หัวเว่ย เปิดตัว “ผานกู่” เทคโนโลยี AI พร้อมพลิกโฉมอุตฯ โลก
หัวเว่ย เปิดตัว “ผานกู่” เทคโนโลยี AI แบบใหม่ที่พร้อมพลิกโฉมภาคอุตสาหกรรมโลก ตอกย้ำความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการมอบความสามารถทางเทคโนโลยีให้กับลูกค้าภาคอุตสาหกรรม และพันธมิตรต่าง ๆ รวมทั้งเดินหน้าปลดล็อคศักยภาพระดับปฏิวัติวงการของ AI
หัวเว่ย เปิดตัว “ผานกู่ โมเดล 3.0” (Pangu Model 3.0) และบริการคลาวด์ ภายใต้ชื่อ “แอสเซนด์ AI” (Ascend AI) โดยนายฉาง ผิงอัน กรรมการบริหารของหัวเว่ย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย คลาวด์ ได้เปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI รูปแบบใหม่ ในระหว่างการขึ้นกล่าวภายในงานสัมนา Huawei’s Developer Conference พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการมอบความสามารถทางเทคโนโลยีให้กับลูกค้าภาคอุตสาหกรรม และพันธมิตรต่างๆ รวมทั้งเดินหน้าปลดล็อคศักยภาพระดับปฏิวัติวงการของ AI
ผานกู่ โมเดล 3.0 เป็นระบบที่ได้ผ่านการเรียนรู้เบื้องต้น และสามารถที่จะปรับความสามารถของตัวเองให้เข้ากับความต้องการในรูปแบบเฉพาะและซับซ้อนของแต่ละภาคอุตสาหกรรม โดย ผานกู่ โมเดล 3.0 นั้นใช้ประโยชน์จากการประมวลผลของข้อมูลจำนวนมากที่มี พร้อมกับการใช้อัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง หรือ machine learning algorithms เพื่อพลิกโฉมการใช้งาน AI ในหลากหลายอุตสาหกรรม
เทคโนโลยีผานกู่ โมเดล 3.0 จะประกอบไปด้วยศักยภาพหลักในการทำงาน 3 ด้าน ซึ่งสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการฝึกอบรมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้าน การพยากรณ์อากาศ การพัฒนาสูตรยา รวมไปถึง การรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่มีความเฉพาะทาง เช่น การตรวจจับข้อมูลทางการเงิน การตรวจสอบไฟล์ข้อมูล หรือการพยากรณ์คลืนลมทางทะเล อนาคตของปัญญาประดิษฐ์นั้นขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน และการจัดการงานเฉพาะทางต่างๆ ด้วยความแม่นยำในสเกลขนาดใหญ่
นอกจากนี้ แม้งานระดับเล็กลงมาอย่างเรื่องการตรวจสอบคุณภาพในสายการผลิตอาจจะดูเป็นเรื่องที่เล็กน้อยและไม่มีความท้าทาย แต่ประสบการณ์ร่วมทั้งหมดที่ได้จากการเก็บข้อมูลจากหลายสายการผลิตและหลายองค์กรจะช่วยนำไปสู่การพัฒนาในอนาคตและทางออกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ ในแง่มุมนี้ การติดตั้งและประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ จะช่วยแสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในด้านการฝึกอบรม
นายฉาง กล่าวว่า “ผานกู่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหัวเว่ย คลาวด์ นั้น จะเข้ามาช่วยให้ผู้ใช้งานในหลายอุตสาหกรรม ให้พวกเขาได้มีผู้ช่วยอัจฉริยะ เพื่อให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเรายังคงยึดมั่นในพันธกิจที่ต้องการจะมอบ “AI เพื่อผู้ใช้งานในทุกภาคอุตสาหกรรม” และเราจะส่งมอบ ผานกู่ เพื่อให้ AI ช่วยพลิกโฉมหน้าธุรกิจต่าง ๆ ในทุกภาคส่วน”
วารสาร Nature ซึ่งเป็นวารสารทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้อ่านทั่วโลก ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่เผยให้เห็นถึงบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ที่จะมีมากขึ้นในการพยากรณ์อากาศ โดยเห็นได้จากการที่ ทีมนักพัฒนาระบบพยากรณ์อากาศของผานกู่ สามารถพัฒนาระบบพยากรณ์อากาศทั่วโลกโดยใช้ AI ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นการใช้เพียงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะธรรมดาคำนวณข้อมูลสถิติที่มีการเก็บไว้ถึง 43 ปี
ระบบดังกล่าวสามารถคาดการณ์สภาวะอากาศล่วงหน้าได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที โดยให้ผลที่มีความแม่นยำมากกว่าการคำนวณในรูปแบบเดิม ๆ มากกว่าถึงร้อยละ 20 ในระยะเวลาที่เร็วกว่าถึง 10,000 เท่า การคำนวณนี้มีการใช้ปัจจัยที่หลากหลายในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปเพื่อการพยากรณ์สภาพอากาศที่แม่นยำ รวมถึงสามารถบอกได้ถึงระดับความชื้น ความเร็วลม อุณหภูมิ และระดับน้ำทะเลได้
ระบบพยากรณ์อากาศดังกล่าวจะสามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างมหาศาลในหลายภูมิภาคและหลายประเทศทั่วโลกที่มักได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความแปรปรวนของสภาพอากาศ เช่น ช่วยประเทศไทยพยากรณ์วิกฤติการทางสภาพอากาศและช่วยลดผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบบนี้ได้ช่วยพยากรณ์การเกิดไต้ฝุ่นมาวาร์ ได้อย่างแม่นยำเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมและประโยชน์ของการนำไปใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์
ผานกู่ โมเดล 3.0 ยังสามารถนำมาใช้เพื่อกำกับขั้นตอนการทำงานและความปลอดภัยในอุตสาหกรรมเหมืองอีกด้วย อุตสาหกรรมเหมืองในรูปแบบดั้งเดิมนั้น ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยง รวมทั้งต้องใช้กำลังคนจำนวนมาก และมีความท้าทายทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีและความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเหมืองได้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งาน โดยเมื่อมีการนำข้อมูลจำนวนมหาศาลเข้าไปในระบบเพื่อเป็นการเรียนรู้เบื้องต้นแล้ว ผานกู่ จะสามารถเรียนรู้สถานการณ์ต่างๆ ของอุตสาหกรรมเหมืองได้กว่า 1,000 สถานการณ์ย่อยด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีผู้ควบคุม ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการขุดเจาะเหมือง ไปจนถึงการควบคุมเครื่องมือ การขนส่ง และการสื่อสาร ประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ากับการทำงานของทุกภาคส่วนในกระบวนการทำเหมืองถ่านหิน
การนำความสามารถของทั้ง ผานกู่ โมเดล 3.0 จาก หัวเว่ย และบริการคลาวด์ แอสเซนด์ AI มาประยุกต์ใช้ จะทำให้ภาคธุรกิจสามารถยกระดับความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการผลิต ขับเคลื่อนความเติบโตให้กับองค์กร รวมถึงสร้างความได้เปรียบทางด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมนั้นๆ ได้
ทั้งนี้ หัวเว่ย ระบุว่า ยังคงยึดมั่นในพันธกิจ ‘เติบโตในประเทศไทย ร่วมสนับสนุนประเทศไทย’ และจะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมในภาพรวม ผ่านการพัฒนาโซลูชันดิจิทัลที่มีความชาญฉลาด เพื่อดึงศักยภาพด้านดิจิทัลออกมาได้อย่างแท้จริง และช่วยผลักดันประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่ยุคอัจฉริยะที่มีการเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์แบบได้