'กนกกมล เลาหบูรณะกิจ’ ทัพหน้า ‘ฟูจิตสึ’ ดึง AI พัฒนา 'คน' เสริมแกร่งองค์กร

'กนกกมล เลาหบูรณะกิจ’  ทัพหน้า ‘ฟูจิตสึ’ ดึง AI  พัฒนา 'คน' เสริมแกร่งองค์กร

องค์กรธุรกิจต่างๆ ต้องการสร้างความได้เปรียบการแข่งขัน จึงหันมาใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มากขึ้น “กนกกมล เลาหบูรณะกิจ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพเรื่องนี้ พร้อมแนะปลดล็อกศักยภาพบุคลากรไทยด้วยกลยุทธ์การมีส่วนร่วมของพนักงาน

เนื่องจากองค์กรธุรกิจต่างๆ ต้องการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน จึงหันมาใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มากขึ้นในการปฏิวัติวิธีการมีปฏิสัมพันธ์กับพนักงาน

การสำรวจ Career Cushioning โดย Robert Walters Thailand บริษัทให้คำปรึกษาด้านการสรรหาบุคลากรระดับโลก พบว่า 78% ของพนักงานในประเทศไทย กำลังมีแผนสำรองในการมองหางานใหม่ แรงจูงใจที่ทำให้พนักงานเริ่มมองหางานใหม่ ได้แก่ ปัญหาวัฒนธรรมองค์กร (55%) ความพึงพอใจในงานที่ลดน้อยลง (20%) และความไม่มั่นคงในงาน (16%) การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยนำ AI มาประยุกต์ใช้ในมุมมองของพนักงาน จะไม่เพียงเพิ่มความพึงพอใจของพนักงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับประสบการณ์เสมือนเป็นลูกค้า และขับเคลื่อนความสำเร็จของธุรกิจโดยรวมไปด้วย

“กนกกมล เลาหบูรณะกิจ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพในเรื่องนี้ พร้อมแนะกุญแจดอกสำคัญ ปลดล็อกศักยภาพบุคลากรไทยด้วยกลยุทธ์การมีส่วนร่วมของพนักงาน

\'กนกกมล เลาหบูรณะกิจ’  ทัพหน้า ‘ฟูจิตสึ’ ดึง AI  พัฒนา \'คน\' เสริมแกร่งองค์กร

เสริมประสบการณ์พนง.อาวุธลับธุรกิจ

กนกกมล ขยายความว่า ประสบการณ์พนักงานครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่พนักงานเริ่มสนใจเข้าร่วมงานกับบริษัท จนถึงวันสุดท้ายของการทำงาน ไม่ใช่แค่เรื่องความคิดริเริ่มเพื่อสร้างความรู้สึกดีๆ เท่านั้น แต่เป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นอย่างยิ่ง

การวิจัยของ Gallup พิสูจน์ว่า พนักงานที่มีส่วนร่วม จะขับเคลื่อนรายได้ต่อหุ้นให้สูงขึ้นถึง 147% และกำไรเพิ่มขึ้น 21% การสร้างประสบการณ์พนักงาน จึงไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะพนักงานที่มีส่วนร่วมจะมีความยืดหยุ่น ปรับตัวได้ และพร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งยังเป็นกุญแจสำคัญก้าวข้ามความไม่แน่นอน นำพาความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

ความร่วมมือทรงพลัง AI กับ HR

กนกกมล ยังฉายภาพด้วยว่า AI และการวิเคราะห์ข้อมูลกำลังเปลี่ยนทุกอย่าง ตั้งแต่ธุรกิจการเงินไปจนถึงค้าปลีก และสถานที่ทำงานก็ไม่มีข้อยกเว้น สิ่งนี้ไม่ได้หมายความถึงการทำงานอัตโนมัติเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการปลดล็อกศักยภาพมนุษย์ เทคโนโลยี ทรัพยากรบุคคล และผู้นำธุรกิจต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างอนาคตของการทำงานใหม่ ด้วยการนำ AI มาช่วยเสริมพลังให้กับพนักงาน ทำให้กระบวนการต่าง ๆ มีประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์การทำงานที่มีส่วนร่วมและเติมเต็มได้มากยิ่งขึ้น

