แกร็บ เร่งเปลี่ยนใช้รถ ‘อีวี’ สัดส่วนไม่น้อยกว่า 10%
แกร็บ เปิดแผนรักษ์โลก เร่งเปลี่ยนใช้รถ ‘อีวี’ สัดส่วนไม่น้อยกว่า 10% สำนักงานประเทศไทยปักธงใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ 100% ภายในปี 2030
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ผู้นำซูเปอร์แอป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวในงาน สัมมนาของ ฐานเศรษฐกิจ ROAD TO NET ZERO โอกาส & ความท้าทายทางธุรกิจ ว่า ธุรกิจของแกร็บแม้จะไม่ใช่เรียลเซ็กเตอร์ที่เป็นผู้ผลิตโดยตรง แต่ต้องยอมรับว่าการให้บริการขนส่ง ทั้งส่งของ ส่งอาหาร ส่งคน วันละนับล้านๆ เที่ยวก่อให้เกิดคาร์บอนและขยะพลาสติกจำนวนมาก
ดังนั้นแกร็บ วางยุทธศาสตร์ด้านอีเอสจีไว้อย่างชัดเจน โดยแบ่งออกเป็น 3 กลยุทธ์หลัก คือ การพัฒนาในส่วนของพาร์ทเนอร์ แพลตฟอร์ม และการรักษ์โลก
เขากล่าวว่า แนวทางการทำงานต้องคำนึงถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ทำให้พาร์ทเนอร์ได้รับผลกระทบ ที่วางแผนไว้ปี 2040 ตั้งเป้าหมายไปที่การเปลี่ยนผ่านจากรถน้ำมันไปใช้รถอีวี การใช้พลังงานหมุนเวียนภายในสำนักงาน ลดการปล่อยคอร์บอน และการทำคาร์บอนออฟเซ็ต โดยบางงานได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว
ขณะที่ แผนระยะสั้นปี 2026 หรือภายใน 3 ปีจากนี้ที่สามารถทำได้ก่อนเลยคือ การเปลี่ยนผ่านไปใช้รถอีวีให้ได้สัดส่วนไม่น้อยกว่า 10% , สำนักงานประเทศไทยปักธงใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ 100% ภายในปี 2030, การใช้เทคโนโลยีแผนที่มาช่วยทำให้การเดินทางเป็นเส้นทางที่ดีที่สุด มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการทำคาร์บอนออฟเซ็ตอย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนผ่านไปใช้อีวีเป็นหนึ่งในงานที่มีความท้าทายอย่างมาก จากการสำรวจพบว่าแรงจูงใจที่จะผลักดันให้เกิดการใช้งานจะมาจากแบรนด์ของมอเตอร์ไซค์ การซ่อมบำรุง และการขายต่อ
ดังนั้นแกร็บเริ่มต้นด้วยการใช้โมเดลเช่าใช้ พร้อมมีแอปสำหรับการเช่าใช้และบริหารจัดการที่ใช้งานง่าย สะดวก ผลที่ได้คือได้รับการตอบรับที่ดีมากและทำให้พาร์ทเนอร์คนขับประหยัดต้นทุนต่อวันไปได้กว่า 75% ในทันที
ปัจจุบัน แกร็บมีพาร์ทเนอร์คนขับกว่า 5 ล้านคน ร้านอาหาร 5 ล้านร้าน ขณะที่ 1 ใน 20 ของประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้บริการแกร็บเป็นประจำทุกเดือน
ส่วนของธุรกิจของแกร็บแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักคือ บริการการเดินทาง บริการดิลิเวอรี บริการทางการเงิน และบริการสำหรับองค์กร