สาวก Apple ต้องมี! 'HomePod' และ 'HomePod mini' เปิดตัวในไทยแล้ว
"Apple" เปิดตัว "HomePod" และ "HomePod mini" ในประเทศไทย มอบประสบการณ์เสียงดี อัจฉริยะด้วยความสามารถของ Siri และเต็มเปี่ยมด้วยความปลอดภัย
แฟนานุแฟนของ Apple ที่รอคอยการวางจำหน่ายลำโพงอัจฉริยะจากค่ายนี้ ถึงเวลาได้เฮแล้ว เพราะในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ทาง Apple กำลังจะวางจำหน่าย HomePod (รุ่นที่ 2) และ HomePod mini อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที ชวนมารู้จักความยอดเยี่ยมของ HomePod และ HomePod mini ก่อนไปจับจองเป็นเจ้าของกัน
HomePod เฟอร์นิเจอร์ที่ฟังเพลงได้
"HomePod" ทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบให้มีพื้นผิวผ้าตาข่ายแบบไร้รอยต่อที่ไม่ส่งผลต่อเสียงในทางอะคูสติก และมีแบ็คไลท์ที่จะสว่างขึ้นแบบขอบจรดขอบช่วยให้ HomePod และ "HomePod mini" ดูสวยงามเหมาะแก่การนำไปวางตกแต่ง
HomePod มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีมิดไนท์ สีใหม่ที่ผลิตขึ้นจากผ้าตาข่ายรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ HomePod mini มาในสีสดใสเพื่อเพิ่มสีสันให้กับบ้าน ทั้งสีส้ม สีเหลือง และสีฟ้า รวมถึงสีเทาสเปซเกรย์และสีขาว ทั้ง HomePod และ HomePod mini มาพร้อมสายไฟแบบถักสีเข้ากันด้วย
คุณภาพเสียงระดับ Apple
"HomePod" เป็นลำโพงที่มีคุณภาพเสียงสมจริงครบทุกย่าน พร้อมรองรับเพลงที่ใช้ระบบเสียงตามตำแหน่งเพื่อความเต็มอิ่มสมจริง ใช้ชิป S7 ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีรับรู้การทำงานในระบบเพื่อสร้างระบบเสียงเชิงคำนวณอันล้ำสมัย ที่จะแสดงพลังของระบบเสียงอะคูสติกได้อย่างถึงขีดสุด
เทคโนโลยีการรับรู้ตำแหน่งภายในห้องช่วยให้ HomePod นำข้อมูลเสียงสะท้อนจากพื้นผิวใกล้เคียงมาประมวลผลว่า ตอนนี้ตัวเครื่องวางอยู่ชิดผนังห้องหรือตั้งอยู่กลางห้อง แล้วนำไปปรับเปลี่ยนลักษณะเสียงได้แบบเรียลไทม์ การควบคุมทิศทางอันแม่นยำของชุดทวีตเตอร์แบบบีมฟอร์มมิ่ง 5 ตัว แยกและยิงแนวเสียงทั้งแบบตรงและแบบแวดล้อม เพื่อให้ผู้ฟังได้ดื่มด่ำกับเสียงร้องที่ชัดใสและเสียงเครื่องดนตรีแบบเต็มอิ่ม
"HomePod mini" มาพร้อมอะคูสติกเวฟไกด์ที่ออกแบบโดย Apple ที่จะควบคุมทิศทางของเสียงให้ออกมาทางด้านล่างของลำโพงเพื่อสร้างประสบการณ์เสียงแบบ 360 องศาที่ดื่มด่ำสมจริง จึงวาง HomePod mini ไว้ได้เกือบจะทุกที่ในห้องโดยยังจะได้ยินเสียงที่สม่ำเสมอ ชุดไมโครโฟน 3 ตัวจะรอฟังคำสั่ง "หวัดดี Siri" ส่วนไมโครโฟนตัวที่ 4 ซึ่งหันเข้าด้านในจะคอยแยกแยะเสียงที่มาจากลำโพง เพื่อการจับเสียงที่ดียิ่งขึ้นในขณะที่เล่นเพลงอยู่
ชิป Apple S5 ใน HomePod mini จะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์สุดล้ำเพื่อวิเคราะห์ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเพลง และใช้รูปแบบการปรับจูนอันซับซ้อนเพื่อเพิ่มระดับความดัง ปรับช่วงไดนามิก และควบคุมการเคลื่อนไหวของไดรเวอร์รวมถึงแพสซีฟเรดิเอเตอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์
ใช้ HomePod หลายเครื่อง สร้างประสบการณ์อีกระดับ
หากใช้ "HomePod" หรือ "HomePod mini" ร่วมกัน 2 เครื่องขึ้นไปจะช่วยปลดล็อกคุณสมบัติหลายอย่าง อาทิ เมื่อใช้ระบบเสียงที่เล่นพร้อมกันในหลายห้องด้วย AirPlay ผู้ใช้พูดว่า "หวัดดี Siri" หรือแตะค้างไว้ที่ด้านบนของ HomePod หรือ HomePod mini เพื่อสั่งให้เล่นเพลงเดียวกันผ่านลำโพงหลายตัว เล่นเพลงแตกต่างกันบนลำโพงแต่ละตัว หรือแม้แต่ใช้ลำโพงเป็นอินเตอร์คอมเพื่อประกาศข้อความไปยังห้องอื่นๆ
ผู้ใช้ยังสร้างคู่เสียงสเตอริโอโดยใช้ลำโพง HomePod หรือ HomePod mini สองเครื่องซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะเล่นเพลงในช่องเสียงซ้ายและขวาแยกกันแล้ว คู่เสียงสเตอริโอนี้ยังจะเล่นเพลงในแต่ละช่องเสียงให้สอดคล้องลงตัวกัน
ไร้รอยต่อบนระบบนิเวศ Apple
การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ทำให้เราย้ายสิ่งที่กำลังเล่นอยู่บน iPhone เช่น เพลงโปรด พ็อดคาสท์ หรือแม้แต่สายที่โทรค้างอยู่ มาเปิดเล่นต่อที่ "HomePod" หรือ "HomePod mini" ได้โดยตรง ทุกคนในบ้านควบคุมสิ่งที่กำลังเล่นอยู่ หรือรับเพลงที่คัดสรรตามผู้ใช้ และการแนะนำพ็อดคาสท์ได้ง่ายๆ เพียงนำ iPhone มาอยู่ใกล้กับ HomePod หรือ HomePod mini แล้วคำแนะนำจะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ HomePod ยังจดจำเสียงได้มากถึง 6 เสียง สมาชิกแต่ละคนในบ้านจึงรับฟังเพลงในเพลย์ลิสต์ของตัวเอง ถามข้อมูลเรื่องการเตือนความจำ และเพิ่มกิจกรรมลงในปฏิทินได้อีกด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น HomePod ยังจับคู่กับ Apple TV 4K ได้ง่ายๆ เพื่อสร้างประสบการณ์โฮมเธียเตอร์อันทรงพลัง และการรองรับ eARC (Enhanced Audio Return Channel) บน Apple TV 4K ก็ช่วยให้นำ HomePod หรือ HomePod mini ไปใช้เป็นระบบเสียงสำหรับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่ออยู่กับทีวีได้ เมื่อจับคู่กับ HomePod (รุ่นที่ 2) หรือ HomePod mini คุณสมบัติปรับเสียงสนทนาจะช่วยให้ได้ยินสิ่งที่พูดอยู่ในภาพยนตร์หรือรายการทีวีบน Apple TV 4K ได้ชัดเจนกว่าเสียงเอฟเฟกต์ แอกชัน และดนตรี ด้วยการแยกเสียงสนทนาออกจากเสียงเบื้องหลัง และนำเสียงสนทนามาไว้ที่แชนเนลกลาง และด้วย Siri บน HomePod หรือ HomePod mini ผู้ใช้งานจะควบคุมสิ่งที่กำลังเล่นอยู่บน Apple TV 4K ได้แบบไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใดๆ เลย
นอกจากนั้น ผู้ใช้ยังสามารถใช้ Siri เพื่อขอทราบตำแหน่งที่ตั้งของเพื่อนๆ หรือบุคคลอันเป็นที่รักซึ่งได้เแชร์ตำแหน่งที่ตั้งผ่านแอปนี้ได้อีกด้วย
คู่ใจบ้านอัจฉริยะ
คุณสมบัติการจำเสียง ทำให้ HomePod ฟังเสียงของเซ็นเซอร์ตรวจจับควันไฟหรือก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ แล้วส่งการแจ้งเตือนไปที่ iPhone ของผู้ใช้ได้โดยตรงเมื่อเซ็นเซอร์ส่งเสียงเตือน เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในตัวนี้ตรวจวัดข้อมูลภายในบ้านได้ ผู้ใช้จึงสร้างการทำงานอัตโนมัติให้ปิดม่านหรือพัดลมโดยอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิในห้องอยู่ถึงจุดที่กำหนดไว้
เมื่อใช้งาน Siri เราจะควบคุมอุปกรณ์หนึ่งชิ้นหรือสร้างบรรยากาศอย่าง "อรุณสวัสดิ์" ที่จะสั่งให้อุปกรณ์เสริมสำหรับบ้านอัจฉริยะหลายเครื่องทำงานพร้อมกัน หรือสร้างการทำงานอัตโนมัติที่เกิดซ้ำได้โดยไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใดๆ เลย เพียงสั่งว่า "หวัดดี Siri เปิดม่านทุกวันตอน 6 โมงเช้า" เสียงยืนยันเสียงใหม่จะช่วยให้ทราบว่า Siri ทำตามคำขอให้ควบคุมอุปกรณ์เสริมสำเร็จแล้ว ซึ่งมีประโยชน์กับอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น เครื่องทำความร้อน หรืออุปกรณ์เสริมที่อยู่ในห้องอื่น เสียงแอมเบียนซ์ เช่น เสียงทะเล เสียงป่า และเสียงฝนตก ก็ได้รับการรีมาสเตอร์และผสานให้เข้ากับประสบการณ์ต่างๆ ได้อย่างลงตัวมากขึ้น จึงเพิ่มเสียงใหม่ๆ นี้ลงไปในบรรยากาศ การทำงานอัตโนมัติ และใช้เป็นเสียงแจ้งเตือนได้
นอกจากนี้เรายังเลื่อนหา ดู และจัดเรียงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยแอปบ้าน ที่มีหมวดหมู่ต่างๆ สำหรับสภาพภูมิอากาศ แสงไฟ และความปลอดภัย ช่วยให้ตั้งค่าและควบคุมระบบบ้านอัจฉริยะได้อย่างง่ายดาย เป็นต้น
ราคาและการวางจำหน่าย
- HomePod (รุ่นที่ 2) ราคา 11,490 บาท
- HomePod mini ราคา 3,890 บาท
วางจำหน่ายใน apple.com/th/store แอป Apple Store และในร้านค้าตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมเป็นต้นไป
โดย HomePod (รุ่นที่ 2) ใช้งานได้กับ iPhone SE (รุ่นที่ 2) และใหม่กว่า หรือ iPhone 8 และใหม่กว่า หรือ iPad Pro, iPad (รุ่นที่ 5) และใหม่กว่า, iPad Air (รุ่นที่ 3) และใหม่กว่า หรือ iPad mini (รุ่นที่ 5) และใหม่กว่า แนะนำให้ใช้ iOS หรือ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุด
ส่วน HomePod mini ใช้งานได้กับ iPhone SE, iPhone 6s หรือใหม่กว่า หรือ iPod touch (รุ่นที่ 7) หรือ iPad Pro, iPad (รุ่นที่ 5 หรือใหม่กว่า), iPad Air 2 หรือใหม่กว่า หรือ iPad mini 4 หรือใหม่กว่า แนะนำให้ใช้ iOS หรือ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุด
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกใหม่ใช้ Apple Music ได้ฟรี 6 เดือน เมื่อซื้อ HomePod หรือ HomePod mini รุ่นใดก็ได้