AI อนาคตของการมีส่วนร่วมของพนักงาน

ทั้งนี้ AI กำลังปฏิวัติกลยุทธ์การมีส่วนร่วมของพนักงานในหลายด้าน “กนกกมล” แนะวิธีการที่องค์กรสามารถใช้  AI ปฏิวัติประสบการณ์ของพนักงานได้ เช่น 1.เพื่อนเสมือนจริงที่อยู่เคียงข้างและช่วยเหลือได้เสมอ  ผู้ช่วยเสมือนจริงที่ขับเคลื่อนด้วย A Iสามารถตอบคำถามของพนักงาน แก้ไขปัญหา และให้การสนับสนุนทันที แม้จะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ช่วยให้พนักงานใหม่เรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็วด้วยคำแนะนำส่วนบุคคล ทำให้กระบวนการรับพนักงานใหม่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พนักงานจะได้รับคำตอบที่ต้องการทันที ไม่ต้องยุ่งยากกับการค้นหาจากระบบที่ซับซ้อน ทั้งช่วยลดเวลาการรอคอยและความหงุดหงิดได้อย่างมาก

2.ปลดล็อกศักยภาพการทำงาน  AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพการทำงาน และแนะนำโอกาสการฝึกอบรมและพัฒนาที่เหมาะสม สำหรับเส้นทางการเรียนรู้ส่วนบุคคลของพนักงานแต่ละคน นอกจากนี้ AI ยังให้ข้อเสนอแนะและการฝึกสอนแบบเรียลไทม์ไปในทางที่สร้างสรรค์ ช่วยให้พนักงานระบุพื้นที่สำหรับการปรับปรุง และบรรลุศักยภาพสูงสุดของตน รวมถึงทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมีอำนาจ โดยรู้ว่าการพัฒนาอาชีพของตนมีความสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของวัฒนธรรมองค์กร

3.ป้องกันก่อนที่จะเกิดการลาออก : AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลพนักงาน เพื่อระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดการลาออก ทำให้องค์กรสามารถเข้าแทรกแซงและแก้ไขข้อกังวลได้ล่วงหน้า ด้วยความคิดริเริ่มในการมีส่วนร่วมเฉพาะบุคคล

" AI สามารถแนะนำการดำเนินการที่มีเป้าหมายให้พนักงานที่มีความเสี่ยงสูงมีส่วนร่วมและมีแรงจูงใจ นอกจากนี้ ด้วยการจัดการเชิงรุกกับความต้องการของพนักงาน นับเป็นการสร้างวัฒนธรรมแห่งความภักดีและช่วยการรักษาพนักงานไว้กับองค์กร"

AI ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำงานอัตโนมัติเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานที่ทำงานที่เน้นไปที่ตัวพนักงานเป็นศูนย์กลาง การนำเอานวัตกรรมเหล่านี้ไปใช้ทำให้องค์กรสามารถปลดล็อกพลังของ AI เพื่อสร้างสถานที่ทำงานที่พนักงานมีส่วนร่วมและประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

กนกกมล บอกว่า การนำกลยุทธ์การมีส่วนร่วมของพนักงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้ สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมได้อย่างมาก โดยมีการศึกษาล่าสุด ที่เน้นถึงผลกระทบอย่างลึกซึ้งของ AI ต่อประสบการณ์ของพนักงาน (EX) เช่น Servion Global Solutions คาดการณ์ว่า ภายในปี 2025 การโต้ตอบกับลูกค้าจะขับเคลื่อนด้วย AI 95% ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การบริการลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พนักงานหลุดพ้นจากงานประจำด้วย

