‘ไมโครซอฟท์’ ส่ง ‘Copilot+ PC’ ปฏิวัติวงการพีซี
“ไมโครซอฟท์” เผยโฉม “Copilot+ PC” พีซี Windows รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ AI ดีเดย์วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการกับพันธมิตรผู้ผลิตพีซีชั้นนำ รวมถึงตระกูล Surface แต่วันที่ 18 มิ.ย.เป็นต้นไป
ยูซุฟ เมห์ดี รองประธานบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดผู้บริโภค ไมโครซอฟท์ เผยว่า ไมโครซอฟท์ เปิดตัว “Copilot+ PC” พีซี Windows รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ AI ซึ่งเร็วที่สุด ชาญฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ด้วยชิปรุ่นใหม่ที่ทรงพลัง มอบสมรรถนะเต็มพิกัดในระดับ 40+ TOPS (หรือรองรับการประมวลผลกว่า 40 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที) มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานทั้งวัน และสามารถเข้าถึงโมเดล AI ที่ล้ำสมัยที่สุด
ช่วยให้ผู้ใช้งานทำในสิ่งที่ไม่สามารถทำได้บนพีซีเครื่องอื่น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาและจดจำทุกสิ่งที่เคยเห็นบนเครื่องได้อย่างง่ายดายด้วย “Recall” สร้างและปรับแต่งรูปภาพ AI แบบเรียลไทม์ได้โดยตรงบนอุปกรณ์โดยใช้ “Cocreator” และก้าวข้ามข้อจำกัดด้านภาษาด้วย “Live Captions” ที่สามารถแปลเสียงกว่า 40 ภาษาเป็นภาษาอังกฤษได้ทันที
พลิกโฉม Windows รอบหลายทศวรรษ
Copilot+ PC จะมากับดีไวซ์รุ่นใหม่ที่บาง เบา และสวยสะดุดตา ทั้งจากตระกูล Surface ของไมโครซอฟท์เอง และพันธมิตร OEM อย่าง Acer, ASUS, Dell, HP, Lenovo และ Samsung โดยจะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์
"Copilot+ PC รุ่นแรกนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น วันนี้ไมโครซอฟท์พร้อมแล้วที่จะเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยนวัตกรรม AI ที่ทำงานบนดีไวซ์"
โดยได้ออกแบบพีซีรูปแบบใหม่ที่มีความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน นับตั้งแต่ชิปไปจนถึงระบบปฏิบัติการ แอปพลิเคชันต่างๆ ไปจนถึงการทำงานร่วมกับคลาวด์ โดยมี AI เป็นศูนย์กลาง จึงนับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดของแพลตฟอร์ม Windows ในรอบหลายทศวรรษ
ประสิทธิภาพสูงกว่า Apple MacBook Air
ไมโครซอฟท์เผยว่า ได้พัฒนาสถาปัตยกรรมระบบรูปแบบใหม่ขึ้นมา เพื่อรวมพลังของทั้งชิปประมวลผลหลัก (CPU) ชิปกราฟิก (GPU) และชิปเร่งการประมวลผล AI (Neural Processing Unit หรือ NPU) ประสิทธิภาพสูงรุ่นล่าสุดเข้าด้วยกัน ก่อนจะนำมาเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ทำงานอยู่บนคลาวด์ Azure ผสานกับความสามารถด้านโมเดลภาษาขนาดเล็ก (SLM)
ดังนั้น Copilot+ PC จึงมีสมรรถนะที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยในกรณีการใช้งานร่วมกับ AI จะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 20 เท่า และใช้พลังงานน้อยลงกว่า 100 เท่า นับเป็นระบบที่เร่งความเร็วการประมวลผลของ AI ได้สูงสุดในตลาด
นอกจากนี้ มอบประสิทธิภาพที่สูงกว่า Apple MacBook Air รุ่น 15” มากถึง 58% ในการใช้งานแอปพลิเคชันแบบหลายเธรดอย่างต่อเนื่อง โดยที่แบตเตอรี่ยังพร้อมรองรับการใช้งานได้นานตลอดทั้งวัน สามารถเล่นวิดีโอจากในเครื่องได้ต่อเนื่องนานถึง 22 ชั่วโมง และเปิดดูเว็บไซต์ต่างๆ ได้ต่อเนื่องถึง 15 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเมื่อเทียบกับการเล่นวิดีโอจากในเครื่อง MacBook Air 15” แล้ว นับว่าทำได้นานกว่าถึง 20%
