‘ไมโครซอฟท์’ ลุยพัฒนา 'เครื่องมือ AI' ขยายศักยภาพนักพัฒนา
ส่องไฮไลต์ "Microsoft Build" งานประชุมใหญ่ประจำปีสำหรับนักพัฒนาของไมโครซอฟท์ ติดตามความก้าวหน้าอันน่าทึ่งของนวัตกรรม AI ที่กำลังเข้ามาขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายและต่อเนื่อง...
Frank X. Shaw ประธานฝ่ายสื่อสารองค์กร ไมโครซอฟท์ ให้ข้อมูลถึงงานสำคัญประจำปีสำหรับนักพัฒนาอย่าง "Microsoft Build" ปีนี้ว่า ทางไมโครซอฟท์ได้ประกาศก้าวต่อไปของการปฏิวัติทางเทคโนโลยีด้วย AI ซึ่งรวมไปถึง
- แพลตฟอร์ม Microsoft Fabric ที่จะเข้ามาช่วยนักพัฒนาและลูกค้าให้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่กำลังเคลื่อนที่หรือถูกรับส่งโดยระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ เพื่อนำมาสร้างแอปที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
- โมเดล AI ระดับแนวหน้าที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้ทดลองความสามารถในการทำงานกับสื่อหลายรูปแบบ เพื่อให้แอป AI รองรับทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และข้อมูลประเภทอื่นๆ ก้าวข้ามข้อจำกัดของการสั่งงานผ่านข้อความและการเติมเต็มผลงานตามคำสั่งของผู้ใช้
- ความร่วมมือที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคต รวมถึงภาคการศึกษา
- บทบาทของแพลตฟอร์มคลาวด์แบบเปิดและยืดหยุ่น ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ AI ที่มีความปลอดภัยและทำงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคม จนสามารถช่วยให้นักพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้
ตัดสินใจแบบทันทีด้วย Real-Time Intelligence
แอป AI จะมีประสิทธิภาพสูงสุดได้ก็ต่อเมื่อธุรกิจสามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ และจัดระเบียบข้อมูลได้นับตั้งแต่จุดที่รับเข้าสู่ระบบ ซึ่งนับว่าเป็นขั้นตอนที่ยากไม่น้อย คุณสมบัติใหม่อย่าง Real-Time Intelligence บนแพลตฟอร์ม Microsoft Fabric จะเข้ามาเป็นโซลูชัน Software-as-a-Service (SaaS) แบบครบวงจรที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการกับข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาล จำเป็นต้องนำมาใช้งานให้ทันเวลา และมีความละเอียดสูง เพื่อนำมาสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจให้รวดเร็วและชาญฉลาดยิ่งขึ้น
Real-Time Intelligence เปิดให้นักพัฒนาทดลองใช้งานในรุ่นพรีวิวแล้ววันนี้ โซลูชันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยวิธีการใช้งานแบบ low-code / no-code ที่เรียบง่าย ขณะที่นักพัฒนามืออาชีพที่ถนัดการเขียนโค้ดก็สามารถใช้ประโยชน์ได้เช่นกัน
ขยายขีดความสามารถ GitHub Copilot
GitHub เปิดตัวส่วนขยายชุดแรกสำหรับ GitHub Copilot ซึ่งพัฒนาโดยไมโครซอฟท์และเครือข่ายพาร์ทเนอร์ และเริ่มเปิดให้ใช้งานในรุ่นพรีวิวแบบจำกัดผู้ใช้ ส่วนขยายชุดแรกนี้ช่วยให้นักพัฒนาและองค์กรต่างๆ สามารถปรับแต่งประสบการณ์การใช้งาน GitHub Copilot ของตนเองด้วยบริการที่ต้องการ เช่น Azure, Docker, Sentry และอื่นๆ ได้โดยตรงภายใน GitHub Copilot Chat
GitHub Copilot for Azure เป็นหนึ่งในส่วนขยายจากไมโครซอฟท์ แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาแอปด้วยภาษามนุษย์ผ่านเครื่องมือที่มีความสามารถกว้างขวางมากขึ้น จะช่วยขับเคลื่อนความเร็วในการสร้างสรรค์แอปได้อย่างไร
โดยการใช้ส่วนขยายผ่าน Copilot Chat ทำให้นักพัฒนาสามารถสำรวจและจัดการทรัพยากรต่างๆ บนคลาวด์ Azure ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาและค้นหาบันทึกและโค้ดที่เกี่ยวข้อง
โมเดลล่าสุด มาพร้อมความสามารถในการประมวลผลหลายรูปแบบ พร้อมใช้งานบน Azure AI
GPT-4o ซึ่งเป็นโมเดลรุ่นใหม่ล่าสุดของ OpenAI เปิดใช้งานแล้ววันนี้ทั้งใน Azure AI Studio และในรูปแบบ API
นอกจากนี้ ยังเปิดตัว Phi-3-vision โมเดลแบบ multimodal จากตระกูล Phi-3 ซึ่งเป็นกลุ่มโมเดลภาษาขนาดเล็ก (small language models; SLMs) ที่พัฒนาโดยไมโครซอฟท์, ผนึก Khan Academy ใช้ AI เสริมพลังให้กับครูผู้สอน, ขยายเครือข่ายพาร์ทเนอร์ โดยการจับมือกับ Cognition AI
Copilot เปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ
ปีที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Microsoft Copilot และปล่อยอัปเดตใหม่ๆ ให้กับ Copilot มากกว่า 150 รายการ และยังได้พัฒนาชุดบริการ Copilot ที่ต่อยอดจากประสบการณ์ของเรา มาเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์ผู้ช่วยส่วนตัวของตนเองได้
นอกจากนี้ ในช่วงสองปีที่ผ่านมา GitHub Copilot ได้กลายเป็นเครื่องมือ AI สำหรับนักพัฒนาที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุด โดยมีสมาชิกใช้งานกว่า 1.8 ล้านคน
ล่าสุด ยังได้เปิดตัว Copilot+ PC พีซีรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทั้งรวดเร็วที่สุดและมาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ที่ติดตั้งมาในตัวเครื่องอย่างครบครันที่สุด
ก้าวต่อไปในวิวัฒนาการ Copilot
Copilot เป็นนวัตกรรมที่เข้ามาพลิกโฉมและเปลี่ยนแนวทางการทำงานของใครหลายคนนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรก โดยโมเดล AI และ LLM อย่าง GPT-4 ของ OpenAI ช่วยให้บริการ Copilot ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไมโครซอฟท์สามารถสนับสนุนการทำงานที่ซับซ้อนในหลากหลายสถานการณ์ และทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้ช่วย AI ส่วนตัวที่อยู่เบื้องหลังทุกคน
เพื่อต่อยอดความสามารถของ Copilot ไมโครซอฟท์ได้แนะนำคุณสมบัติใหม่ใน Microsoft Copilot Studio ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Copilot ที่ตอบสนองต่อข้อมูลและเหตุการณ์ต่างๆ ได้ด้วยตนเองตามเงื่อนไขและภารกิจที่กำหนดไว้ โดยไม่ต้องรอรับคำสั่งจากมนุษย์
นอกจากนี้ ส่วนขยายของ Copilot รวมถึงปลั๊กอินและตัวเชื่อมต่อต่างๆ ช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ Microsoft Copilot ได้ โดยการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลและแอปพลิเคชันใหม่ๆ เพื่อขยายฟังก์ชันการทำงานของระบบ