’ทรู‘กางเป้าขึ้นผู้นำตลาดต่างประเทศยึดแชร์ 65%

’ทรู‘กางเป้าขึ้นผู้นำตลาดต่างประเทศยึดแชร์ 65%

ขอเบอร์ 1 ตลาดโรมมิ่ง-ซิมนักท่องเที่ยวปีนี้ 65% จากตัวเลขคาดมียอดเข้าไทย 36 ล้านคน คุยจบไตรมาสแรกเป็นลูกค้าทรูกว่า 5 ล้านคนแล้ว ล่าสุดผนึกททท.การันตีเน็ต5จีดีทั่วไทย พร้อมอ้าแขนรับ Digital Nomad ปั้นพาราไดซ์ทั่ว 4 ภาคดึงเม็ดเงินคาดว่าจะสร้างรายได้รวมกว่า 3 ล้านล้านบาท

นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรู พร้อมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. นำเทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของทรู คอร์ปอเรชั่น นอกเหนือจากการดูแลลูกค้าทรูและดีแทคกว่า 52 ล้านคน ให้ได้ประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสทั้งด้านเน็ตเวิร์คที่ดีที่สุด และสินค้าบริการสิทธิพิเศษที่เหนือระดับตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล

จากข้อมูลของ World Bank ที่มีรายงานการพัฒนาโลก ได้ให้ข้อมูลที่ยืนยันว่า เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการชับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กรภาครัฐและเอกชน ที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของแต่ละประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเรื่องการท่องเที่ยว ที่เทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้าไปมีบทบาทอย่างขัดเจน จึงนับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศไทย

เพราะล่าสุด สถาบัน IMD สวิตเซอร์แลนด์ ที่ทั่วโลกใช้เป็นข้อมูลจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (World Competitiveness) ได้รายงานถึงดัชนีชี้วัดเรื่องโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ของประเทศไทยที่โดดเด่น คือประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของประเทศไทย ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 5 ของโลก ทั้ง เรื่องของ การลงทุนด้านโทรคมนาคมที่ไทยสูงสุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และเรื่องคุณภาพสัญญาณความเร็ว Internet Bandwidth Speed ที่ประเทศไทยขึ้นเป็นอันดับที่ 5 ของโลก

ทั้งนี้ ทรูได้เสริมศักยภาพเครือข่ายให้อัจฉริยะยิ่งขึ้น โดยเราได้มีการยกระดับเครือข่ายทรู 5G ให้ทันสมัย (Network Modernization) ทยอยอัปเกรดเสาสัญญาณทั่วประเทศมาตั้งแต่ปลายปี 2566 นำร่องไปแล้วหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะเมืองที่เป็นสมาร์ท ซิตี้อย่าง เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต และสงขลา ตลอจนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกด้วย ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจมากคือคุณภาพสัญญาณและความเร็วสูงสุดในการใช้งานบนมือถือ ทั้ง 5G และ 4G เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งจะเสริมศักยภาพการใช้งานเน็ตในทุกจุดท่องเที่ยวให้ได้รับประสบการณ์ที่ดี

โดยในไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา มียอดนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้ว 9.3 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นลูกค้าทรูทั้งซื้อแพคเก็จโรมมิ่งและซื้อซิมสำหรับนักท่องเที่ยวแล้วกว่า 5 ล้านคน และในปีนี้ทรูตั้งเป้าจะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดนี้โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ต แชร์) ที่ 65% จากจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้ที่ททท.คาดว่าจะเข้ามาในประเทศไทย 36 ล้านราย

สำหรับประเด็นธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) เขา กล่าวว่า หากเป็นทรูคอร์ปคงไม่เข้าร่วมดำเนินการ เพราะทางทรูมันนี่บริษัทในเครือซีพีเป็นผู้ดำเนินการแล้ว
 

’ทรู‘กางเป้าขึ้นผู้นำตลาดต่างประเทศยึดแชร์ 65%
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในปีนี้รัฐบาลต้องการให้ “ประเทศไทย” เป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในทุกมิติอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง โดยผ่าน Soft Power ในเรื่องอาหาร วัฒนธรรม เทศกาลงานประเพณี คอนเสิร์ต งานศิลปะ งานภาพยนตร์ กีฬา หรือศิลปะป้องกันตัว ในปี 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยว ทั้ง Demand และ Supply ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุล และยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม คาดว่าจะสร้างรายได้รวมกว่า 3 ล้านล้านบาท เป้าหมายทางนโยบาย 3.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.92 ล้านล้านบาท และรายได้จากตลาดท่องเที่ยวในประเทศ 1.08 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ 36 ล้านคน

ทั้งนี้ ททท. มีโครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เที่ยวเมืองรอง” ที่ต้องการผลักดันสร้างกระแสการท่องเที่ยวเมืองรองตลอดทั้งปี 2567 พร้อมบูรณาการร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน จัดแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริม การท่องเที่ยวเมืองรอง นำเสนอสินค้าและการท่องเที่ยวไทยตามแนวคิด Soft Power สะท้อนเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของเมืองรองแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ มาเป็นจุดขายให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอด 365 วัน

ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2567 รายได้จากการท่องเที่ยวเมืองรองจะเติบโตขึ้นร้อย 10-15 จากปี 2566 อย่างแน่นอน ซึ่งจะทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท่องเที่ยว เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในแต่ละจังหวัดเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อันนำไปสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในอนาคต”เทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เอาใจกลุ่ม “ Digital Nomad” ทำงานออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา