เอไอเอสชูอินฟราฯระดับ 'เวิลด์คลาส' ยกระดับชีวิตประชากรผ่านสมาร์ทซิตี้
เอไอเอสมองการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล จำเป็นต้องสอดรับกับความต้องการและแก้ปัญหาของเมืองได้ เพราะเมืองจะสมาร์ทได้ไม่ใช่แค่มีเทคโนโลยี แต่หัวใจสำคัญคือเทคโนโลยีต้องทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
วสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิค บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวถึงนโยบายผลักดันไทยสู่สมาร์ทซิตี้ว่าการทำให้เมืองมีความสมาร์ทขึ้น วัตถุประสงค์ต้องมุ่งไปที่การทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยการปรับปรุงความเป็นอยู่ของเมือง เพื่อตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และคนในชุมชน
โดยการพัฒนาเมืองให้เข้าสู่สมาร์ทซิตี้มีพัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ Smart City 1.0 ซึ่งเป็นการนำเซนเซอร์ และไอโอทีไปติดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อให้ได้ดาต้ามาประกอบการตัดสินใจอย่างแม่นยำมากขึ้น ต่อจากนั้นจึงการพัฒนาขึ้นไปอีกโดยเอาระบบทั้ง 2 ไปผนวกกับผู้คนอย่างเช่น การติดตั้งในระบบมือถือ ต่อมาจึงเข้าสู่การสร้างข้อมูลของเมืองโดยเมืองเป็นเจ้าของข้อมูลและเปิดให้เอกชนเข้าไปใช้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเมือง
ในปัจจุบัน เอไอเอสมองว่าทิศทางการสร้างสมาร์ทซิตี้ในปัจจุบันคือการสร้างแพลตฟอร์มโดยดูว่าข้อมูลที่เก็บมานั้นสามารถนำไปใช้ทำอะไรได้ และ ‘เมืองมีปัญหาอะไรบ้าง ก็ทำโครงการเป็นเรื่องๆ ไป เช่น ปัญหาจราจร และ ปัญหาขยะ แต่การแก้ไขปัญหาดังกล่าว เป็นการแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องๆ ไป ซึ่งเป็นการสร้างผลกระทบในระดับกลางไปจนถึงเล็กเท่านั้น
"เมื่อต้นปีผมได้ไปที่สภาเมืองที่นิวยอร์ก ก็พบว่าสภาเมืองพบปัญหาเรื่อง โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล แม้จะมีการลงทุนแต่ทันทีที่โควิดมา มีความต้องการเข้าถึงพื้นที่ดิจิทัลมากขึ้นในส่วนอื่น เมืองจึงออกกติกาว่าหากเอกชนจะติดตั้งอินฟราสตรักเจอร์ในบริเวณเศรษฐกิจ จำเป็นต้องไปติดตั้งที่บริเวณอื่นซึ่งต้องการด้วย"
เขา กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของเอไอเอส คือการทำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีที่สุด โดยมองว่าเหมือนการสร้างสาธารณูปโภค เช่น น้ำและไฟ โดยเอไอเอสเริ่มต้นจากการวางสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ภูเขาของจังหวัดเชียงราย โดยพบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่นั่นอย่างชัดเจน เมื่อผู้คนเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งการเรียนของเด็ก ทำให้เด็กสามารถพัฒนาตัวเอง รวมไปถึงทำให้ครอบครัวสามารถติดต่อกันได้แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ฯลฯ
นอกจากนี้แม้การวางโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณมาก แต่เมื่อมองนโยบายของภาครัฐในปัจจุบันก็คิดว่าดำเนินไปในทิศทางเดียวกันและสามารถช่วยกันทำสิ่งนี้ได้ และองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ต้องประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญคือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
วสิษฐ์ ย้ำว่าการที่จะสร้างสมาร์ทซิตี้ให้สำเร็จได้ ต้องมีภาพว่าในอนาคตอยากให้เมืองพัฒนาและมีรูปร่างอย่างไร และควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ส่วนที่สำคัญคือต้องให้ความต้องการของประชาชนเป็นส่วนสำคัญ แล้วจึงนำเอาเทคโนโลยีทั้งระบบไอโอทีหรือเซ็นเซอร์ เข้าไปแก้ไขปัญหาและสร้างเมืองตามความต้องการ
ทั้งนี้ เมืองไม่ได้สมาร์ทเพราะเทคโนโลยี แต่เมืองจะสมาร์ทถ้าการใช้เทคโนโลยีนั้นทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น