แนะโมเดลวัดผลพนักงาน

ขณะที่ เมื่อพูดถึงการประเมินผลพนักงาน “กนกกมล” แนะว่า การยกระดับประสบการณ์พนักงานในองค์กรเริ่มต้นด้วยข้อมูล สร้างโมเดลการวัดผลพนักงานที่แข็งแกร่ง เป็นรากฐานสร้างทีมงานที่มีส่วนร่วม และเติบโตเริ่มต้นได้จากข้อมูล โดยการฟังเสียงของพนักงานอย่างใส่ใจผ่านการสำรวจ การตรวจสอบสั้นๆ การให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเริ่มงาน และการสัมภาษณ์ก่อนออกจากงาน ซึ่งจะให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับความเข้าใจเชิงลึก ความรู้สึก และการมีส่วนร่วมของพนักงานในทุกขั้นตอนของเส้นทางการทำงาน วิเคราะห์ตัวชี้วัดต่างๆ

เช่น คะแนนผู้สนับสนุนของพนักงาน (Employee Net Promoter Score) ดัชนีความพึงพอใจ อัตราการลาออก และการขาดงาน เพื่อความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับ “สุขภาพของพนักงาน” ภายในองค์กร ปรับปรุงกระบวนการนี้ด้วยการติดตามแนวโน้มของการทำงานล่วงเวลาการเปรียบเทียบข้ามแผนก และข้อมูลประชากร การเปรียบเทียบกับมาตรฐานในอุตสาหกรรม และการรวมข้อมูลเชิงคุณภาพกับข้อมูลเชิงปริมาณ

“การประยุกต์ใช้กลยุทธ์นี้จะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างวัฒนธรรมที่เน้นพนักงานเป็นศูนย์กลาง และปลดล็อกศักยภาพของกำลังคนอย่างเต็มรูปแบบ”

‘ประสบการณ์พนง.’โอกาสความสำเร็จครั้งใหญ่ธุรกิจ

ขณะที่องค์กรพัฒนาต่อไป ความสนใจไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของลูกค้า แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ของพนักงานด้วย ซึ่งต้องการความสมดุลระหว่างสองเรื่องนี้ เพื่อช่วยให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเพื่อส่งเสริมประสบการณ์ของพนักงานให้แข็งแกร่ง องค์กรสามารถเร่งกระบวนการนี้ได้ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น

1.กระบวนการทำงานอัตโนมัติ เครื่องมืออัตโนมัติของกระบวนการช่วยทำให้งานประจำเป็นไปโดยอัตโนมัติ ปรับกระบวนการต่าง ๆ ให้คล่องตัวขึ้น และช่วยให้พนักงานมีเวลาและสมาธิในการมุ่งเน้นไปที่งานที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้

2.ความสามารถของเอเจนต์เสมือน  ด้วย AI ตัวแทนเสมือนจะให้คำตอบที่ชาญฉลาดอย่างทันทีต่อการสอบถามของพนักงาน ที่ช่วยปรับปรุงการสื่อสารและประสิทธิภาพ

3.วิเคราะห์การแบบพยากรณ์ แพลตฟอร์มใช้ Machine Learning ในการคาดการณ์และจัดการกับปัญหาของพนักงานก่อนที่จะลุกลาม

เป็นการส่งเสริมแนวทางเชิงรุกมากขึ้นในการบริหารจัดการพนักงาน เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการด้านทรัพยากรบุคคลเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจของพนักงานอย่างมีนัยยะ ด้วยการมอบสภาพแวดล้อมการทำงานที่ราบรื่นและตอบสนองได้ดีขึ้น

เอ็มดีหญิงของ ฟูจิตสึ สรุปส่งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า ยุคที่สงครามแย่งชิงผู้มีความสามารถทวีความเข้มข้นขึ้น การมอบประสบการณ์พนักงาน (EX) ที่ดีถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง องค์กรที่ผสานรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ "ประสบการณ์พนักงาน" และ "ประสบการณ์ของลูกค้า" (CX)  เข้าด้วยกัน มีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้มากกว่า 2.4 เท่า (Qualtrics)

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและตลาดที่รวดเร็ว ทำให้การลงทุนใน AI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์พนักงาน จึงมีความจำเป็น บริษัทต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์พนักงานที่ดีนั้น ไม่เพียงเติบโต แต่ยังปรับปรุงความพึงพอใจของพนักงานและความภักดีของลูกค้าได้ด้วย

“การนำAIมาใช้ ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมเท่านั้น ยังช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับธุรกิจได้อีกด้วย”