AIS ตั้ง 2 ผู้บริหารเน็ตบ้านแม้ดีล '3บีบี' ยังรอเคาะ หลัง 'กสทช.' ล่มซ้ำซาก
เอไอเอส ตั้ง 'ธีร์ สีอัมพรโรจน์' ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจบรอดแบนด์ พร้อมขยับ 'มนตรี คงเครือพันธุ์' ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่ง หัวหน้าหน่วยธุรกิจด้านตรวจสอบภายใน นั่งตำแหน่ง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงินแทน
จากความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ หรือ เน็ตบ้าน ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวดังกล่าว เอไอเอส จึงแต่งตั้ง
นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจบรอดแบนด์ – Chief Executive Officer Broadband Business (CEO-BB)
พร้อมแต่งตั้ง นายมนตรี คงเครือพันธุ์ ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่ง หัวหน้าหน่วยธุรกิจด้านตรวจสอบภายใน ให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน – Chief Finance Officer (CFO) แทน นายธีร์ สีอัมพรโรจน์
สำหรับ นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ ได้เข้ามาร่วมงานกับเอไอเอส ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2560 ในตำแหน่ง รองหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน และได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน ในปี พ.ศ. 2561 โดยนอกเหนือจากความสามารถในการบริหารจัดการ การเงิน การลงทุน ที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอันก่อให้เกิดคุณค่าที่มาพร้อมการเติบโตอย่างยั่งยืน
จนได้รับรางวัล CFO ยอดเยี่ยม 3 ปีติดต่อกัน จากเวที IAA Awards for Listed Companies ที่จัดโดย สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นที่ได้รับจากลูกค้าและนักลงทุนไทย แล้ว ยังมีบทบาทสำคัญยิ่งในการผลักดันบริการด้านดิจิทัลและสร้างการเติบโตของสายธุรกิจบรอดแบนด์ ให้แข็งแกร่งอีกด้วย
ส่วน นายมนตรี คงเครือพันธุ์ นั้น เริ่มเข้ามาร่วมงานกับเอไอเอส ในปี พ.ศ. 2564 ในตำแหน่ง หัวหน้าหน่วยธุรกิจด้านตรวจสอบภายใน โดยมีผลงานในการทำงานร่วมกับทุกหน่วยธุรกิจเพื่อบริหารจัดการกระบวนการทำงานอย่างเหมาะสมกับการเคลื่อนตัวของโลกหลังโควิด พร้อมเป็นแกนนำในการกำกับดูแลกระบวนการทำงานอย่างโปร่งใส สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล และด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา
ในฐานะผู้นำทีมหุ้นส่วนในบริษัทที่ปรึกษาที่ใหญ่ที่สุด โดยดูแลบริษัทลูกค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมความเชี่ยวชาญอย่างยิ่งด้านการเงินและการควบคุมภายใน รวมถึงการออกแบบปรับปรุงการดำเนินงานทางการบัญชีการเงินผ่านเครื่องมือ Automation เมื่อผนวกกับการได้เข้ามาร่วมในกระบวนการทำงานภาพรวมของเอไอเอสในช่วงที่ผ่านมา จึงมีความพร้อมที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนธุรกิจภาพรวมของบริษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 ที่มีการประกาศนั้น เอไอเอสแจ้งว่าธุรกิจบรอดแบนด์ ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการขยายพื้นที่บริการ และการส่งมอบบริการและนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตบ้านที่เหนือกว่ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทั้งการเชื่อมโยงอุปกรณ์กระจายสัญญาณและสร้างโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ Gigabit ทุกห้องภายในบ้านด้วยโครงข่ายไฟเบอร์ หรือ FTTR (Fiber to The Room) ที่พร้อมเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟแบบไร้รอยต่อ(Seamless Roaming) เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดทุกพื้นที่ในบ้าน หรือแม้แต่การเปิดให้บริการ WiFi 6E เทคโนโลยีมาตรฐานสัญญาณไร้สายใหม่บนคลื่นความถี่ใหม่ 6GHz เป็นรายแรกของอุตสาหกรรมบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตในเมืองไทย
มีรายได้เติบโตกว่า 15% จากไตรมาส 2 ปีก่อน และเติบโตต่อเนื่อง 5.4% จากไตรมาสก่อน มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 60,500 รายต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนและ มีฐานลูกค้ารวมกว่า 2.33 ล้านราย
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า การรวมธุรกิจระหว่างเอไอเอสและ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3บีบีว่า แม้มติที่ประชุมคณะกรรมการของเอไอเอสเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2565 ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นใน3 บีบีจำนวน 7,529,242,385 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.87 มูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท และเข้าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิส (JASIF) จำนวน 1,520,000,000 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.00 ของจำนวนหน่วยลทุนทั้งหมดของ JASIF ในราคาหน่วยละ 8.5 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 12,920 ล้านบาทรวมสองธุรกรรมว่า “ธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุน” มีมูลค่ารวม 32,420 ล้านบาท
แต่ผ่านมานานกว่า 1 ปีก็ยังไม่มีความคืบหน้าการอนุญาตให้ดำเนินกิจการหรือไม่ดำเนินกิจการดังกล่าวจากบอร์ดกสทช. แต่อย่างใด โดยล่าสุดแม้ผลการศึกษาจากที่ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาต่างประเทศเกี่ยวกับผลดีผลเสียในการรวมกิจการดังกล่าวเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยความขัดแย้งอย่างรุนแรงต่อเนื่องมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. คนใหม่ ทำให้การประชุมบอร์ดกสทช. 3 ครั้งล่าสุดต้องล่มลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถพิจารณาวาระที่คั่งค้างใดๆได้เลย