Trumpkin แบรนด์ชีสวีแกนที่เปลี่ยนฟักทองให้เป็นชีสเพื่อสุขภาพ
Trumpkin Vegan Cheese เปลี่ยนเมล็ดฟักทองให้กลายเป็นชีสที่ทานแล้วลดการเกิดโรคอ้วน สตาร์ตอัปฟู้ดเทคที่ชนะรางวัลจากเวที Food Innopolis เตรียมพร้อมลุยตลาดแพลนท์เบสสู่ผู้บริโภคทั่วโลก
จากเทรนด์ “คนรักชีส (Cheese Lovers)” ที่นิยมบริโภคชีสกับอาหารหลาย ๆ ประเภท เช่น ในชาบู ในชานม ในขนมต่าง ๆ ซึ่งชีสที่ผลิตจากนมวัวหลายชนิดให้คอเลสเตอรอลที่ค่อนข้างสูง จึงเกิดการตั้งคำถามว่า หากบริโภคมากเกินไปจะเกิดผลเสี่ยงอะไรตามมา หรือจะทำอย่างไรให้บริโภคชีสโดยที่ไม่รู้สึกผิดกับสุขภาพของตนเอง?
ณัฏชนา เตี้ยมฉายพันธ์ CEO และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท พีบี ฟู้ดทอรี่ จำกัด แบรนด์ Trumpkin เล็งเห็นความสำคัญนี้ จึงพัฒนา “Trumpkin Vegan Cheese” ที่เปลี่ยนเมล็ดฟักทองให้กลายเป็นนวัตกรรมการรับประทานชีสเพื่อสุขภาพ หนึ่งในอาหารทางเลือกสำหรับผู้บริโภคในปัจจุบัน
การันตีรางวัลจากเวที Food Innopolis 2021 สองรางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศรุ่น Heavy Weight (บุคคลทั่วไป) และรางวัล Popular Vote และรางวัล Startup Winner Food Innovation Product Contest 2022 จาก Thaifex Anuga Taste Innovation Show
“จุดเริ่มต้นของการเข้ามาทำอาหารแพลนท์เบสคือ การอยากทำอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคไต โรคอ้วน และโรคหัวใจ จึงคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถผลิตอาหารที่ช่วยรักษาสุขภาพของคน”
ณัฏชนา เล่าเพิ่มเติมว่า ขณะนั้นก็มีกระแสของแพลนท์เบสเข้ามา พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน โดยกลุ่มของวีแกนใน 2 ปีที่ผ่านมามีอัตราผู้บริโภคที่เติบโตขึ้นถึง 600% ก็เลยเริ่มสนใจและศึกษาเรื่องวัตถุดิบที่เข้ามาทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ทานวีแกนเป็นประจำ ผู้ที่ทานวีแกนเป็นบางวัน ตลอดจนผู้ที่ต้องการควบคุมอาหาร
นอกจากกระแสของแพลนท์เบสแล้ว กระแสของผู้บริโภคชีสกับอาหารประเภทต่าง ๆ ก็สูงเช่นเดียวกัน ทว่า ก็มีหลายคนที่เกิดคำถามว่า “ทำอย่างไรให้การทานชีสแล้วไม่อ้วน” และเมื่อหันมาทานชีสวีแกนก็มักจะทำมาจากถั่วเหลือง หรือถั่วชนิดต่าง ๆ สำหรับบางคนอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ นอกจากนี้ บางชนิดก็มีส่วนผสมของน้ำมัน แป้ง สารปรุงแต่ง เกิดเป็นผลที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
“Trumpkin Vegan Cheese” หรือ “Vegan mozzarella cheese” จากเมล็ดฟักทองที่มีไฟเบอร์สูงจึงเป็นประโยชน์ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ Dairy free ที่ไม่มีส่วนผสมของนม ปราศจากคอเลสเตอรอลและสารก่อภูมิแพ้ 8 ชนิด ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนทานอาหาร Vegan ที่อาจขาดสารอาหารที่จำเป็น รวมถึงแก้ปัญหา Vegan cheese ทางเลือก ที่มีอยู่ในตลาดทั่วไปที่มักทำจากถั่วชนิดต่าง ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้
โดยนวัตกรรมชีสจากฟักทองเริ่มต้นจากการคัดเลือกเมล็ดฟักทองคุณภาพสูง นำไปผ่านกระบวนการก่อนส่งออกการผลิต ด้วยการสกัดออกมาเป็นน้ำนมเมล็ดฟักทองในอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อยังกักเก็บคุณค่าทางโภชนาการเอาไว้ในระดับสูง และดึงกลิ่นชีสด้วยเคล็ดลับเฉพาะของทางผลิตภัณฑ์
นอกจากวีแกนชีสจากเมล็ดฟักทองแล้ว Trumpkin ยังมีแผนในการเติบโตอีกมากมายเพื่อให้ครอบคลุมตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่ม Non-Diary โดยตั้งใจจะทำ Contract Farming กับเกษตรกรอินทรีย์ เพื่อกระจายรายได้และสร้างผลผลิตที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด
ซึ่งจากการสำรวจตลาด ผู้บริโภคมีความสนใจที่จะซื้อ Trumpkin Vegan Cheese สูงถึง 94% โดยจะเต็มใจจ่ายในราคา 210 บาท ในปริมาณ 150 กรัม ขณะนี้จดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย และกำลังจะออกผลิตภัณฑ์มาวางขายทั่วประเทศ
“ความท้าทายของอาหารแพลนท์เบสคือ คนอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องอาหารประเภทนี้ คนไม่เข้าใจว่าเรากินอาหารแพลนท์เบสไปเพื่ออะไร อาจจะเกิดการตั้งคำถามว่ามันแตกต่างกับอาหารเพื่อสุขภาพอื่น ๆ อย่างไร เช่น อาหารเจ หรือมังสวิรัส และในช่วงแรกก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง คนจึงไม่นิยมแพลนท์เบสเพราะมีคติว่า ทำไมเราจะต้องจ่ายค่าอาหารแพงขึ้น ให้กับโปรตีนที่มาจากพืช” ณัฏชนา กล่าวและเพิ่มเติมว่า
แพลนท์เบสฟู้ดส์ไม่ได้ส่งผลดีแค่สุขภาพของคนเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อโลกด้วย เพราะกระบวนการผลิตแพลนท์เบสฟู้ดส์ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 30 - 90% หากเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากสัตว์ จึงเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่สามารถปรับทางด้านการรับประทานอาหารที่เป็นจุดเริ่มต้นจุดแรกที่ช่วยโลกได้