บันทึกสู่ความสำเร็จ

ดยเฉพาะความสำเร็จในแต่ละก้าวซึ่งสมควรบันทึกเอาไว้เพื่อเปิดโอกาสให้เรานำเอาประสบการณ์เหล่านั้นใช้ให้เป็นประโยชน์ในอนาคต

นอกเหนือจากเรื่องความสำเร็จแล้ว อีกข้อหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ความประทับใจหรือความพึงพอใจที่ได้ประสบมาในแต่ละวันหรือ Appreciation เพราะการที่เราประทับใจในสิ่งที่ผู้อื่นทำเพื่อตัวเราย่อมสร้างความรู้สึกดีให้เกิดขึ้นและเป็นพลังสำหรับก้าวต่อ ๆ ไปในวันหน้า

ความประทับใจแม้เพียงเล็กน้อยก็ย่อมมีความหมายเชิงบวกต่อชีวิตเราเสมอ บางครั้งการสนทนากับผู้อื่นสักสิบนาที หากมีสักสองนาทีที่เขาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นั่นก็เพียงพอที่จะช่วยให้เราได้พัฒนาตัวเองได้แล้ว การได้แสดงความขอบคุณเขาจึงเป็นสิ่งควรทำ

ความพึงพอใจที่ได้รับแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากเราสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้เกิดขึ้นตลอดก็ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกดีสะสมขึ้นทุกวัน ทุกอาทิตย์ ไปจนถึงทุกเดือน ทุกปี ซึ่งทำให้เราประสานงานกับผู้อื่นได้ดีขึ้นรวมถึงมีทัศนคติเชิงบวกที่ทำให้รับมือกับความกดดันที่มากขึ้นได้ด้วยเช่นกัน

ความสุขที่ได้รับสิ่งดี จากผู้อื่นไม่จำกัดว่าต้องเป็นเรื่องหน้าที่การงานเท่านั้น บางครั้งมีแม่บ้านช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้เราก็แสดงความขอบคุณเขาได้ หรือแม้กระทั่งการจราจรในบางวันที่ไม่ติดขัดจนทำให้เราไปถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็วก็ทำให้เรามีความสุขในจิตใจได้แล้ว

อีกข้อหนึ่งที่ควรจดบันทึกให้เป็นนิสัยคือ ความรู้ใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้มาจากผู้อื่น โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้เรามีมิติความคิดที่กว้างไกลมากขึ้น เพราะบางครั้งการทำงานที่ซ้ำเดิมอาจทำให้เราหมดความใฝ่รู้ลงไปเรื่อยๆ การได้มีมุมมองทางความคิดใหม่ๆ อาจทำให้เรามีความสุขในการทำงานมากขึ้น

และเช่นเดียวกันว่าแม้เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อย ๆ ก็อาจทำให้เราพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น เราจึงจำเป็นต้องเปิดสมองรับความรู้ใหม่ๆ เสมอเพื่อหาทางพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้จะทำงานที่จำเจก็ต้องหาแง่มุมให้ได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เสมอ

ข้อสุดท้ายคือ การบันทึกสิ่งที่ต้องทำในวัดถัดไป เพราะเมื่อเรามีความรู้ใหม่และมีพลังบวกที่ได้จากผู้คนรอบข้างแล้ว เราก็ย่อมมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนขึ้น จนอยากทำสิ่งใหม่ๆ มากมายเพื่อได้ลองทำสิ่งที่คิดว่าจะทำให้เรามีพัฒนาการที่มากขึ้น

ทั้งหมดต้องถูกจดบันทึกอย่างไม่หลงลืม เราจึงควรจดทุกอย่างลงไปให้หมดโดยไม่ต้องเสียเวลาจัดลำดับความสำคัญ เพราะหลังจากรวบรวมข้อมูลได้ทั้งหมดแล้วเราจะมองเห็นเองว่าอะไรสำคัญที่สุดอะไรควรทำก่อนทำหลัง

และที่สำคัญอาจไม่จำเป็นต้องทำตามที่จดไว้ทั้งหมด เพราะบางครั้งการเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุดสัก 3-5 ข้อแรกก็อาจยกระดับตัวเราในแต่ละวันได้มากพอแล้ว การจดบันทึกเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำ จึงเป็นการทำให้เรามีโอกาสพัฒนาตัวเองสู่ความสำเร็จที่ต้องการได้เร็วที่สุด

การรู้จักบันทึกทุกสิ่งรอบตัวเป็นการทำให้เราเห็นค่าในเรื่องต่างๆ แม้เพียงเล็กน้อย แต่เมื่อสะสมเข้าด้วยกันก็ไม่ต่างกับการเจียระไนตัวเองให้มีประกายเพื่อสะท้อนคุณค่าของตัวเองออกมาได้ชัดเจน แต่ก็มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะปรับตัวเข้าสู่เป้าหมายใหม่ๆ ได้เสมอ