Copilot+ PC นำชิปประมวลผลที่เปี่ยมสมรรถนะและโมเดล AI ที่ยอดเยี่ยมที่สุด รวมถึงโมเดลชั้นนำแบบ SLM ที่ไมโครซอฟท์พัฒนาขึ้นเอง เพื่อปลดล็อกประสบการณ์ใหม่ๆ ให้สามารถใช้งานได้โดยตรงบนเครื่อง ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายใดๆ
ขณะเดียวกัน ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เช่น ความหน่วงระหว่างรอรับส่งข้อมูล ต้นทุนในการให้บริการ และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล เพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ และสื่อสารกับผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น
คู่หู AI สำหรับทุกจังหวะชีวิต
Copilot+ PC ทุกเครื่องมาพร้อมกับผู้ช่วย AI ส่วนตัวที่ทรงพลัง สามารถเรียกใช้งานได้เพียงแค่แตะไปที่ปุ่ม Copilot บนคีย์บอร์ดเท่านั้น สามารถเรียกใช้งานได้ในรูปแบบแอปพลิเคชันเต็มตัวตามที่ผู้ใช้งานจำนวนมากเรียกร้องกัน โดยแอป Copilot มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ยังเปี่ยมด้วยฟังก์ชันจำนวนมากและพร้อมตอบโจทย์เฉพาะตัวของผู้ใช้แต่ละคน
นอกจากนี้ นำโมเดล AI ที่ล้ำสมัยที่สุดมาให้ได้สัมผัส โดยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะสามารถเข้าถึงโมเดลล่าสุด รวมถึง GPT-4o จากพันธมิตร OpenAI ที่จะทำให้สามารถสนทนากับ AI ด้วยเสียงในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
ทุกรุ่นพร้อมมอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดบนแพลตฟอร์ม Windows 11 อัดแน่นด้วยความสามารถใหม่ๆ จาก AI ที่ช่วยให้ทำงาน ประสานงาน และใช้เวลาได้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สามารถนำไปติดตั้ง ใช้งาน และบริหารจัดการได้ด้วยเครื่องมือและกระบวนการที่องค์กรต่างๆ ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยฟีเจอร์ใหม่ทั้งหมดสามารถควบคุมได้โดยทีมไอทีขององค์กร และยังมาพร้อมกับการสนับสนุนผ่านโครงการ App Assure ซึ่งทีมไอทีสามารถเริ่มต้นทดสอบและเตรียมตัวใช้งานเครื่อง Copilot+ PC ได้แล้วในวันนี้
ยกระดับ Windows ทั้งแพลตฟอร์ม
สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง คือการที่ไมโครซอฟท์มุ่งพัฒนา Windows ให้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาต่อยอดโดยพันธมิตร
Copilot+ PC รุ่นแรกๆ จะเปิดตัวออกสู่ตลาดด้วยชิป Snapdragon® X Series และ Snapdragon® X Plus โดยจะมอบความคุ้มค่าสูงสุดในการใช้พลังงานด้วยระดับประสิทธิภาพเฉลี่ยต่อวัตต์ที่เหนือกว่า จากชิป Qualcomm Oryon™ CPU ที่ติดตั้งมาในตัว
อย่างไรก็ดี ยังคงสานต่อความร่วมมืออันใกล้ชิดที่มีกับทั้ง Intel และ AMD ต่อไปในอนาคต โดยเริ่มจากชิปในตระกูล Lunar Lake และ Strix เป็นต้นไป
โดยคาดว่าจะได้เห็นการเปิดตัวพีซีรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ชิปประมวลผลตระกูลนี้ควบคู่กับกราฟิกการ์ดตระกูล NVIDIA GeForce RTX และ AMD Radeon ในอนาคต เพื่อให้เกมเมอร์ ครีเอเตอร์ และผู้ใช้ทุกระดับสามารถเข้าถึงได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น
“วันนี้เรามาถึงจุดเปลี่ยนที่พีซีจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรม AI เชื่อว่าประสบการณ์ AI ที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทั้งระบบคลาวด์และดีไวซ์ทำงานผสานกับเป็นหนึ่งเดียว และเราก็กำลังทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อปูทางให้ Windows เป็นแพลตฟอร์มสำหรับนวัตกรรมแห่งทศวรรษหน้า”