สภาฯผู้บริโภคบี้กสทช.ส่งรายงาน ดีล 'ทรูควบดีแทค' ติง 2 ปีไร้การกำกับเอกชน

สภาฯผู้บริโภคบี้กสทช.ส่งรายงาน ดีล 'ทรูควบดีแทค' ติง 2 ปีไร้การกำกับเอกชน

สภาองค์กรเพื่อผู้บริโภคฯ เล็งยื่นโนติสถึงกสทช. หลังดีลทรู-ดีแทค ทำประชาชนถูกลอยแพมากว่า 2 ปี ไม่เคยได้รับประโยชน์จากการรวมธุรกิจของค่ายมือถือ ระบุการขอลดมาตรการเยียวยาเหลือ 5 ปี ยังเอาเปรียบผู้บริโภค จวกสทช.เสือกระดาษไม่กล้าจัดการบ้านตัวเองปล่อย สนง.เกียร์ว่าง

นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากกระแสข่าวว่าการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ บอร์ดกสทช. ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2567 มีการเสนอวาระกาีประชุมเพื่อให้บอร์ดลงมติ กรณีที่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ภายหลังรวมกิจการกันแล้วเสร็จ

โดยทรูขอให้สำนักงาน กสทช. ทำเรื่องเสนอบอร์ดให้ลงมติลดระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการเยียวยาจาก 10 ปีเป็น 5 ปี นั้น สภาฯ อยากจะให้ความเห็นว่าปัจจุบันตลาดโทรคมนาคมก็เหลือผู้เล่นรายใหญ่เพียง 2 ราย ดัชนีการกระจุกตัวและถือว่าการควบรวมที่เกิดขึ้นทำให้ทรูและดีแทคถือเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด

และแม้บอร์ดกสทช.จะลงมติให้ตงแบรนด์ทรูและดีแทคไว้ 3 ปี ส่วนตัวไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์ใดกับผู้บริโภคเพราะเหมือนเป็นวาระกรรมที่เขียนไว้เท่านั้น เพราะอัตราค่าบริการ โปรโมชั่น แพคเก็จ และการจ่ายเงิน ช่องทางการจ่ายบิลก็เป็น ช้อปเดียวกันทั้งหมด

ดังนั้น ภายในสัปดาห์นี้ สภาฯ จะส่งหนังสือทวงถามความคืบหน้า (Notice) ให้กับบอร์ดกสทช. ทำรายงานการบังคับใช้มาตรการเฉพาะเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภายหลังการรวมธุรกิจระหว่างทั้งสองบริษัท หลังจากที่สภาฯ ควรจะต้องส่งรายงานมาภายใน 60 วันตั้งแต่เมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่เคยได้รับรายงานใดๆ ตอบกลับจากทางบอร์ดกสทช.หรือสำนักงาน กสทช.เลย

นายอิฐบูรณ์ เสริมว่า พบประเด็นที่สำคัญ คือ สำนักงาน กสทช. ต้องมีการปฎิรูปการพิจารณาการควบรวบธุรกิจใหม่ให้เป็นมาตรฐาน โดยอ้างอิงหลักเกณฑ์การพิจารณาตามกฎหมายในต่างประเทศที่จะต้องนำมาตรการไปจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ ประชาชน ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ที่ร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น 

อีกทั้ง ยังต้องมีการกำกับติดตามให้ทรูและดีแทคปฏิบัติตามข้อกังวลและเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะให้ครบถ้วนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคตามแนวทางของคณะกรรมการ กสทช. ที่กำหนดไว้หลังอนุญาตให้ควบรวมกิจการ

รองเลขาธิการสภาฯ กล่าวอีกว่า สภาฯอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ. การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภคพ.ศ. 2562 มาตรา 14 (3) ให้อำนาจสภาฯทำรายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำอันมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค ไปยังหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานอื่นที่รับผิดชอบและเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ แต่จนถึงขณะนี้ กสทช.ก็ไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งประเด็นตรงนี้ ตนอยากจะพุ่งเป้าไปที่สำนักงาน กสทช. เพราะเป็นเหมือนผู้รับผิดชอบตามมติที่บอร์ดกสทช.แต่จากทุกคนก็ทราบดี ปัญญาภายในขององค์กร ที่มีสำนักงาน กสทช. ทำตัวเป็นเพียงคนส่งสารไม่ใช่คนไปกำกับดูแล และทำตามมติบอร์ดอย่างเข้มงวดและจริงจัง

“ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากการกำกับดูแลของสำนักงาน กสทช. มันส่งผลทั้งต่อผู้บริโภคและประเทศชาติด้วย การไม่ดำเนินการเอาจริงจังปล่อยเวลาล่วงเลย 2 ปี ถือว่ากสทช.ขาดธรรมาภิบาลอย่างประจักษ์”

อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ เกิดปัญหาภายในองค์กร จากที่ปรากฏมีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ สทช. 1001/63 ลงวันที่ 20 ก.ค. 2566 และนำมาประกาศแจ้งเพื่อทราบอีกครั้งลงวันที่ 9 ธ.ค 2567 เรื่อง การปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจ แจ้งเลขาธิการ กสทช. เพื่อให้แจ้งพนักงานสำนักงาน กสทช. ทราบและถือปฏิบัติ โดยส่งจากประธาน ถึงกรรมการ กสทช.ทุกคน มีการย้ำชัดว่า สำนักงานต้องฟังคำสั่งของประธาน กสทช.แต่เพียงผู้เดียว หากกรรมการ กสทช. ท่านใดประสงค์จะให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการใด ๆ ขอให้ทำเป็นหนังสือถึงประธาน กสทช. เพื่อจะได้พิจารณามอบหมายตามสายบังคับบัญชาต่อไป สภาฯผู้บริโภคบี้กสทช.ส่งรายงาน ดีล \'ทรูควบดีแทค\' ติง 2 ปีไร้การกำกับเอกชน เรื่องดังกล่าว อาจจะเป็นมูลเหตุทำให้เกิดปัญหา ที่ประธาน กสทช.แทรกวาระ 4.23 เรื่อง รายงานการศึกษาเปรียบเทียบมาตรการเฉพาะกรณีการรวมธุรกิจ ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จากัด (มหาชน) และกรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จากัด และบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จากัด (มหาชน)  ขึ้นมาพิจารณาก่อน

โดยไม่ได้นำผลการศึกษามาเสนอในที่ประชุมแต่อย่างไร แต่กลับนำเอกสารขอยกเลิกเงื่อนไขมาตรการหลัง ควบรวมกิจการ ทรู-ดีแทค มาให้ กรรมการ กสทช. พิจารณาแทน ทั้งที่ วาระต้องพิจารณาเกือบ 40 วาระ แต่ที่ประชุมไม่สามารถพิจารณาได้เลยแม้แต่วาระเดียว มีเพียงเรื่องแจ้งเพื่อทราบเท่านั้น จนทำให้ กรรมการ กสทช.บางท่าน ไม่พอใจกับการรวบอำนาจของประธาน กสทช. จนเกิดความขัดแย้งภายในองค์กรแห่งนี้

ทว่า บอร์ดกสทช.ไม่ได้ติดใจที่จะนำวาระนี้ขึ้นมาก่อน แต่เนื้อหากลับไม่ได้เป็นไปตามวาระที่ตั้งหัวข้อไว้ เพราะกสทช.ตั้งใจพิจารณารายงานผลการศึกษาฯเพื่อลงความเห็นต่อหลังจากที่ประชุมครั้งที่ผ่านมาขอให้แก้ไขเนื้อหาผลการศึกษาและนำกลับมาเสนอใหม่ แต่สำนักงาน กสทช.ไม่ได้นำผลการศึกษามาเสนอในที่ประชุม แต่กลับนำเอกสารขอยกเลิกเงื่อนไขมาตรการหลังควบรวมกิจการทรู-ดีแทค มาให้กสทช.พิจารณาแทน

ทั้งที่ วาระต้องพิจารณาเกือบ 40 วาระ แต่ที่ประชุมไม่สามารถพิจารณาได้เลยแม้แต่วาระเดียว มีเพียงเรื่องแจ้งเพื่อทราบเท่านั้น จนทำให้ กรรมการ กสทช.บางท่าน ไม่พอใจกับการรวบอำนาจของประธาน กสทช. จนเกิดความขัดแย้งภายในองค์กรแห่งนี้ และไม่ได้ ทำงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและผู้รับใบอนุญาตอย่างที่ควรจะเป็น