มีความยืดหยุ่น เอื้อต่อการพัฒนาและการเปลี่ยนกระบวนการในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ใหม่ๆ”

อย่างไรก็ดี หลังจากเริ่มโครงการไปเมื่อต้นเดือนมี.ค. ผลปรากฏว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ปัจจุบันในไทยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมแล้วกว่า 60 ราย และยังคงเปิดกว้างให้เข้าร่วมแบบไม่จำกัด หลักๆ ผู้ที่เข้ามาใช้งานเน้นเรื่องการย้ายเวิร์คโหลดเก่าเพื่อทรานส์ฟอร์มมาสู่คลาวด์

วัตสันเผยว่า แนวทางการทำงานของเอดับบลิวเอส เน้นเข้าไปช่วยลดข้อจำกัดการลงทุนไอทีแบบเดิมๆ และใช้มายเซ็ตแบบใหม่ที่จะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปแบบยืดหยุ่นกว่าเดิม

ที่สำคัญสามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด สเกลจากหนึ่งไปถึงร้อยได้ภายในหลักวัน ไม่ใช่เป็นปีเหมือนแต่ก่อน ขณะเดียวกันร่วมปูทางเพื่อผลักดันการเติบโตธุรกิจไทยไปสู่ระดับภูมิภาคหรือระดับโลก

นอกจากนี้ Lift น่าจะมีส่วนสำคัญต่อการจุดประกายเรื่องการสนับสนุนเอสเอ็มบี ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมของประเทศไทย ทั้งยังช่วยเรื่องการแข่งขันทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก

“เราเชื่อในเรื่องการสร้างและพัฒนาด้วยตนเอง มากกว่าแค่การไปซื้อกิจการหรือทำตามบริษัทอื่น เชื่อว่าถ้าลูกค้ากระโดดไปคลาวด์แล้วธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ดี หลังจากนั้นแน่นอนว่าพวกเขาจะกลับมาใช้บริการเอดับบลิวเอสมากขึ้นเอง”

พร้อมกับย้ำว่า เอดับบลิวเอสมุ่งมั่นที่จะลงทุนในประเทศไทยในระยะยาว สอดคล้องไปกับแผนการลงทุนก่อนหน้านี้ที่ประกาศว่าจะสร้าง “AWS Asia Pacific (Bangkok) Region” ด้วยงบประมาณกว่า 190,000 ล้านบาท ระยะเวลา 15 ปี ซึ่งความคืบหน้าขณะนี้ยังคงเดินหน้าไปตามแผนและคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้งานได้ตามระยะเวลาที่ตั้งเป้าไว้