‘ทรู-ดีแทค’ เจาะเทรนด์การเติบโตเศรษฐกิจ ‘ซิลเวอร์ อีโคโนมี’
ทรู-ดีแทค เจาะเทรนด์การเติบโตเศรษฐกิจซิลเวอร์ อีโคโนมี จับมือวัยเก๋ายกระดับประสบการณ์ชีวิตอัจฉริยะ สร้างอนาคตประเทศไทยสู่ดิจิทัล
ทรู-ดีแทค จับมือวัยเก๋ายกระดับประสบการณ์วิถีชีวิตอัจฉริยะ และไลฟ์สไตล์ทั้งความสะดวกสบาย การดูแลสุขภาพ เพื่อสร้างอนาคตประเทศไทยสู่ดิจิทัล ภายใต้ยุทธศาสตร์สำคัญของทรู คอร์ปอเรชั่น ที่มุ่งเติมเต็มชีวิตอัจฉริยะยิ่งขึ้น เพื่อทุกสไตล์ลูกค้า (Enhance Smart Life for Customers)
โดยหนึ่งในกลุ่มลูกค้าที่ทรูให้ความสำคัญคือ การทำตลาดโฟกัสกลุ่ม ซิลเวอร์ อีโคโนมี (Silver Economy) ระบบเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ตอบสนองความต้องการและความจำเป็นสำหรับผู้สูงวัย ที่ต้องการสินค้าและบริการที่ผสมผสานนวัตกรรม เทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์และความรู้ความเข้าใจที่ตอบสนองประชากรกลุ่ม Young Old (YOLD) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพการเติบโตเป็นอันดับต้นๆ ในตลาดโลก ล่าสุด ทรู และดีแทค ได้จัดกิจกรรม Walk Rally “Smart Senior” สำหรับกลุ่มผู้สูงวัย ในการเข้าถึงและให้บริการลูกค้ากลุ่มผู้สูงวัย ได้ออกไปใช้ชีวิตให้สุดทุกที่ไม่มีอั้น และใช้บริการดิจิทัลได้อย่างเท่าเทียม
ผู้สูงวัยปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลโดยสมบูรณ์
กรมกิจการผู้สูงอายุ ระบุว่า Silver Economy เป็นตลาดใหม่ที่จะนำมาซึ่งรายได้มหาศาลต่อเศรษฐกิจโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อน ดูแลความงาม บริการและการรักษาพยาบาล รวมถึงเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และบริการระดับพรีเมียมมากขึ้น
ผลสำรวจคนอเมริกันอายุ 60 ปีขึ้นไปรวมกันมีรายได้หลังจากหักภาษีแล้วเป็น 70% ของรายได้รวมของคนทั้งประเทศ โดยในปี 2561 ประมาณ 70% ของคนอายุ 50-65 ปี ใช้อินเทอร์เน็ต และมีคนอายุ 65 ปีขึ้นไปใช้อินเทอร์เน็ตถึง 38% โดย 94% ของคนสูงวัยใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อรับ-ส่งอีเมล 77% ซื้อของออนไลน์ 71% ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และ 70% ใช้อ่านข่าว
ประชากร YOLD ไม่เพียงแต่มีความแข็งแรงในทางร่างกาย ซึ่งวัดจากอายุขัยเฉลี่ยที่สูงขึ้นมากกว่า 20 ปีที่แล้ว จากผลสำรวจระบุว่า สุขภาพทางการเงินของคนกลุ่มนี้ ยังดีกว่ากลุ่มคนสูงอายุในเจเนอเรชันก่อนหน้า และมากกว่า 1 ใน 5 ของคนวัย 65-69 ปี ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังคงทำงานอยู่
ผู้สูงวัยใช้สมาร์ทโฟนเล่นโซเชียลมีเดีย 5 ชั่วโมงต่อวัน
นางสาวพลอย จาตุกัญญาประทีป หัวหน้าสายงานดูแลประสบการณ์กลุ่มลูกค้า ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี 2548 และกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2573 นี้ ในปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปอยู่ประมาณ16.8 ล้านราย มีอัตราการเข้าถึงและใช้งานโทรศัพท์มือถืออยู่ประมาณ 70% จากประชากรทั้งหมด แบ่งเป็นผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน 93% และโทรศัพท์มือถือทั่วไป 7% โดยกลุ่มผู้สูงอายุที่ใช้สมาร์ทโฟนจะเน้นไปที่การเล่นโซเชียลมีเดียเป็นหลัก โดยเฉลี่ยประมาณ 5 ชั่วโมงต่อวัน ตามมาด้วยเทรนด์ในการซื้อของออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ และยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลโดยสมบูรณ์”
ทรู-ดีแทค ให้บริการลูกค้ากลุ่มผู้สูงวัย ได้ออกไปใช้ชีวิตให้สุดทุกที่ไม่มีอั้น
“ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้จัดกิจกรรม Walk Rally “Smart Senior” สำหรับกลุ่มผู้สูงวัย นับเป็นก้าวแรกของทรู ในการเข้าถึงและให้บริการลูกค้ากลุ่มผู้สูงวัย ได้ออกไปใช้ชีวิตให้สุดทุกที่ไม่มีอั้น และใช้บริการดิจิทัล ได้อย่างเท่าเทียม กิจกรรม Walk Rally นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ยกระดับการใช้ชีวิตกลุ่มผู้สูงวัยได้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เติมเต็มประสบการณ์และความสุขให้กับลูกค้า เน้นให้ความรู้ คำแนะนำ และเทรนด์ดิจิทัลสำหรับผู้สูงวัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของทรูและดีแทค มุ่งเน้นสนับสนุน สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนผู้สูงวัย
โดยมีพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม เช่น กรมกิจการผู้สูงอายุ และ ยังแฮปปี้ (Young Happy) ผู้ผลิตคอนเท้นต์สำหรับผู้สูงอายุ ร่วมกิจกรรมด้วย โดยทางทรูจะยังคงจะจัดกิจกรรมเช่นนี้เพิ่มเติมต่อไปเรื่อยๆ ในต่างธีมกัน เพื่อช่วยสร้างชุมชนผู้สูงวัยให้เข้มแข็งเกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมเปลี่ยนชีวิตก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบและเท่าเทียม”
ภายในงาน Walk Rally “Smart Senior” ทรู คอร์ปเรชั่น ยกขบวนบริการดิจิทัลสุดล้ำ พร้อมโค้ชที่เข้าใจพฤติกรรมผู้สูงวัยมาจัดกิจกรรมแบบตัวต่อตัว เช่น เทคนิคการขายของออนไลน์จาก โครงการเน็ตทำกิน การใช้แอปหาหมอผ่านทางออนไลน์ จากหมอดี บริการสมาร์ทโฮมที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันในบ้านง่ายขึ้น จาก True X และสาระความรู้เพื่อคุณภาพชีวิตจากทรู ปลูกปัญญา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างคับคั่งจากเหล่าวัยเก๋าใจเกินร้อย ที่ยังแฮปปี้ สนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตหลังเกษียณมีความสุขได้มากขึ้น