'ดีอี' ขันน็อตเร่งปราบไซเบอร์ร่าย 6 มาตรการหลัง ‘เศรษฐา’ ออกโรงจี้

'ดีอี' ขันน็อตเร่งปราบไซเบอร์ร่าย 6 มาตรการหลัง ‘เศรษฐา’ ออกโรงจี้

รัฐมนตรีประเสริฐ เผยทุกหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนร่วมมือเต็มที่ มั่นใจ ลดปัญหาโจรออนไลน์ได้ชัดเจน ตามข้อสั่งการฯ นายกรัฐมนตรี

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยี และผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) มาหารือร่วมกันเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนเมษายนนี้ 

เพื่อดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ให้มีผลงานชัดเจนใน 30 วัน ซึ่งมีมาตรการที่สำคัญ จากการหารือ ดังนี้

1. มาตรการแก้ไขปัญหาบัญชีม้า โดยสรุปมีดังนี้

- การเร่งรัดกวาดล้างบัญชีที่ต้องสงสัยและบัญชีม้าในระบบธนาคาร โดย สมาคมธนาคารไทย สถาบันการเงิน ร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย เร่งทำการตรวจสอบ เหตุต้องสงสัย 19 ข้อ และทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีต้องสงสัย ระหว่างธนาคาร เพื่อระบุและทำการระงับบัญชีธนาคาร ซึ่งที่ผ่านมามีการระงับไปแล้ว 3-4 แสนบัญชี

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการปิดบัญชีม้าไปแล้ว 318,298 บัญชี และศูนย์ AOC ระงับหรือปิดไปแล้ว 112,699 บัญชี

- การเพิ่มมาตรการควบคุมการเปิดบัญชีใหม่ เพื่อป้องกันการใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมาย โดยเพิ่มการตรวจสอบ CDD (Customer Due Diligence) เป็นการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยว กับลูกค้า โดยมีกระบวนการประเมินและบริหารความเสี่ยง ก่อนอนุมัติเปิดบัญชีลูกค้า จากเดิม ที่มีการทำ KYC (Know Your Customer) ในการเปิดบัญชีใหม่เท่านั้น

- การอายัดบัญชีทันที กรณี ที่ผู้เสียหาย แจ้งเหตุ กับ AOC 1441 และ ผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์เรียบร้อยแล้ว จากเดิมระงับชั่วคราว 3 วัน และต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ

- ธนาคาร ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า บัญชีต้องสงสัย หรือข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัยให้ AOC 1441 และให้ AOC 1441 เป็น Platform โดยทำระบบ Automation เพื่อ AOC นำข้อมูลที่ได้ใช้ AI วิเคราะห์และใช้แก้ปัญหาโจรออนไลน์ ต่อไป

 

2. มาตรการแก้ไขปัญหา ซิมม้า โดยสรุปมีดังนี้

- การกวาดล้างซิมต้องสงสัยและซิมม้า กสทช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนสำหรับ

ผู้ถือครองซิมการ์ดมากกว่า 100 ซิม โดยครบกำหนดการยืนยันตัวตนเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2567 มีผู้มายืนยันตัวตนแล้วจำนวน 2.57 ล้านหมายเลข และยังไม่มายืนยันตัวตนอีกจำนวน 2.5 ล้านหมายเลข ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการระงับ 2.5 ล้านหมายเลขที่ไม่ได้มายืนยันตัวตน นอกจากนี้ ในส่วนของ สตช. และกระทรวงดีอี ได้ประสานเพื่อระงับซิมม้า หรือซิมต้องสงสัยไปแล้วกว่า 8 แสนหมายเลข

- การเข้มงวดในการเปิดใช้ ซิมใหม่ ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ การลงทะเบียนและยืนยันตัวตนของ กสทช.เพื่อป้องกัน การนำซิมไปใช้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมา พบการปล่อยปละละเลยการเปิดใช้ซิมใหม่ จำนวนมากๆ ตลอดจนมีการสวมรอยใช้พาสปอร์ทชาวต่างชาติ หรือขโมยบัตรประชาชนคนไทย มาเปิดซิมจำนวนมาก

- กสทช. ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ซิมม้า ซิมต้องสงสัย หรือข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัยให้ AOC 1441 โดยทำระบบ Automation เพื่อ AOC นำข้อมูลที่ได้ไปใช้ AI ในการวิเคราะห์ และใช้แก้ปัญหาโจรออนไลน์ ต่อไป

- กสทช. และผู้ให้บริการโทรคมนาคม เร่งทำฐานข้อมูล พร้อมตรวจสอบผู้ส่ง SMS จำนวนมาก (Sender Name)

3. การดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ตและสายโทรศัพท์ ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยร่วมกับกระทรวงกลาโหม กสทช. และ สตช. เพื่อปิดกั้น และจับกุมผู้กระทำความผิด

4. มาตรการกำกับดูแล แก้ไขปัญหาการซื้อขาย Crypto แบบ P2P (Peer to Peer) ที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการที่คนร้ายใช้สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นช่องทางโอนเงินออกนอกประเทศ ซึ่งทางสำนักงาน ก.ล.ต. ร่วมมือกับกระทรวง ดีอี สตช. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อแก้ปัญหานี้ โดยการปิดกั้นเว็บไซต์/แอปพลิเคชัน Platform ให้บริการ crypto ที่ผิดกฎหมาย และผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตในการทำ KYC และกำกับดูแลอย่างเข้มข้นสำหรับการหลอกลงทุน ก.ล.ต. มีสายด่วน หลอกลงทุน ซึ่งมีผู้แจ้งเข้ามาและมี Sec Check First ช่วยเช็คข้อมูลถูกต้อง

5. การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ โดย สตช. ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการปราบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ โดยมีเป้าหมายชัดเจน และบูรณาการแผนฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการสืบสวน สอบสวน และขยายผลการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ร่วมการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในระยะ 2 สัปดาห์ของ เดือนเมษายนนี้ ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาคดีออนไลน์ แล้วจำนวน 207 รายโดยแบ่งเป็น เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ จำนวน 83 ราย

6. การบูรณาการข้อมูล และอื่นๆ โดยให้ AOC 1441 เป็น Platform รับและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อบูรณาการข้อมูล ทำงานแบบ Automation และใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยจะมีการติดตามตรวจสอบการดำเนินการในทุกสัปดาห์ เพื่อให้เกิดผลงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน