‘ภัยไซเบอร์’ พ่นพิษ ทำคนไอที ‘หมดไฟ’ อยากลาออกจากงาน
ภาวะหมดไฟและความเหนื่อยล้าด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ส่งผลโดยตรงต่อการละเมิดความปลอดภัย เกิดขึ้นได้ในเกือบทุกด้านของการปฏิบัติงานด้านความwไซเบอร์ซิเคียวริตี้
ปัญหาด้าน “ไซเบอร์ ซิเคียวริตี้” กลายเป็นวาระที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญ แน่นอนว่าภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณสร้างความปวดหัวให้กับผู้ที่ต้องรับผิดชอบดูแลและแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างมาก...
โซฟอส (Sophos) ผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและการให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก เปิดรายงาน “อนาคตของความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น” ภายใต้ความร่วมมือกับ Tech Research Asia (TRA)
โดยระบุว่า 90% ของผู้ตอบแบบสอบถามในบทบาทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และไอที ได้รับผลกระทบจากภาวะหมดไฟและความเหนื่อยล้าในการทำงาน
ผลการศึกษาพบว่า ภาวะหมดไฟเกิดขึ้นได้ในเกือบทุกด้านของการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดย 30% กล่าวว่ามีภาวะหมดไฟในการทำงานที่เพิ่มขึ้น “อย่างมีนัยสำคัญ” ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ขณะที่ 41% กล่าวว่า ภาวะหมดไฟนี้ทำให้พวกเขา “ขยันน้อยลง” ในบทบาทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของพวกเขา ซึ่ง 17% ระบุว่า ภาวะหมดไฟและความเหนื่อยล้าจากการทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์นี้มีส่วนทำให้เกิดหรือมีผลกระทบโดยตรงต่อการละเมิดความปลอดภัยทางไซเบอร์
โดยบริษัทกว่า 17% ประสบปัญหาเรื่องเวลาการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ช้าลงกว่าค่าเฉลี่ย
5 สาเหตุทำหมดไฟ
สำหรับสาเหตุหลัก 5 ประการของภาวะหมดไฟและความเหนื่อยล้าทางไซเบอร์ ประกอบด้วย 1. ขาดแคลนทรัพยากรสนับสนุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ 2. ลักษณะงานประจำที่สร้างความรู้สึกซ้ำซากจำเจ
ส่วนของผลกระทบของภาวะหมดไฟและความเหนื่อยล้าต่อพนักงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ผลการศึกษาพนักงานทั่วเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นพบว่า 41% รู้สึกว่าพวกเขาไม่ใส่ใจในการปฏิบัติงานอย่างเพียงพอ, 34% รู้สึกว่ามีระดับความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นหากถูกละเมิดหรือถูกโจมตี
นอกจากนี้ 31% รู้สึกห่างเหิน และเฉยเมยต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความรับผิดชอบของพวกเขา, 30% ระบุว่าทำให้อยากลาออกหรือเปลี่ยนอาชีพ (23% ของผู้ตอบแบบสำรวจได้ดำเนินการลาออกแล้ว), และ 10% รู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำหน้าที่ต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้มากกว่านี้
เกมที่ต้องพร้อมตลอดเวลา
อารอน บูกัล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (ซีทีโอ) โซฟอส กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่องค์กรต่างๆ กำลังดิ้นรนกับปัญหาการขาดแคลนทักษะด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และสภาพแวดล้อมการโจมตีทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ “ความมั่นคงและประสิทธิภาพของพนักงาน” ถือเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันธุรกิจให้แข็งแกร่งต่อการโจมตี
โดยภาวะหมดไฟรวมถึงความเหนื่อยล้ากำลังทำลายในส่วนนี้ ซึ่งองค์กรจำเป็นต้องเข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจากรายงานพบว่า 17% ระบุว่าภาวะหมดไฟ และความเหนื่อยล้าด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีส่วนก่อให้เกิด หรือส่งผลโดยตรงต่อการละเมิดความปลอดภัยทางไซเบอร์
ประเด็นเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ จำเป็นเปลี่ยนแปลง แม้ว่าการแก้ไขจะไม่ง่าย แต่การปรับทัศนคติจะช่วยในการกำหนดความคาดหวังที่ถูกต้องต่อการพัฒนาไปสู่ธุรกิจที่มีความทนทานต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์
โดยคณะกรรมการและคณะกรรมการบริหารจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการขับเคลื่อนและสนับสนุนคนที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกำกับดูแลที่ดีขึ้นต่อแนวทางไซเบอร์พวกเขาจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างชัดเจนในการพัฒนาและแผนการดูแลรักษา เนื่องจากขณะนี้ความปลอดภัยทางไซเบอร์เปรียบเสมือนกีฬาที่มีการโต้ตอบตลอดเวลา และจำเป็นต้องมีทีมงานที่เพียงพอ สามารถป้องกันได้ทุกช่วงเวลา
'4 ผลกระทบ' สะเทือนธุรกิจ
ด้านผลกระทบของภาวะหมดไฟด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความเหนื่อยล้าต่อการดำเนินธุรกิจ มีด้วยกัน 4 ประเด็นสำคัญที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจดังนี้
เวลาตอบสนองต่อเหตุการณ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ช้าลง: 17% ของบริษัทประสบปัญหาการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ช้าลงกว่าปกติ
ประสิทธิภาพการทำงานที่สูญเสียไป: ธุรกิจต่างๆ ประสบปัญหาการสูญเสียประสิทธิภาพการทำงานเฉลี่ย 4.1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จากผู้รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านไอที
การลาออกของพนักงาน: 23% ของบริษัท ระบุว่าความเครียด และภาวะหมดไฟเป็นสาเหตุโดยตรงของการลาออกของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และไอที โดยสิงคโปร์มียอดสูงถึง 38% ของการลาออกและอินเดีย 31%
